จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

โฆษกศาลยุติธรรมแจงข้อกฎหมาย คนเผยแพร่ข้อความเท็จ ประชาชนตกใจ ต้องโทษจำคุก 1 เดือน-ปรับไม่เกินหมื่น-ทั้งจำทั้งปรับ ตาม ป.อาญา มาตรา384

จากกรณีที่นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม แถลงชี้แจงถึงกรณีที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคำพิพากษาศาลฎีกา คดีกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) จ.อุบลราชธานี นำโดยนายพิเชษฐ์ ทาบุตดา หรือดีเจ.ต้อย จำเลยคนสำคัญคดีก่อเหตุวางเพลิงเผาศาลากลาง จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53โดยระบุว่า คำพิพากษาศาลฎีกาที่ถูกต้อง เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.58 ได้พิพากษาแก้จากเดิมจำคุก1ปี เป็นจำคุกตลอดชีวิต ไม่ใช่ให้ประหารชีวิต ตามที่สื่อมวลชนเสนอข่าวนั้น 

ในวันนี้นายสืบพงษ์ ได้ให้ความเห็นในข้อกฎหมาย เกี่ยวกับการเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จว่า ตามหลักประมวลกฎหมายอาญา มาตรา384ระบุว่า บุคคลใดแกล้งบอกเล่าความอันเป็นเท็จให้เลื่องลือจนเป็นเหตุให้ประชาชนตื่น ตกใจ มีความผิดลหุโทษ จำคุกไม่เกิน1เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  ซึ่งความผิดฐานนี้ ต้องพิจารณาว่า ผู้ถูกกล่าวหาที่ให้ข่าวมีเจตนาที่แกล้งบอกเล่าความอันเป็นเท็จหรือไม่ 

ในส่วนของผู้พิมพ์ผู้โฆษณา มีบทบัญญัติตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา32ว่า ผู้ประพันธ์ บรรณาธิการหรือผู้พิมพ์ผู้โฆษณาซึ่งหนังสือพิมพ์หรือสิ่งพิมพ์ อันออกโฆษณาต่อประชาชน ถ้าได้กล่าวหรือแสดงวิธีใดๆในระหว่างการพิจารณาไปจนมีคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งข้อความหรือความเห็นโดยประสงค์จะให้มีอิทธิพลเหนือความรู้สึกของประชาชน เช่นเป็นการแสดงไปผิดจากข้อเท็จจริงแห่งคดี ก็จะมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลได้ด้วย 

นายสืบพงษ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม วันนี้มีหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ได้พิมพ์แก้ข้อเท็จจริงให้ถูกต้องหมดแล้ว ในส่วนเผยแพร่คำพิพากษาผิดพลาดนั้นที่คดีใหญ่ๆ ตนยังไม่เคยพบมาก่อน 

เมื่อถามว่ากระแสทางการเมืองจะเบาลงหรือไม่ หลังจากที่หนังสือพิมพ์หลายฉบับลงข่าวที่มีการพิพากษาข้อเท็จจริงอย่างถูกต้องแล้ว

โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า สังคมจะมีความเข้าใจมากขึ้นในความเป็นจริง และสิ่งที่ผู้ใดก็ตามกล่าวข้อความเท็จตรงนี้ คงจะเห็นภาพชัดเจนว่าไม่เป็นความจริงและสามารถตรวจสอบได้จากคำพิพากษาของศาล ฎีกาอยู่แล้ว

สำนักงานบัญชี,สำนักงานสอบบัญชี,ทำบัญชี,#สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน