สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เศรษฐีอลหม่าน

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์สามัญสำนึก โดย สุดใจ ชาญชาตรีรัตน์

แม้ปัญหาภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัว จะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐีหรือมหาเศรษฐีเมืองไทยทั้งหลาย

แต่ปีนี้ถือว่าเป็นปีที่เศรษฐีทั้งหลายต้องอลหม่านกับภารกิจจัดการทรัพย์สมบัติอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เพราะปีนี้มีทั้ง "กฎหมายภาษีมรดก" ที่เตรียมคลอดออกมาบังคับใช้ในเร็ววันนี้ เพราะในแง่กฎหมายทุกอย่างเสร็จสิ้นกระบวนการแล้ว เหลือเพียงรอประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา โดยจะมีผลบังคับใช้ภายใน 180 วัน

หมายความว่า หลังจากนั้นผู้ที่ได้รับมรดกที่มีมูลค่าเกิน 100 ล้านบาท ส่วนที่เกินต้องเสียภาษี 10% และหากผู้ได้รับเป็นบุพการีหรือผู้สืบสันดานก็จะเสียภาษี 5%

แถม 11 สิงหาคมนี้ กฎหมายคุ้มครองเงินฝากก็จะเริ่มลดการคุ้มครองจาก 50 ล้านบาทต่อบัญชี เหลือไม่เกิน 25 ล้านบาท และตั้งแต่ 11 ส.ค. 2559 จะลดความคุ้มครองเหลือไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อบัญชี แต่เรื่องนี้อาจไม่เห็นความเคลื่อนไหวมากนัก เพราะได้ประกาศชัดเจนมานานแล้ว บรรดาเศรษฐีทั้งหลายจึงมีการวางแผนกระจายพอร์ตลงทุนไปที่กองทุนรวม ประกันชีวิต ตราสารหนี้ และอื่น ๆ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

แต่ที่มีความเคลื่อนไหวมากเป็นพิเศษช่วงนี้คือเศรษฐีตระกูลดังเจ้าของธุรกิจที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต่างแห่ถ่ายทรัพย์สินให้กับลูกหลานและเครือญาติก่อนที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ หลังจากมีปรากฏการณ์แห่โอนที่ดินที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว

โดยพบว่าช่วง 2-3 เดือนมานี้เจ้าของกิจการพากันโอนหุ้นให้กับลูกหลานมากมาย อาทิ "ฑิฆัมพร เปล่งศรีสุข" ประธานกรรมการบริหาร บมจ.แอลพีเอ็น ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) โอนหุ้นให้ลูกชาย 2 คน คือธนิตและธนัตถ์ เปล่งศรีสุข คนละ 2 ล้านหุ้น เมื่อ 24 ก.พ. 2558

เช่นเดียวกับ "สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์" หรือเฮียฮ้อ โอนหุ้น บมจ.อาร์เอส (RS) ให้ลูกชาย 2 คน คือโชติและเชษฐ เชษฐโชติศักดิ์ จำนวน 2 ล้านหุ้น และ 15 ล้านหุ้นตามลำดับ เมื่อ 2 ก.พ. 2558

"หมอเสริฐ" หรือปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ก็โอนหุ้นเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ 100 ล้านหุ้น ให้ลูกสาว คือ น.ส.อาริญา ปราสาททองโอสถ มูลค่าเกือบ 2,000 ล้านบาท เมื่อ 2 เม.ย. 2558

ฟาก "ชัย โสภณพนิช" ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ บมจ.กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) และ บมจ.กรุงเทพประกันภัย (BKI) จัดสรรหุ้นทั้ง 2 บริษัทให้กับมูลนิธิชัย-นุชนารถ โสภณพนิช และลูกชายหญิงอีก 5 คน เป็นมูลค่ารวมกว่า 1,700 ล้านบาท เมื่อ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา


ทางกลุ่มเฟอร์นิเจอร์ "โมเดอร์นฟอร์ม กรุ๊ป" (MODERN) นายเจริญ อุษณาจิตต์ ประธานกรรมการโอนหุ้นให้ลูกสาว น.ส.มณฑิรา 4 ล้านหุ้น เมื่อ 2 เม.ย. 2558 รวมทั้งนายทักษะ บุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหาร โอนหุ้น MODERN ให้ลูกสาวทั้ง 3 คน คนละ 5 ล้านหุ้น

แต่สำหรับนายสรพจน์ เตชะไกรศรี ซีอีโอ บมจ.เพซ ดีเวลลอปเมนท์ (PACE) ไม่โอนหุ้นให้ลูกหลานแต่เป็นการโอนหุ้นให้กับพ่อแม่จำนวน 146 ล้านหุ้น

ส่วน "คีรี กาญจนพาสน์" ผู้ถือหุ้นใหญ่ บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป (BTS) ไม่ได้โอนหุ้นให้ลูกฟรี ๆ แต่ทำธุรกรรมขายหุ้น BTS จำนวน 600 ล้านหุ้น ให้กับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน "กวิน กาญจนพาสน์" เป็นมูลค่ากว่า 5,880 ล้านบาท เมื่อ 9 ก.พ. 2558

นี่เป็นเพียงบางส่วนเท่านั้น จากภาวะปกติที่แทบไม่เห็นการเคลื่อนไหวใด ๆ เลย

ด้านหนึ่งก็สะท้อนให้เห็นว่ากฎหมายภาษีมรดกส่งผลให้เจ้าของธุรกิจมีการวางแผนส่งต่อกิจการให้ทายาทที่รวดเร็วขึ้น

แต่ที่สุดแล้วกฎหมายภาษีมรดกฉบับนี้ก็คงรีดเงินจากเศรษฐีได้ไม่เท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่ดิ้นหาช่องเพื่อที่จะไม่ต้องเสียภาษีกันไปเรียบร้อยแล้ว

นี่คือโจทย์ความเหลื่อมล้ำที่รัฐบาล คสช.ปักธงมาตั้งแต่แรก และในขณะที่เศรษฐีวุ่นวายกับการโอนย้ายทรัพย์สิน ความจริงอีกด้านก็คือ คนไทยจำนวนมากยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือนค้ำคอ โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่าตัวเลขหนี้ภาคครัวเรือนไตรมาส 1 มีมูลค่า 10.57 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4% จากช่วงเดียวกันปีก่อน หรือคิดเป็น 79.9% ของจีดีพี


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : เศรษฐีอลหม่าน

view