จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
สหรัฐเล็งปรับนโยบายครั้งใหญ่ในคู่มือโภชนาการสำหรับชาวอเมริกัน ด้วยการเลิกจำกัดปริมาณคอเลสเตอรอล
ผู้เชี่ยวชาญการแพทย์เคยเชื่อกันว่า การบริโภคอาหารคอเลสเตอรอลสูงมากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด และคู่มือโภชนาการสำหรับชาวอเมริกันในปัจจุบัน แนะให้จำกัดรับคอเลสเตอรอลไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งเป็นปริมาณที่เท่ากับเนยหนึ่งแท่ง หรือไข่สองฟอง หรือสเต๊ก 300 กรัม
แต่ล่าสุด กระทรวงเกษตรสหรัฐ ระบุในแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี(19 ก.พ.)ว่า ร่างคู่มือการบริโภคฉบับปี 2558 จะไม่มีการจำกัดปริมาณคอเลสเตอรอลอีกต่อไป เนื่องจากหลักฐานที่มีอยู่ขณะนี้ ไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างการบริโภคคอเลสเตอรอลกับปริมาณคอเลสเตอรอลในร่างกาย
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มาจากการรวบรวมข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญสาธารณสุข การแพทย์และโภชนาการที่ได้รับการยอมรับระดับประเทศ14 คน แต่จะยังไม่ถือเป็นทางการ ยังต้องทิ้งเวลา 45 วัน สำหรับรับฟังความเห็นและอภิปรายในที่ประชุมแบบเปิดกว้างที่เมืองเบเทสดา รัฐแมรีแลนด์ ในวันที่ 24 มีนาคมนี้
ปัจจุบัน นักโภชนาการจำนวนมากเชื่อว่า สำหรับผู้ใหญ่สุขภาพดี การบริโภคอาหารมีคอเลสเตอรอลสูง อาจไม่กระทบต่อปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดอย่างมีนัยสำคัญ หรือเพิ่มความเสี่ยงโรคหัวใจ อันตรายที่ยิ่งกว่าไม่ได้อยู่ที่อาหารอย่าง ไข่ หรือกุ้ง ซึ่งมีคอเลสเตอรอลสูง แต่อยู่ที่การรับประทานอาหารอุดมด้วยไขมันอิ่มตัวมากเกินไป เช่น เนื้อสัตว์ไขมันสูง นม และเนย
วัตถุประสงค์หลักของร่างคู่มือใหม่คือ การกระตุ้นชาวอเมริกันให้รับประทานผลไม้ ผัก ธัญ พืชฝักตระกูลถั่ว เม็ดถั่ว มากขึ้นในแต่ละวัน พร้อมแนะนำอาหารแนวเมดิเตอร์เรเนียนกับมังสวิรัติเป็นทางเลือก และให้ลดอาหารจากเนื้อสัตว์ ซึ่งดีต่อสุขภาพมากกว่าทั้งยังเกี่ยวข้องกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน