จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
เปิดพรฏ.เงินประจําตําแหน่งฯ-เบี้ยประชุม คสช., สนช., สปช.,กมธ.ยกร่างรธน., สิทธิประโยชน์อื้อ
เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกา เงินประจําตําแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอื่น ของผู้ดํารงตําแหน่งตามรัฐธรรมนูญบางตําแหน่งพ.ศ.2557
โดยที่เป็นการสมควรกําหนดเงินประจําตําแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้ดํารงตําแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติ คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คณะกรรมาธิการและคณะอนุกรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาปฏิรูปแห่งชาติ และคณะอนุกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 22 และมาตรา 40 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ดังต่อไปนี้
มาตรา1 พระราชกฤษฎีกานี้เรียกว่า “พระราชกฤษฎีกาเงินประจําตําแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้ดํารงตําแหน่งตามรัฐธรรมนูญบางตําแหน่ง พ.ศ.2557”
มาตรา 2 พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
มาตรา3 ให้ผู้ดํารงตําแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้รับเงินประจําตําแหน่งและเงินเพิ่มเป็นรายเดือน ตามบัญชีอัตราเงินประจําตําแหน่งและเงินเพิ่มท้ายพระราชกฤษฎีกานี้นับแต่วันที่ดํารงตําแหน่งแต่ไม่ก่อนวันที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ใช้ให้ผู้ดํารงตําแหน่งในสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสภาปฏิรูปแห่งชาติได้รับเงินประจําตําแหน่งและเงินเพิ่มเป็นรายเดือน ตามบัญชีอัตราเงินประจําตําแหน่งและเงินเพิ่มท้ายพระราชกฤษฎีกานี้นับแต่วันที่มีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่ง แต่สมาชิกผู้ใดไม่มาประชุมเกินก่ึงหนึ่งของกําหนดนัดประชุมในแต่ละเดือน ไม่มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มเป็นรายเดือนสําหรับเดือนนั้น เว้นแต่กรณีไม่มาประชุมเพราะเหตุไปราชการของสภาโดยได้รับอนุญาตจากประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิกอยู่ผู้ดํารงตําแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติซึ่งเป็นข้าราชการและมีเงินเดือนประจําอยู่แล้วถ้าไปดํารงตําแหน่งข้าราชการการเมืองด้วย ผู้นั้นไม่มีสิทธิได้รับเงินเดือนในตําแหน่งข้าราชการการเมืองอีก
มาตรา 4 ให้กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้รับค่าตอบแทนเป็นเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งๆ ละหกพันบาท สําหรับผู้ทําหน้าที่ประธานให้ได้รับเบี้ยประชุมเพิ่มขึ้นอีกสามพันบาท วันใดมีการประชุมหลายครั้งให้ได้รับเบี้ยประชุมเพียงครั้งเดียวกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญหรือผู้ทําหน้าที่ประธานซึ่งมิได้เป็นผู้ดํารงตําแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสภาปฏิรูปแห่งชาติ ให้ได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นอีกร้อยละห้าสิบของค่าตอบแทนที่พึงได้รับตามวรรคหนึ่ง
มาตรา 5 ให้กรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติและกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งๆ ละหนึ่งพันห้าร้อยบาทให้อนุกรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อนุกรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติและอนุกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้ง ๆ ละแปดร้อยบาทกรรมาธิการตามวรรคหนึ่งและอนุกรรมาธิการตามวรรคสอง ให้ได้รับเบี้ยประชุมเพียงครั้งเดียวในวันหนึ่ง เว้นแต่กรณีที่กรรมาธิการหรืออนุกรรมาธิการนั้นมีการประชุมในคณะกรรมาธิการหรือคณะอนุกรรมาธิการคณะอื่นด้วยในวันเดียวกัน ให้ได้รับเบี้ยประชุมในวันนั้นไม่เกินสองคณะให้ผู้ช่วยเลขานุการคนหนึ่งในคณะกรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติหรือสภาปฏิรูปแห่งชาติและในกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญซึ่งแต่งตั้งจากข้าราชการรัฐสภาสามัญได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้งๆ ละหนึ่งพันบาท แต่ในกรณีที่กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญแต่งตั้งผู้ช่วยเลขานุการจากบุคคลซึ่งมิได้เป็นข้าราชการรัฐสภาเพิ่มขึ้น ก็ให้ผู้ช่วยเลขานุการดังกล่าวไม่เกินสองคนได้รับเบี้ยประชุมเป็นรายครั้ง ๆ ละหนึ่งพันบาทด้วย
มาตรา6 ให้สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติมีสิทธิได้รับค่าพาหนะในการเดินทางเช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามพระราชกฤษฎีกาเงินประจําตําแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานและรองประธานวุฒิสภาผู้นําฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และกรรมาธิการ พ.ศ. ๒๕๕๕โดยให้มีสิทธิเดินทางครั้งแรกเมื่อมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่ง
มาตรา7 ให้กรรมาธิการของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ กรรมาธิการของสภาปฏิรูปแห่งชาติและกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งต้องเดินทางไปราชการภายในราชอาณาจักร นอกจังหวัดอันเป็นที่ตั้งอาคารรัฐสภาเพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามมติของคณะกรรมาธิการ ได้รับค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการนั้นและให้นําพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการมาใช้บังคับโดยอนุโลม โดยให้มีสิทธิได้รับในอัตราเดียวกับข้าราชการผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ตําแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงให้นําความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับแก่อนุกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญโดยอนุโลม โดยให้มีสิทธิได้รับในอัตราเดียวกับข้าราชการผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ตําแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกรม
มาตรา 8 ให้นําพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการมาใช้บังคับแก่การเดินทางไปราชการต่างประเทศของผู้ดํารงตําแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ผู้ดํารงตําแหน่งในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และผู้ดํารงตําแหน่งในสภาปฏิรูปแห่งชาติโดยอนุโลม โดยให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับนายกรัฐมนตรี ผู้ดํารงตําแหน่งอื่นในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และรองประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับรองนายกรัฐมนตรีส่วนสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ได้รับสิทธิในอัตราเดียวกับข้าราชการผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ตําแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราวของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติและสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติที่จะมีสิทธิได้รับค่าใช้จ่ายตามวรรคหนึ่ง ต้องเป็นกรณีที่ไปเข้าร่วมประชุมตามภาระหน้าที่และได้รับอนุญาตจากประธานแห่งสภาที่ตนเป็นสมาชิก
มาตรา 9 ให้ผู้ดํารงตําแหน่งในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สภาปฏิรูปแห่งชาติและคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ มีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลเช่นเดียวกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรตามพระราชกฤษฎีกาเงินประจําตําแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของประธานและรองประธานสภาผู้แทนราษฎรประธานและรองประธานวุฒิสภา ผู้นําฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภาและกรรมาธิการ พ.ศ. 2555
มาตรา 10 การเบิกเงินประจําตําแหน่ง เงินเพิ่ม และค่าใช้จ่ายในการเดินทางของผู้ดํารงตําแหน่งในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ให้เบิกจ่ายจากสํานักงานปลัดกระทรวงกลาโหมการเบิกเงินประจําตําแหน่ง เงินเพิ่ม เบี้ยประชุม ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าพาหนะ และค่ารักษาพยาบาลของผู้ดํารงตําแหน่งในสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ให้เบิกจ่ายจากสํานักงานเลขาธิการวุฒิสภาการเบิกเงินประจําตําแหน่ง เงินเพิ่ม เบี้ยประชุม ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าพาหนะ และค่ารักษาพยาบาลของผู้ดํารงตําแหน่งในสภาปฏิรูปแห่งชาติ และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญให้เบิกจ่ายจากสํานักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
มาตรา 11 ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชกฤษฎีกานี้
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน