จากประชาชาติธุรกิจ
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า เร็ว ๆ นี้ กรมฯ จะนำระบบไอทีที่มีอยู่แล้วมาใช้ เพื่อให้สำนักงานบัญชีและผู้สอบบัญชีได้กรอกข้อมูลตามหัวข้อต่าง ๆ (criteria) ที่มีกำหนดไว้ เพื่อเข้าสู่การจัดเก็บของฐานข้อมูลของกรมฯ และหากมีข้อมูลของนิติบุคคลรายใดที่ผิดปกติ ในแต่ละหัวข้อ เช่น แสดงค่าใช้จ่ายไม่ตรงตามข้อเท็จจริง, ยอดขายไม่ตรงกับยอดสินค้าคงค้าง ฯลฯ ระบบคอมพิวเตอร์จะแสดงผลออกมา แล้วสรรพากรพื้นที่ก็จะไปตรวจสอบนิติบุคคลรายนั้น ๆ พร้อมกับตรวจสอบไปถึงสำนักงานบัญชี ผู้สอบบัญชี และลูกค้ารายอื่น ๆ ของสำนักงานบัญชีนั้น ๆ ด้วย
"นิติบุคคลใดทำไม่ถูกต้อง สรรพากรจะไปเยี่ยมบ่อย ๆ รวมถึงไปเยี่ยมที่สำนักงานบัญชีผู้สอบบัญชีให้ด้วย แต่ถ้าท่านเป็นสำนักงานบัญชีที่ทำถูกต้องอยู่แล้ว สิ่งที่จะไม่มีปัญหา ไม่ต้องมาทำงานให้วุ่นวายในช่วงยื่นแบบ ส.ค."
อีกทั้งยังได้แก้ระเบียบกรมสรรพากรให้สรรพากรภาคสุ่มตรวจย้อนหลังได้ ซึ่งเป็นกระบวนการการทำงานให้เกิดการตรวจสอบถ่วงดุล ซึ่งหากสรรพากรภาคตรวจสอบพบว่านิติบุคคลทำไม่ถูกจริง ก็สามารถเรียกเก็บเบี้ยปรับเพิ่มได้ ซึ่งระเบียบใหม่นี้จะน่าประกาศใช้ในเดือน ก.ค.นี้
นอกจากนี้ ยังเสนอ คสช. ให้ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีกหลายตัวเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมและความสะดวก เช่น การตั้งคณะบุคคล ต้องให้แยกการแสดงรายได้ ส่วนที่ตั้งมาแล้วก็ตั้งได้ แต่ต้องแยกรายได้ให้ชัดเจน
ทั้งนี้ กรมสรรพากรได้จัดการประชุมสัมมนาการสร้างความร่วมมือระหว่างกรมสรรพากรกับสำนักงานบัญชีในวันที่ 30 ก.ค. โดยมีผู้ตรวจสอบบัญชี สำนักงานบัญชีกว่า 700 คนเข้าร่วมงาน
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน