จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
เอเจนซีส์ /ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก หรือ “กษัตริย์จิกมี” แห่งราชอาณาจักรภูฏานทรงพระราชทานพระราชดำรัสเตือนสตินักการเมืองภูฏาน โดยทรงระบุ การตัดสินใจดำเนินนโยบายใดๆ ในการบริหารบ้านเมืองของบรรดาผู้มีอำนาจทางการเมืองทั้งหลาย จะต้องไม่สร้างความเสียหายแก่ประเทศเพื่อนบ้านเข้าทำนอง “เอาดีเข้าตัว - เอาชั่วให้ผู้อื่น”
สมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์วังชุกของภูฏาน ทรงพระราชทานพระราชดำรัสในวันเสาร์ (4 ก.ค.) เพื่อเตือนสติบรรดานักการเมืองใน “ราชอาณาจักรมังกรสายฟ้า” แห่งเทือกเขาหิมาลัยของพระองค์ โดยระบุ การตัดสินใจดำเนินนโยบายบริหารบ้านเมืองของบรรดาผู้มีอำนาจ จะต้องคำนึงถึงผลกระทบของนโยบายนั้นๆ อย่างรอบด้าน ทั้งผลกระทบต่อประเทศของตนเอง และต่อประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่รายรอบ
เนื้อหาส่วนหนึ่งของพระราชดำรัสในสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี ที่ถูกอัญเชิญมาพระราชทานโดย ลีออนโป นัมกาย ดอร์จี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของภูฏาน ระบุว่า “บรรดาผู้มีอำนาจทางการเมืองทั้งหลายควรตระหนักในเรื่องนี้ให้มาก นโยบายการบริหารประเทศที่ดี จะต้องส่งเสริมให้ทุกประเทศในภูมิภาคได้รับประโยชน์ร่วมกัน แบ่งปันสิ่งดีๆ ร่วมกัน ขอจงอย่าเดินหน้านโยบายใดๆ ก็ตาม ที่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างความสุขให้กับชาวภูฏาน แต่สร้างความทุกข์ให้กับชาติเพื่อนบ้าน”
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของภูฏานได้อัญเชิญพระราชดำรัสดังกล่าว ในสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี ออกมาเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน หลังการเข้าพบหารือกับ อามา มูฮิตห์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของบังกลาเทศ ที่กรุงธากา โดยระบุพระราชดำรัสดังกล่าวในสมเด็จพระราชาธิบดี จิกมี สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้กับประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียใต้
“ผมขอหยิบยกตัวอย่างเรื่องที่รัฐบาลภูฏานยึดมั่นในการดำเนินนโยบายปก ป้องผืนป่า และสภาพแวดล้อมของพื้นที่ต้นน้ำแถบเทือกเขาหิมาลัย ผมขอยืนยันว่า ภูฏานไม่คิดจะตัดต้นไม้แถบนี้แม้แต่ต้นเดียวทั้งที่เราสามารถทำได้ และมีผู้ต้องการรับซื้อไม้ของเราเป็นจำนวนมาก ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะภูฏานได้ตระหนักแล้วว่า การร่ำรวยอยู่ฝ่ายเดียวจากการค้าไม้ของเราจะไปสร้างความทุกข์ให้กับเพื่อน บ้านที่อยู่ทางปลายน้ำ เราไม่เชื่อว่าการหารายได้เข้าประเทศตามตัวอย่างที่ยกมานี้จะเป็นความสุขที่ แท้จริงในแบบที่เราต้องการ เพราะมันเป็นความสุขที่อยู่บนความทุกข์ของเพื่อนบ้าน” ลีออนโป นัมกาย ดอร์จี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังภูฏาน กล่าวเสริม
ที่ผ่านมา ภูฏาน ราชอาณาจักรบนเทือกเขาหิมาลัย ซึ่งมีเนื้อที่เพียง 38,394 ตารางกิโลเมตร และเป็นบ้านของประชากรราว 742,000 คน ได้ชื่อว่า เป็นผู้ริเริ่มนโยบายที่ให้ความสำคัญ กับการสร้างความสุขมวลรวมของคนในชาติ (gross national happiness) มากกว่าตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาทางวัตถุ
แต่ถึงกระนั้น เศรษฐกิจของภูฏานก็ยังสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง โดยข้อมูลล่าสุดขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ระบุว่า ภูฏานมีการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปีที่ผ่านมาสูงแตะระดับ 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 57,365 ล้านบาท)
สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน