จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
"ศ.นพ.เกษม" องคมนตรี แนะทุกฝ่ายน้อมนำพระราชดำรัสในหลวง 3 ประการ กุญแจปฎิรูปการศึกษา
องคมนตรี แนะทุกฝ่ายน้อมนำพระราชดำรัสในหลวง 3 ประการ ครูรักเด็กเด็กรักครู สอนให้เด็กมีน้ำใจต่อเพื่อน แข่งกับตัวเอง จัดกิจกรรมให้เด็กทำร่วมกัน ย้ำอยากให้ทุกคนเสียสละยกกระดับการศึกษาไทยให้เข้มแข็งแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ กุญแจปฎิรูปการศึกษาของไทยมุ่งกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนปรับเปลี่ยนแนวทางในการพัฒนาการศึกษา เน้นพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับเด็ก
ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ศูนย์จิตวิทยาการศึกษา จัดงาน กุญแจในการปฎิรูปการศึกษา The Key of Educatiomn Reform" โดยมี ศ.นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งว่า ขณะนี้ประเทศไทยต้องเลือกเส้นทางว่าจะไปทางไหน เพื่อปรับปรุงเปลี่ยนแปลงประเทศ เพื่อให้สู้และแข่งขันกับประเทศอื่นได้อย่าง มีศักด์ศรี โดย 6-7 เดือนที่ผ่านมา ได้มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในประเทศมากมาย ซึ่งตนจะไม่พูดถึงการเปลี่ยนแปลงทางรัฐสภา เพราะว่ามีผู้รับผิดชอบอีกฝ่ายอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จะพูดถึงคือความเป็นห่วงเป็นใยการศึกษาไทย การปฏิรูปการศึกษา จึงได้มีการจัดตั้ง มูลนิธิยุวสถิรกุล แปลว่า มูลนิธิที่มีเจตนาบริสุทธิ์ ต้องการให้เด็กไทยมั่นคงในความดี รู้จักถูกผิด ชั่วดี กล้าหาญที่จะยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง กล้าหาญปฏิเสธความไม่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่จะทำให้บ้านเมืองเราก้าวไปสู่เส้นทางที่ถูกต้อง
องคมนตรี กล่าวต่อว่าในปี2555 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดตั้งเป็นกองทุนการศึกษา โดยมีพระราชประสงค์ให้โรงเรียนสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง สร้างความพร้อมและนำความดีเข้าโรงเรียน ขณะนี้ดำเนินการเป็นปีที่ 3 พบความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในโรงเรียนที่เข้าโครงการมากมาย โดยเฉพาะพฤติกรรมไม่ดีลดลง พฤติกรรมที่ดีเพิ่มขึ้น ที่สำคัญพบว่า คะแนนการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน หรือโอเน็ตของโรงเรียนดีขึ้นยกแผงทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ใช่แค่เด็กเก่ง 5 เปอร์เซ็นต์ โดยได้พระราชทานหลักในการทำงาน 3 ประการ ซึ่งเป็นหัวใจของการศึกษา คือ 1. ทำอย่างไรให้ครูรักเด็ก และให้เด็กรักครูให้ได้ เพราะถ้าอาจารย์หรือครู รักนักศึกษารักเด็ก อาจารย์จะทุ่มเทการสอนและการอบรมนักศึกษานักเรียน ขณะเดียวกันถ้านักศึกษานักเรียนรักเคารพครู อาจารย์จะทำให้การเรียนเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ 2. ให้ครูสอนเด็กให้มีน้ำใจกับเพื่อน ครูไม่ควรจะยั่วยุให้เด็กแข่งได้ที่ 1 หรือที่2 ในชั้นเรียนแต่เด็กต้องแข่งกับตัวเอง เด็กที่เรียนเก่งควรติวให้เพื่อนที่เรียนช้ากว่า ซึ่งจากการสอบการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติขั้นพื้นฐาน (โอเน็ต)มา 9 ปี ทุกวิชามีเด็กประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ สอบได้100 คะแนน แต่ส่วนเด็ก 95 เปอร์เซ็นต์สอบได้ 30-40 คะแนนเท่านั้น ระบบการศึกษาต้องถามว่าอยากให้เด็กไทยเก่งทั้งประเทศ หรือเด็กไทยเก่งเพียง 5 เปอร์เซ็นต์
"และ 3.ให้ครูจัดกิจกรรมให้เด็กทำเป็นหมู่คณะ เพื่อให้เด็กไทยเห็นคุณค่าของความสามัคคี เพราะที่ผ่านมา ประเทศไทยเสียความสามัคคีก่อนเสียบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม อยากขอให้ทุกคนช่วยกันดำเนินการตามพระราชกระแสฯ เกี่ยวกับการปฎิรูปการศึกษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่ง สามารถใช้ได้ในทุกระดับ ทั้งนี้ รัชกาลที่ 5 ทรงตรัสว่าความรู้และคุณธรรมต้องเป็นเรื่องเดียวกัน แต่ที่ผ่านมาระบบการศึกษาเสียเพราะไปแยกความรู้และคุณธรรมออกจากกัน ทำให้เกิดเรื่องราวด้านการศึกษามากมาย ขณะนี้ถึงเวลาที่เราต้องรักษาแผลต่างๆที่เกิดขึ้น และขอให้ทุกคนเสียสละเพื่อบ้านเมืองโดยยกระดับการศึกษาไทยให้เข้มแข็งแบบ 100 เปอร์เซ็นต์ " องคมนตรี กล่าว
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ผู้อำนวยการศูนย์จิตวิทยาการศึกษา มูลนิธิยุวสถิรคุณ กล่าวว่าจากการถอดบทเรียนการปฎิรูปการศึกษาในประเทศต่างๆ ที่มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาดีจากทั่วโลก เช่น ฟินแลนด์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ จีน- เซี่ยงไฮ้ พบว่าทุกประเทศแล้วให้ความเห็นด้านการศึกษามากมาย และมีผู้หวังดีจำนวนมากเข้ามาแนะนำการศึกษาไทย แต่ประเทศไทยเองกลับไม่มีทิศทางด้านการศึกษา ซึ่งหากไทยไม่มีทิศทางข้อแนะของผู้หวังดีก็จะทำให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี ดังนั้น กุญแจในการปฎิรูปการศึกษาต้องมุ่งกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนปรับเปลี่ยนแนวทางในการพัฒนาการศึกษา โดยใช้หลักจิตวิทยาเพื่อพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครูกับเด็ก ซึ่งเป็นหัวใจของการศึกษาตามแนวพระราชกระแสฯ ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสอดคล้องกับงานวิจัยด้านการศึกษาระดับโลก เพื่อให้สาธารณชนเกิดความเชื่อมั่นในครูและระบบการศึกษาของไทย
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน