จาก โพสต์ทูเดย์
โดย...เอกชัย จั่นทอง
นาทีนี้คงไม่มีอะไรเด่นเกินกระแส “ตุ๊กตาลูกเทพ” ทั้งดารา นักร้อง ดีเจ เน็ตไอดอล หรือแม้มนุษย์เงินเดือนธรรมดาๆ ต่างก็เช่าหามาบูชาเลี้ยงดูจนกลายเป็นเรื่องปกติ
สรรพคุณที่ถูกอวดอ้าง คือ หากใครได้ลองเลี้ยงดู ป้อนข้าวป้อนน้ำ เอาอกเอาใจ พาไปเที่ยว ฯลฯ ลูกเทพเหล่านั้นจะช่วยบันดาลให้ผู้เลี้ยงมีโชคลาภ ร่ำรวยเงินทอง
เรื่องนี้ พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว วิเคราะห์ปรากฏ การณ์ตุ๊กตาลูกเทพ ว่า หากชาวพุทธหลุดจากหลักธรรมแล้ว ก็จะคลำหาฤทธิ์ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วหลักธรรมที่จะช่วยให้คนร่ำรวยหรือมีฐานะจริง คือ ความขยัน รู้จักเก็บออม ไม่ก่อหนี้ และประพฤติตัวดี
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ชาวพุทธควรจะยึดถือ
“เหมือนช่วงกระแสฟีเวอร์จตุคามรามเทพ คนไทยก็คลำหาฤทธิ์เพราะยังไม่เจอหลัก อยู่ในระหว่างคลำ ถ้าวันใดเจอหลักมันจะเลิกหาฤทธิ์ หลายคนมโนไปเองว่าถ้าอุ้มแล้วจะร่ำรวย พูดง่ายๆ ว่าคนพลัดหลัก ก็คลำหาฤทธิ์มันเป็นคนมักง่าย อยากรวยง่ายๆ เป็นเรื่องที่ใช้ไม่ได้ ทุกวันนี้เป็นสังคมพลัดหลักเที่ยวคลำหาฤทธิ์”
พระนักเทศน์ชื่อดัง ตั้งคำถามว่า ที่อวดอ้างสรรพคุณว่าอุ้มตุ๊กตาลูกเทพแล้วรวยนั้น ถามว่าคนที่เขาทำมาขายนั้นมันโง่เป็นควายกินหญ้าหรือเปล่า ถ้าเป็นคุณล่ะ ทำขายตัวละหมื่นแล้วเขาเอาไปอุ้มจนรวยเป็นล้าน ถามว่าคุณจะทำขายหรือทำไว้อุ้มเองให้รอบเอว
“คนไทยคิดในเรื่องของเหตุผลเหล่านี้ต่ำเกินไป เลยตกเป็นเหยื่อของกลุ่มคนขายที่ทำออกมาจำหน่าย ทั้งนี้เชื่อว่าจะได้รับความนิยมเพียงชั่วครู่เท่านั้นเหมือนจตุคามรามเทพ ทุกวันนี้โยนทิ้งกันเกลื่อนกลาด”
พระพยอม กล่าวต่อไปว่า หากตุ๊กตาลูกเทพทำให้รวยจริงมันต้องเกิดการเฟื่องฟู ไม่ใช่ทำให้เศรษฐกิจทรุดลงๆ แต่เพราะตุ๊กตาลูกเทพเกิดมาหรือเปล่า จึงทำให้สติปัญญาของคนอ่อนลง เลยหากินอะไรกันโง่ๆ มัวงมงาย และจนกันอย่างนี้ ถ้ามันเกิดแล้วทำให้คนรวยได้จะไม่ว่าเลย แต่นี่มันมาเกิดช่วงที่บ้านเมืองกำลังฟื้นฟู ตุ๊กตาลูกเทพเป็นตัวซวย มันทำให้คนจนหนักกว่าเดิมอีก
พระนักเทศน์ชื่อดัง ย้อนอดีตให้ฟังว่า อย่างเณรแอ ยอดฝีมือเรื่องไสยศาสตร์ มีชื่อเสียงเรื่อง “กุมารทอง” ทุกวันนี้โยนทิ้งเป็นของไร้ค่าเยอะแยะ เราไปมัวแต่งมงาย รวมถึงศาลพระพรหมเอราวัณที่เราไปกราบไหว้กัน แถมมีตั้ง 4 หน้า 8 ตา พอเขาเอาระเบิดมาวางไว้ทำไมไม่เห็น แต่คนก็ไปงมงายศรัทธาอยู่ได้
“เวลานี้ต้องเชื่อในหลักของพระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ที่ว่าชาวพุทธพลัดหลักก็เที่ยวคลำหาฤทธิ์ รวมถึงการแก้ปีชง การไหว้ราหู ที่ต้องใช้ของดำไหว้ ก็นำไก่ขาวไปย้อมเป็นสีดำไปหลอกราหูอีก ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยเห็นคนงมงายขนาดนี้มาก่อน” เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว แสดงทัศนะเรื่องความเชื่อ
นอกจากนี้ พระพยอม ยังอธิบายต่อไปว่า สาเหตุที่ไสยศาสตร์และมนตร์ดำกลับมานิยมอีกครั้ง เพราะชาวพุทธเข้าใจหลักในศาสนาน้อยเกินไป มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งพบว่า ชาวพุทธเข้าใจหลักศาสนาตัวเองเพียง 17% ส่วนอีก 83% ไม่เข้าใจ นั่นคือกลุ่มคนที่ไปมุ่งหาความศรัทธาอื่น ความศรัทธาไม่อยู่กับองค์พระรัตนตรัย ใจโลเล เหมือนคำที่หลวงพ่อปัญญา บอกไว้ว่าชาวพุทธนั้นหลายใจนับถือไปทั่ว
พระพยอม กล่าวถึงความเสื่อมศรัทธาในศาสนาว่า การที่พระสงฆ์เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการปลุกเสกทำพิธีตุ๊กตาลูกเทพถือเป็นปัญหาใหญ่มาก เพราะผู้นำคำสอนทางศาสนาไม่ควรเข้าไปยุ่ง ส่วนบางวัดก็เฝ้าดูเรื่องอุปสงค์อุปทาน จัดสร้างวัตถุมงคลต่างๆ มาตอบสนองสังคมที่โหยหาย พระจึงทำป้อนให้ บางคนก็หมดเนื้อหมดตัวไป
“สังคมเราป่วยทางความเข้าใจในหลักศาสนา เลยไม่มีธรรมะโอสถเยียวยา มุ่งหาไสยศาสตร์ น่าเป็นห่วงขอร้องสื่ออย่าไปตีข่าวเหล่านี้มาก หากเราไม่กระพือความนิยมก็ไม่แรง” พระนักเทศน์ชื่อดัง กล่าวทิ้งท้าย
เช่นเดียวกับ “เชฟหมี” หรือ คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง อาจารย์ประจำภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ระบุว่า ปรากฏ การณ์ตุ๊กตาลูกเทพเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลงในเชิงรูปแบบ ยังคงเป็นความเชื่อในแบบเก่า เพราะสังคมไทยเดิมมีความเชื่อเรื่อง “กุมารทอง” มาอยู่แล้ว เพียงแต่มีตัวรูปแบบใหม่เกิดขึ้น มันจึงมารับใช้ความเชื่อแบบเดิมของเราเท่านั้น
“ตุ๊กตาลูกเทพอาจแตกต่างจากวัตถุมงคลอื่นตรงที่มันเกี่ยวข้องกับโลกโซเชียลมีเดีย ทำให้ได้เกิดการแพร่หลาย โดยมีกระแสความนิยมจากคนดังเหล่าดาราเลยกลายเป็นความนิยม เหมือนกับสมัยที่จตุคามรามเทพโด่งดัง จึงได้รับความสนใจ อีกอย่างคือไปผูกกับความหวือหวาของธุรกิจบางอย่างที่สร้างขึ้นมารองรับเรื่องลูกเทพ เช่น เปิดสอนหนังสือ รับเลี้ยงดู ฯลฯ เลยกลายเป็นจุดสนใจของสังคมขึ้นมา”
นักวิชาการรายนี้ ระบุอีกว่า สังคมไทยแม้เทคโนโลยีจะดีขึ้น แต่ไม่ได้เปลี่ยนพื้นฐานความเชื่อและความคิด เพราะฉะนั้นสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นมันก็วนเวียนอยู่ในความคิดความเชื่อชุดเดิม สังคมไทยยังคงวนอยู่แบบเดิม แต่มันจะถูกพัฒนาในเชิงรูปแบบและรายละเอียดเท่านั้น สังคมไทยยังโบราณและอยู่ในวิถีผี พราหมณ์ และพุทธ ถ้าเราเข้าใจมันได้และมองในเรื่องเสรีภาพทางศาสนา ส่วนตัวคิดว่าไม่น่าจะเกิดปัญหาอะไร
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน