จากประชาชาติธุรกิจ

พาดริก แฮร์ริงตัน แชมป์เมเจอร์ 3 สมัยจากไอร์แลนด์ คุ้นเคยกับมะเร็ง เพราะพ่อของเขาเสียชีวิตด้วยมะเร็ง และตัวเขาเองเป็นมะเร็ง

แฮร์ริงตันถอนตัวจากบริติช โอเพ่น 2005 เมื่อพ่อของเขาเสียชีวิตด้วยมะเร็งหลอดอาหาร และต่อมาเขารับเป็นผู้อุปถัมภ์ของมูลนิธิมะเร็งหลอดอาหารแห่งไอร์แลนด์

แฮร์ริงตัน วัย 42 ปี เปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่า เขารับการผ่าตัดขี้แมลงวัน (Sun Spot) หรือมะเร็งผิวหนังในระยะเริ่มแรก ออกจากใบหน้าหลายจุด

เขาบอกว่าเขาไม่ได้ละเลยการป้องกันมะเร็งผิวหนัง แต่มันอาจเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่เขาเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่น ซึ่งไม่ค่อยใส่ใจในเรื่องนี้

คำแนะนำจากแฮร์ริงตัน คือ เมื่อมีอะไรผิดปกติ อย่านิ่งเฉย ให้ทำอะไรซักอย่างเพื่อจัดการปัญหาโดยเร็ว

เขาบอกว่า การรักษามะเร็งเดี๋ยวนี้ดีกว่าเมื่อก่อน และผู้ป่วยแต่ละคนมีการตอบสนองที่แตกต่างกันต่อวิธีการรักษาแต่ละอย่าง การรักษามะเร็งจะง่ายขึ้น ถ้าเรารู้แต่เนิ่น ๆ และเริ่มการรักษาตั้งแต่มะเร็งเริ่มเกิด หรือมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง

การเปิดเผยว่าตัวเองเป็นมะเร็งของแฮร์ริงตัน ทำให้ยูโรเปี้ยน ทัวร์ จะเริ่มสำรวจเกี่ยวกับการเป็นมะเร็งผิวหนังของสมาชิก และประชาสัมพันธ์ให้นักกอล์ฟรู้ถึงอันตรายของมะเร็งผิวหนัง

นักกอล์ฟมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังเพราะกอล์ฟเป็นกีฬากลางแจ้งและมักจะเล่นกลางแสงแดด ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง

การเล่นกอล์ฟแต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ดังนั้นนักกอล์ฟจึงโดนแดดเป็นเวลานาน

นักกอล์ฟฝรั่งมักจะพูดว่า การเล่นกอล์ฟเหมือนกับการเดินตามตะวัน (Follow the Sun) แต่ดวงอาทิตย์และแสงแดดเป็นหนึ่งในต้นเหตุที่ทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง

ผู้ร้ายที่มากับแสงแดด คือ รังสีอัลตราไวโอเลต หรือ UV

ฝรั่งมีความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังมากกว่าชาวเอเชีย ด้วยเหตุผลด้านพันธุกรรม และชาวเอเชียชินกับแดดมากกว่าฝรั่ง

การวิจัยของฝรั่งพบว่า ผู้ชายมีโอกาสเป็นมะเร็งผิวหนังมากกว่าผู้หญิง และคนที่มีอายุ 40 ขึ้นไปมีความเสี่ยงมากกว่าคนที่มีอายุน้อยกว่านั้น

ผู้เชี่ยวชาญมีคำแนะนำสำหรับนักกอล์ฟในการป้องกันมะเร็งผิวหนัง

ออกรอบเช้าหน่อยในขณะที่แดดยังไม่จ้าหรือออกรอบเย็นหน่อยเมื่อแดดไม่ค่อยร้อนการเริ่มเล่นในตอนเย็นหรือบ่ายแก่ ๆ อาจไม่สะดวกเพราะจะมืดเสียก่อน ถ้านักกอล์ฟไม่สะดวกออกรอบในตอนเช้า ก็อาจเริ่มเล่นตอนบ่ายโมงหรือบ่ายโมงครึ่ง เพราะช่วงสุดท้ายจะมีแดดน้อย

นักกอล์ฟควรสวมเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว ซึ่งป้องกันไม่ให้ผิวหนังรับแดดโดยตรง

นักกอล์ฟควรสวมหมวกและแว่นกันแดด และควรจะแน่ใจว่าแว่นกันแดดเป็นแบบป้องกันรังสียูวีได้ กรณีนี้คงไม่ใช่ปัญหาเพราะแว่นกันแดดยี่ห้อดังทำมาเพื่อกันแดดและรังสียูวีอยู่แล้ว

หลบในที่ร่มเมื่อเป็นไปได้เช่นเข้าไปอยู่ใต้ต้นไม้ หรือให้แคดดี้กางร่มให้ ในขณะที่รอคนอื่นตี นักกอล์ฟอาจใช้รถกอล์ฟซึ่งป้องกันแดดได้เพราะว่ามีหลังคา

สิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญฝรั่งเน้นมาก คือต้องทาครีมกันแดด ซึ่งควรจะมีค่าป้องกันแดด (SPF) ไม่น้อยกว่า 30 และทาซ้ำหลังจากเล่นไปได้ 9 หลุม หรือ 2 ชั่วโมง

เรื่องเหล่านี้นักกอล์ฟคงรู้อยู่แล้ว แต่อาจละเลยเพราะคิดว่าไม่เป็นไร หรือลืม

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน