สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

คุก3-13ปีไม่รอลงอาญา 4นปช. คดีเผาศาลากลางขอนแก่น

จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ศาลตัดสินจำคุก 4 นปช. เผาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ไม่รอลงอาญา 3-13ปี ทนายระบุเตรียมหาหลักทรัพย์ประกันตัวสู้คดี

จากที่เกิดเหตุความไม่สงบทางการเมือง จนนำไปสู่การเผาศาลากลางจังหวัดขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 ซึ่งคดียังคงอยู่ระหว่างการดำเนินคดี หลังจากที่การสืบพยานเสร็จสิ้น เมื่อประมาณเดือนกันยายน 58

ล่าสุด คดีนี้ได้ขึ้นสู่ศาลชั้นต้นแล้ว เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 58 ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น นายบุญยง แก้วฝ่ายนอก นายเจตปัญญา วงศ์ศิลป์ และนายวัน สุวรรณพงษ์ ทนายความของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการ หรือ นปช. อีสาน พร้อมจำเลยในคดีวางเพลิงเผาทรัพย์ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น คือ จำเลยที่ 1 นายอดิศัย วิบูลย์เสข จำเลยที่ 2 นายจิรัฐตระกูล สุมะหา และจำเลยที่ 3 นายสุทัศน์ สิงห์บัวขาว ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น  

นอกจากนี้ยังมีจำเลยที่ 4 คือ นายอุดม คำมูล ที่ถูกควบคุมตัวมาจากเรือนจำจังหวัดขอนแก่น ที่รับโทษจำคุกในคดีเผา สถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ได้เดินทางมาฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้น ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด บางคนมีท่าทีวิตกกังวล 

โดยพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ว่าเมื่อวันที่ 19 พ.ค. 2553 จำเลยได้ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้าย ให้เกิดความวุ่นวาย ในบ้านเมือง ร่วมกันตระเตรียมวางเพลิง วางเพลิงเผาทรัพย์ และร่วมกันวางเพลิงเผาโรงเรือนอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน

ด้านจำเลยที่ 1 นายอดิศัย วิบูลย์เสข กล่าวว่า บ้านเดิมอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ หลังจากตกเป็นจำเลยคดีเผาศาลากลางจังหวัดขอนแก่นแล้วได้รับการประกันตัว ก็ตัดสินใจย้ายมาอยู่ที่จังหวัดขอนแก่น ประกอบอาชีพเช่าพระ สำหรับการฟังคำตัดสินในวันนี้ไม่ว่าผลจะ พร้อมรับคำตัดสินของศาล แต่คิดว่าศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง จึงขายทรัพย์สินทั้งจักรยานยนต์หม้อหุงข้าว โทรทัศน์ รวมทั้งคืนห้องเช่าแล้ว หากศาลตัดสินจำคุก จะได้หมดห่วง

“ผมเตรียมกระเป๋าใบเดียวที่มีเสื้อผ้า และเครื่องใช้ส่วนตัว หากติดคุกก็แบกกระเป๋าใบนี้เข้าไปเรือนจำได้ โดยไม่ต้องกังวลภาระอื่น ส่วนสภาพจิตใจหมดห่วงไม่คิดอะไรมาก แต่ก็หวังว่าศาลจะยกฟ้อง หากพ้นผิดก็จะกลับไปอยู่บ้านที่เชียงใหม่ 3-4 วัน จึงจะกลับมาปักหลักอยู่ที่ขอนแก่น”นายอดิศัย กล่าว

สำหรับคำตัดสินศาลชั้นต้นพิจารณาความผิดว่า จำเลยที่ 1 นายอดิศัย วิบูลย์เสข และจำเลยที่ 2 นายจิรัฐตระกูล สุมะหา มีความผิดบุกรุกสถานที่ราชการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินศาลตัดสินจำคุก 13 ปี ขณะที่จำเลยที่ 3 นายสุทัศน์ สิงห์บัวขาวศาลตัดสินจำคุก 3 ปี และจำเลยที่ 4 นายอุดม คำมูล ตัดสินจำคุก 3 ปี 6 เดือน ในข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการ และมีพฤติการณ์ไม่เกรงกลัวกฎหมาย

นายบุญยง กล่าวว่า ผ่านมากว่า 5 ปี สำหรับการสืบพยาน ที่เพิ่งแล้วเสร็จไปเมื่อประมาณเดือนกันยายน 2558 จากนั้นศาลได้นัดฟังคำตัดสินวันที่ 11 พ.ย. 58 ส่วนการพิจารณาคดีของศาลนั้นไม่มีพยานบุคคล แต่ศาลตัดสินจากภาพถ่าย และภาพวิดีโอ จากสื่อแขนงต่างๆ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายราชการเสนอพยานหลักฐานทั้งหมด ซึ่งจึงพิจารณาตามพยานหลักฐานที่มีเท่านั้น

“หลังจากนี้ทางญาติของจำเลยและทนายต้องมีการพูดคุยกันอีกครั้งในเรื่อง การประกันตัว จำเลยทั้ง 3 คน ว่าจะใช้หลักทรัพย์จากที่ใดมาประกันตัว ส่วนการสู้คดีนั้นหากได้รับการประกันตัวแล้วก็จะดำเนินการสู่คดีในศาลอุธรณ์ ส่วนรายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร ในช่วงใดนั้น ต้องรอให้ทุกฝ่ายพร้อมประชุมร่วมกัน”นายบุญยง กล่าว  


สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : คุก3-13ปี ไม่รอลงอาญา นปช. คดีเผาศาลากลางขอนแก่น

view