สำนักงานภูมิภาคของบริษัทข้ามชาติ
โดย : สุเทพ พงษ์พิทักษ์
จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ขอนำประเด็นสำนักงานภูมิภาคของบริษัทข้ามชาติตามประกาศกรมสรรพากร เรื่อง ภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม
สำหรับสำนักงานภูมิภาคของบริษัทข้ามชาติที่กระทำ กิจการในประเทศไทย ลงวันที่ 25 สิงหาคม 2535 ซึ่งกรมสรรพากรได้ชี้แจงประเด็นภาระและหน้าที่ในการเสียภาษีอากรของสำนักงานภูมิภาค และผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในสำนักงานดังกล่าว มาเป็นประเด็นปุจฉา – วิสัชนา ดังนี้
ปุจฉา คำว่า “สำนักงานภูมิภาค” หมายความว่าอย่างไร
วิสัชนา คำว่า “สำนักงานภูมิภาค” หมายความว่า สำนักงานภูมิภาคที่บริษัทข้ามชาติตั้งขึ้นในประเทศอื่นนอกจากประเทศที่จดทะเบียนเป็นสำนักงานใหญ่ โดยไม่ต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายของประเทศที่เข้าไปจัดตั้ง เพื่อทำหน้าที่ติดต่อประสานงานและกำกับการดำเนินงานของสาขาและหรือบริษัทในเครือที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกันแทนสำนักงานใหญ่ โดยไม่มีรายได้จากการประกอบกิจการ ไม่มีอำนาจรับคำสั่งซื้อหรือเสนอขายหรือเจรจาทำธุรกิจกับบุคคลหรือนิติบุคคลในประเทศที่เข้าไปตั้ง และใช้เงินค่าใช้จ่ายในสำนักงานภูมิภาคที่ได้รับจากสำนักงานใหญ่เท่านั้น
ปุจฉา คำว่า “บริษัทในเครือ” หมายความว่าอย่างไร
วิสัชนา คำว่า “บริษัทในเครือ” หมายความว่า บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตั้งแต่สองนิติบุคคลขึ้นไปซึ่งมีความสัมพันธ์กันในลักษณะตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร ดังต่อไปนี้
1. ผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนเกินกว่ากึ่งจำนวนผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนในนิติบุคคลหนึ่งเป็นผู้ถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนเกินกว่ากึ่งจำนวนผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนในอีกนิติบุคคลหนึ่ง
2. ผู้ถือหุ้นหรือผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนในนิติบุคคลหนึ่งมีมูลค่าเกินกว่าร้อยละห้าสิบของทุนทั้งหมดถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนในอีกนิติบุคคลหนึ่งที่มีมูลค่าเกินกว่าร้อยละห้าสิบของทุนทั้งหมด
3. นิติบุคคลหนึ่งถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนในอีกนิติบุคคลหนึ่งเกินกว่าร้อยละห้าสิบของทุนทั้งหมด หรือ
4. บุคคลเกินกว่ากึ่งจำนวนกรรมการหรือผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งมีอำนาจจัดการในนิติบุคคลหนึ่งเป็นกรรมการหรือเป็นผู้เป็นหุ้นส่วนซึ่งมีอำนาจจัดการในอีกนิติบุคคลหนึ่ง
ปุจฉา กรณีสำนักงานภูมิภาคที่กระทำกิจการในประเทศไทยให้บริการต่างๆ แก่สำนักงานใหญ่ เพื่อทำหน้าที่ติดต่อประสานงานและกำกับการดำเนินงานของสาขาและหรือบริษัทในเครือที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกันแทนสำนักงานใหญ่ โดยมิได้ให้บริการแก่ผู้อื่นเลยและสำนักงานภูมิภาคดังกล่าวได้รับเงินอุดหนุนจากสำนักงานใหญ่เฉพาะเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของสำนักงานภูมิภาคที่กระทำกิจการในประเทศไทยเท่านั้น สำนักงานภูมิภาคมีภาระภาษีทั้งกรณีภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างไร
วิสัชนา กรณีสำนักงานภูมิภาคที่กระทำกิจการในประเทศไทยให้บริการต่างๆ แก่สำนักงานใหญ่ เพื่อทำหน้าที่ติดต่อประสานงานและกำกับการดำเนินงานของสาขาและหรือบริษัทในเครือที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกันแทนสำนักงานใหญ่ โดยมิได้ให้บริการแก่ผู้อื่นเลยและสำนักงานภูมิภาคดังกล่าวได้รับเงินอุดหนุนจากสำนักงานใหญ่เฉพาะเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายของสำนักงานภูมิภาคที่กระทำกิจการในประเทศไทยเท่านั้น เงินได้ที่สำนักงานภูมิภาคดังกล่าวที่กระทำกิจการในประเทศได้รับจากสำนักงานใหญ่ไม่ถือเป็นรายได้ที่จะต้องนำมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล และไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มแต่ประการใด แต่ยังคงมีหน้าที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลแม้ว่าสำนักงานภูมิภาคจะไม่มีรายได้ที่ต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลก็ตาม
ปุจฉา กรณีสำนักงานภูมิภาคที่กระทำกิจการในประเทศไทย ได้ให้บริการแก่ผู้อื่นหรือบริษัทในเครือ จะมีภาระภาษีอากรอย่างไร
วิสัชนา ตามกรณีดังกล่าว ไม่ว่าการให้บริการนั้นจะมีค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม ถือว่าสำนักงานภูมิภาคมีหน้าที่ต้องนำรายได้ที่ได้รับจากการให้บริการทุกประเภทมารวมคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร และกรณีดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นบริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 (1) แห่งประมวลรัษฎากร สำนักงานภูมิภาคจะต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ที่ว่าการอำเภอท้องที่หรือสำนักงานสรรพากรเขตพื้นที่ที่สำนักงานภูมิภาคที่กระทำกิจการในประเทศไทยมีสถานประกอบการตั้งอยู่ ก่อนวันเริ่มประกอบกิจการหรือภายใน 30 วันนับแต่วันที่มูลค่าของฐานภาษีในการประกอบกิจการเกิน 600,000 บาทต่อปีอย่างไรก็ตามหากการบริการของสำนักงานภูมิภาคดังกล่าวมีมูลค่าของฐานภาษีไม่เกิน 600,000 บาทต่อปี ก็ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 81/1 แห่งประมวลรัษฎากร
พบกันใหม่สัปดาห์หน้าครับ
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน