จากประชาชาติธุรกิจ
ภาพนี้คุ้นๆ มั้ยครับ เงินเดือนออก … ดีใจ … นึกได้ว่าต้องจ่ายหนี้บัตรเครดิต … ห่อเหี่ยว … คิดว่าเหตุการณ์นี้คงคุ้นๆ สำหรับหลายๆ ท่านนะครับ บางทีการมีบัตรเครดิตก็เป็นสิ่งจำเป็น แต่บางทีการใช้บัตรเครดิตอย่างไม่บันยะบันยังก็สามารถทำให้เราเกิดหนี้บัตร เครดิตคั่งค้าง สะสม จนผ่อนชำระไม่ทันได้จะกลายเป็น "หนี้ท่วม" เอาได้ง่าย ๆ นะครับ
วันนี้เรามาดูกันดีกว่า ว่ามีวิธีไหนบ้าง ที่เราจะสามารถนำมาใช้เพื่อกำจัดหนี้บัตรเครดิตกวนตัวกวนใจพวกนี้อย่างได้ผล แถมไม่ให้มีหนี้ใหม่พอกกลับขึ้นมาให้ปวดหัวอีกนะครับ
1.ทยอยชำระหนี้
ประการแรกครับ เมื่อเรามีหนี้คงค้างสิ่งสำคัญที่เราต้องการทำก็คือการจัดการหนี้สินพวกนี้ให้หมดไป จะบอกว่าหากคุณคิดว่าจะปิดบัญชีแล้วหนี้จะหายไปนั้นคิดผิดนะครับ ปิดบัญชีบัตรเครดิตไม่ได้จะช่วยทำให้หนี้ที่เรามีกับสถาบันการเงินแห่งนั้นหมดไปครับ
ดังนั้นการทยอยชำระหนี้มีวิธีทำได้หลายวิธีนะครับ คุณสามารถทำการจดรายละเอียดรายรับ-รายจ่ายก่อน แล้วตรวจดูว่ามีอะไรที่ลด ละ เลิกได้ อะไรไม่จำเป็นก็ลดค่าใช้จ่ายเอาเงินส่วนนั้นไปชำระหนี้สินแทน รีบทยอยชำระให้หมดโดยเร็ว และพยายามอย่าสร้างหนี้ใหม่ระหว่างนี้นะครับ ไม่อย่างนั้นมันจะกลายเป็นวัฏจักรดินพอกหางหมู แล้วก็จะจ่ายไม่หมดสักทีครับ
หากคุณเป็นหนี้บัตรเครดิตเป็นจำนวนมากจริง ๆ คุณสามารถขอใช้บริการที่ปรึกษาของสถาบันการเงินได้นะครับ คุณสามารถต่อรองลดหย่อนค่าธรรมเนียม หรือขั้นต่ำรายเดือนที่ต้องจ่ายเพื่อที่จะทยอยชำระหนี้ได้ด้วยครับ ลองคิดดูนะครับ สถาบันการเงินลดปริมาณเงินที่ต้องจ่ายนิดหน่อย ดีกว่าต้องจัดการกับหนี้เสียไม่ได้เงินคืนครับ ดังนั้นหากติดต่อขอพูดคุยต่อรองอย่างมีเหตุผล ขอความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินรับรองว่าทางสถาบันการเงินจะต้องยินดีผ่อนผันให้แน่นอนครับ
2.เลิกจ่าย "ขั้นต่ำ"
คน ส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าเวลามีหนี้บัตรเครดิตมา จ่ายแค่ "ขั้นต่ำ" ก็พอ แต่จริง ๆ แล้วเป็นความคิดที่ผิดถนัดเลยนะครับ ปัญหาตัวเล็ก ๆ แต่เป็นเรื่องใหญ่ได้ง่าย ๆ คือดอกเบี้ยนั่นเองครับ หากเราจ่ายเงินเต็มจำนวนเวลาบิลเรียกเก็บค่าบัตรเครดิตส่งมาเราจะไม่ต้อง เสียดอกเบี้ยเพราะมีเงินคงค้างกับบริษัทบัตรเครดิตนั่นเองครับหากเราจ่ายแค่ ขั้นต่ำ ทางสถาบันการเงินที่ออกบัตรเครดิตให้เราก็จะเริ่มคิด "ดอกเบี้ยรายวัน" ทันที ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นเล็กๆ ที่จะทำให้เกิดบาดแผลเลือดไหลไม่หยุดได้หากเราไม่รีบจัดการ ดังนั้น เราต้องรีบจัดการกับเจ้าดอกเบี้ยนี้ด้วยการหยุดจ่ายขั้นต่ำนะครับ และพยายามชำระหนี้สินที่งอกเงยออกมาให้หมดโดยเร็วที่สุดครับ
3.เงินสดลดหนี้
เรา ๆ เองก็คงติดใจการซื้อสินค้า บริการ จ่ายค่าอาหารด้วยบัตรเครดิตกันจริงไหมครับ แต่หากเราปรับเปลี่ยนการชำระเงินสำหรับรายจ่ายเหล่านี้ด้วยการใช้เงินสดแทนบัตรเครดิต ก็จะช่วยบรรเทาอาการหนี้หมักหมมได้เยอะเลยครับ เพราะเวลาเราใช้เงินสด เราจะเห็นเงินในกระเป๋าของเราลดลงไปทันที ทำให้เราสะดุด ไม่อยากจับจ่ายใช้สอยมากจนเกินไป หากคุณเริ่มซื้อของด้วยเงินสด เราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงแน่นอนครับ เพราะบิลที่มาเรียกเก็บปลายเดือนก็จะน้อยลง วิธีนี้จะสามารถช่วยไม่ให้เราใช้บัตรเครดิตเพลินได้อย่างดีเลยครับ
4.ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย
การทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายจะช่วยทำให้เราเห็นปัญหาได้อย่างรวดเร็วครับแค่การบันทึกรายรับ-รายจ่ายแบบง่าย ๆ นี่ล่ะครับ อาจจะเก็บบิลเอาไว้แล้วเอามารวมสิ้นเดือน หรืออาจจะเป็นการจดวันต่อวันก็ได้ แต่เราจะสามารถเห็นได้ว่าเราใช้จ่ายอะไรที่ไม่จำเป็น เป็นของฟุ่มเฟือยกับอะไรบ้าง แล้วลด ละ เลิกได้หรือไม่ แล้วก็วางแผนการประหยัดค่าใช้จ่ายโดยเริ่มจากส่วนที่เป็นรายจ่ายฟุ่มเฟือยนี่ล่ะครับ รับรองว่าคุณจะมีเงินก้อนมาจ่ายหนี้บัตรเครดิตจนหมดได้ภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนแน่นอนครับ
5.วางแผนการเงินส่วนบุคคล
พอเราจัดการกับปัญหาการเงินที่มีอยู่ได้แล้วเลิกจ่ายขั้นต่ำ ไม่มีหนี้ไหล ทยอยชำระหนี้ และเริ่มมีการทำบัญชีส่วนบุคคล การป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหนี้หมักหมมขึ้นมาอีกนะครับ การวางแผนการเงินส่วนบุคคลนั้นทำได้ไม่ยากครับ เพียงแค่แบ่งเงินรายได้ของเราออกเป็นส่วนๆ ตามนี้ เงินใช้จ่าย เงินออม เงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน เงินเพื่อการลงทุน หากเราแบ่งออมได้แบบนี้ รับรองว่าหนี้สินทั้งหลายจะไม่กลับมากวนใจเราอีกต่อไปครับ
6.รักษาวินัยทางการเงิน
ในเมื่อเราทำมาได้ทุกขั้นตอนแรก สิ่งสุดท้ายที่เราต้องทำ ก็คือการรักษาวินัยด้านการเงินอย่างเคร่งครัดครับ ทำได้ตามนี้ รับรองว่าชีวิตด้านการเงินของเราจะดีขึ้นเรื่อยๆแน่นอนครับ บอกได้ว่า การรักษาวินัยทางการเงินนั้นถือเป็นข้อที่สำคัญที่สุดเลยก็ได้ เพราะไม่ว่าเราจะมีเงินออมมากเท่าไหร่ก็ตาม หากเราไม่มีวินัย วางแผนการเงินดียังไงก็รักษาเงินเอาไว้ไม่ได้นะครับ
หากดู ๆ แล้วขั้นตอนเหล่านี้อาจจะดูเหมือนวุ่นวาย ทำยาก แต่ว่าหากเราค่อย ๆ ออมเงินไป ค่อย ๆ ลดค่าใช้จ่ายไปทีละอย่าง วันละนิดวันละหน่อย ก็สามารถทำให้ประสบความสำเร็จได้แน่นอนครับ MoneyGuru.co.th เป็นกำลังใจให้ครับ
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน