จาก โพสต์ทูเดย์
บัญชีเงินฝากเป็นสิ่งที่ผู้คนส่วนมากมีไว้ในครอบครอง เพราะนอกจากจะได้รับความอุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัยของธนาคารและการประกันการคืนเงินส่วนหนึ่งในกรณีที่ธนาคารโดนปล้นหรือล้มละลายแล้ว ยังทำให้ได้ดอกเบี้ย ซึ่งดีกว่าการมาเก็บเงินสดไว้ในตู้เซฟเฉยๆ
แต่กระนั้น ใช่ว่าบัญชีเงินฝากจะดีเสมอไป เพราะอัตราดดอกเบี้ยที่ได้จากเงินฝากนั้นไม่เท่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นทุกวัน อัตราเงินเฟ้อคือตัวที่จะกำหนดค่าของเงินในประเทศ ยิ่งเงินเฟ้อสูง นั่นหมายความว่าค่าของเงินยิ่งลด เช่น สมัยก่อนซื้อบะหมี่ชามละ 20 บาท แต่สมัยนี้ต้องซื้อชามละ 35 บาท ราคาที่ขึ้นเป็นผลจากอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งทุกประเทศล้วนมีอัตราเงินเฟ้อซึ่งเป็นผลมาจากการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งอัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยในปี 2557 อยู่ที่ร้อยละ 2.18
ดังนั้น เมื่ออัตราดอกเบี้ยของเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไปในปัจจุบันนั้นอยู่ที่ประมาณร้อยละ 0.6 ซึ่งต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ จึงหมายความว่าการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ทำให้เงินของคุณลดลงหากวัดเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ ในทางกลับกัน บัญชีเงินฝากประจำ 1 หรือ 2 ปี อาจมีโปรโมชั่นดอกเบี้ยเงินฝากที่ร้อยละ 3 หรือมากกว่า ทำให้บัญชีเงินฝากประจำอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า แต่ก็เพิ่มความเสี่ยง เช่น ในกรณีที่คุณเกิดอุบัติเหตุและต้องการใช้เงินฉุกเฉิน หากคุณถอนเงินออกจากบัญชีก็จะทำให้ไม่ได้รับดอกเบี้ย และถึงแม้คุณจะสามารถฝากเงินได้ครบตามจำนวนปี แต่ถ้ามีทางเลือกอื่นๆ ในตลาดการลงทุนที่คุณสามารถทำเงินจากเงินฝากได้เยอะกว่าและอาจคุ้มค่ากว่า คุณก็จะพลาดโอกาสนั้นๆ ไป สำหรับตัวอย่างทางเลือกอื่นๆ ในตลาดการลงทุนมีดังนี้
กองทุน
กองทุนโดยปกติแล้วมักมีผลตอบแทนที่สูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากประจำ แต่ผลตอบแทนก็มักถูกผูกกับสภาวะเศรษฐกิจทำให้มีความเสี่ยงที่จะขาดทุนได้เช่นกัน แต่กองทุนมีหลากหลายประเภทตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำไปจนถึงความเสี่ยงสูง กองทุนอย่างกองทุนตราสารหนี้ถือเป็นกองทุนที่ความเสี่ยงต่ำจนแทบเป็นศูนย์ แต่อัตราผลตอบแทนก็อยู่ที่ร้อยละ 1.7 มากกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์แต่น้อยกว่าบัญชีเงินฝากประจำ ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ความเสี่ยงต่ำพอกับบัญชีเงินฝากออมทรัพย์อยู่ที่ร้อยละ 2.56 กองทุนบางตัวความเสี่ยงสูงกว่าแต่อัตราผลตอบแทนอาจสูงถึงร้อยละ 6 ซึ่งคุณสามารถเลือกลงทุนได้ตามความต้องการ แต่ต้องจำไว้เสมอว่า “High Risk High Return”
ตราสารหนี้ภาคเอกชน
ทางเลือกนี้ อาจทำให้เงินคุณจมอยู่ประมาณ 5 – 7 ปี แต่เมื่อเทียบกับผลตอบแทนปีละร้อยละ 4 ถึง 5 นั้นก็นับว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ แต่คุณอาจต้องมีเงินทุนที่เยอะพอสมควรจึงจะสามารถซื้อตราสารหนี้ได้ ซึ่งตราสารหนี้ภาคเอกชนนั้นจะมีผลตอบแทนซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเฟ้อแน่นอน อัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยในช่วงระยะสามปีหลังอยู่ที่ราวร้อยละ 2 – 3 ต่อปี แต่ก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนในตราสารหนี้ใดๆ คุณก็ควรศึกษาให้รอบคอบ เพราะตราสารหนี้ มีอีกชื่อหนึ่งก็คือ ‘หุ้นกู้’ ซึ่งหลักการณ์ของหุ้นกู้ก็คือการขอกู้ยืมเงินของบริษัทเอกชนจากประชาชนและนักลงทุนต่างๆ ดังนั้น คุณควรศึกษาข้อมูลบริษัทผู้ออกตราสารหนี้ให้ดีว่าเป็นบริษัทที่น่าเชื่อถือ ผลประกอบการดี และมีแนวโน้มว่าจะมีการเติบโตสูงในอนาคตอันใกล้หรือไม่ก่อนตัดสินใจลงทุน
การลงทุนในทอง
ทอง ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกซึ่งผลตอบแทนสูงและน่าสนใจ เพราะมูลค่าของทองไม่ได้ลดลงเหมือนมูลค่าของเงินตรากระดาษ ทองนับเป็นสิ่งที่สามารถรักษามูลค่าของเงินได้ดีที่สุดเพราะอัตราเงินเฟ้อมักขึ้นตามราคา commodities ส่วนทองมักมีมูลค่าเพิ่มในระยะยาว เพราะฉะนั้นการเก็บทองก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดี
การซื้อประกัน
การซื้อประกัน ก็นับเป็นการลงทุนที่ดี แม้ว่าจะไม่ได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ยแต่ก็ช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุหรือเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน และประกันบางชนิดเมื่อครบระยะเวลาที่กำหนดคุณก็จะได้รับเงินคืน เปรียบเสมือนการออมทรัพย์และทำประกันระยะยาว เรียกว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลยทีเดียว
คุณจะเห็นได้ว่า มีทางเลือกมากมายในตลาดการเงินในปัจจุบันให้คุณเลือกลงทุนหรือออมเงิน ซึ่งทางเลือกที่เหมาะสมกับตัวคุณที่สุดคือทางเลือกใดนั้น คุณต้องพิจารณาด้วยตนเอง
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน