จากประชาชาติธุรกิจ
www.facebook.com/thaistartupcafe
ไม่ทราบว่ายังมีใครพอจะจำได้ไหมว่า ผมเคยชวน Thai Startup ทั้งหลาย ไประดมทุนในงาน-งานหนึ่งชื่อ "AFF" จากชื่อเต็ม ๆ คือ Asian Financial Forum วันที่ 18-19 มกราคม 2016 ซึ่งจัดโดย Hong Kong Trade Development Council ซึ่งในงานนี้ หลัก ๆ จะเป็นงานที่มานั่งฟัง ผู้นำทางความคิดด้านไฟแนนซ์ คนสำคัญของโลก มาพูดคุยให้เราฟังถึงเรื่องที่เขาคิดว่าสำคัญต่อความเคลื่อนไหวทางด้านการเงินของโลกถึง 90 คน
แน่นอนว่าในงานนี้ก็ย่อมจะมีพระเอก นั่นคือ คุณเบน เบอร์นันเก้ อดีตประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงปี 2006 ถึง 2014 ซึ่งได้ออกมาพูดในช่วงของ Panel Discussion อีกด้วย ในงานนี้มีผู้เข้าร่วมฟังถึง 2,800 คนจาก 38 ประเทศ โดยในงานประชุมนั้นมีการโหวตความคิดออกมาหลายหัวข้อด้วยกัน เช่น การถามถึงความคิดเห็นว่าปี 2016 เศรษฐกิจโลกจะเป็นเช่นไร
ซึ่งมีผู้เข้าร่วมเพียงแค่ 15.8% เท่านั้นที่คิดว่าจะออกมาในทางดีหรือบวก อีก 40.5% บอกว่าเฉย ๆ เหมือนกับออกแนวไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ 43.7% นี่มองว่าน่าจะออกมาเยินพอสมควร
ตามด้วยโพลความคิดเห็นอีกข้อหนึ่งที่ผมคิดว่าน่าสนใจ จึงนำมาฝาก คือที่ใดที่ลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนดีที่สุด คำตอบออกมาว่า อันดับหนึ่ง มาแรงเสมอคือ จีน 30.3% (ไม่รู้ตอบเอาใจกันรึเปล่า) ตามด้วยสหรัฐอเมริกา 23.4% ต่อด้วยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บ้านเรา 17.5% และอินเดีย 12.7%
แต่นั่นก็ยังไม่ใช่จุดเด็ดของงานนี้
สำหรับผม จุดเด็ดของงานนี้อยู่ที่ AFF DealFlow นั่นเอง พูดง่าย ๆ เหมือนกับการ Matching ระหว่าง "ผู้ลงทุน" กับ "ผู้ระดมทุน" ซึ่งผมได้พาทีมไทยไประดมทุนด้วย
จากที่เห็นในรูปครับ ว่าไม่ได้มีเฉพาะผู้ที่ไประดมทุนเท่านั้น แต่จะมีทั้งทางการไทยเช่น BOI ของไทยไปด้วย และได้มีโอกาสพูดคุยกับ ท่านเกียรติชัย โสภาเสถียรพงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการคลัง ถึงเรื่องสาเหตุทำไม Thai Startup ต้องระหกระเหินมาระดมทุนไกลขนาดนี้ ในขณะที่ประเทศไทยเองก็มีการเตรียมกองทุนขนาดใหญ่ไว้รองรับ ตามนโยบายของ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ผู้ดูแลนโยบายด้านเศรษฐกิจ ซึ่งผมก็ได้แต่เรียนให้ท่านทราบถึงความต้องการของพวกเรา ส่วนที่เหลือผลจะออกมาอย่างไรต้องรอฟังกันต่อไป โดยที่ผมจะมาอัพเดตให้ผู้อ่านทราบอีกทีครับ
AFF Deal Flow นั้น ทางงาน AFF ตั้งใจจัดให้เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนการลงทุนให้กับ Startup ใหม่ ๆ เพราะไหน ๆ ก็จัดงานเกี่ยวกับเงินแล้ว การลงทุนจะเป็นสิ่งที่มาคู่กัน ซึ่ง HKTDC ก็ได้ร่วมมือกับเหล่าบริษัทลงทุนและกองทุนอิสระมากมาย ในการเข้ามาร่วมกันจับคู่การลงทุนระหว่างคนอยากได้ทุน กับคนอยากลงทุน ซึ่งผลลัพธ์ในงานนั้นมีการนัดหมายพบปะกันถึง 570 คู่เจรจา จาก 370 ทีมเจรจา ไม่ว่าจะเป็นฝั่งผู้อยากได้เงินทุน, กองทุนอิสระ รวมไปถึงผู้ลงทุนอิสระด้วย
AFF Deal Flow Zone นั้น เป็นส่วนในการระดมทุนขนาดเล็ก แต่ถ้าคุณต้องการลงทุนขนาดใหญ่ขึ้นมา งาน AFF ก็มี Global Investment Zone ให้เหมือนกัน ผมเองได้เดินดูคร่าว ๆ นับว่าเป็นการได้ไปเปิดหูเปิดตาอย่างมาก ซึ่งในโซนนี้มีบูทจาก 12 ประเทศมาเปิดให้ข้อมูลการลงทุน ได้แก่ ออสเตรเลีย, บรูไน, แคนาดา, ฮังการี, อินโดนีเซีย, ไอร์แลนด์, ลาว, รัสเซีย, สเปน, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, สหรัฐอเมริกา และท้ายที่สุดก็ BOI บ้านเรา แต่ใช่ว่า BOI บ้านเราจะเก่งในการดึงเงินมาลงทุนได้อย่างเดียว แต่เพื่อนบ้านเราหลาย ๆ ประเทศก็กำลังไล่ตามเรามาอย่างติด ๆ เช่น ลาว ซึ่งผมได้ไปยืนคุยอยู่กับเจ้าหน้าที่ลาว ทำให้เงินในมือผมสั่นเลยทีเดียว ว่าถ้าวันหนึ่งผมต้องเปิดโรงงานผลิตอะไรสักอย่าง เงินก้อนนั้นอาจจะไม่ได้ตกในเมืองไทยก็เป็นได้
วันนี้ผมเอางานที่ผมได้ไปเห็นมาเล่าให้ผู้อ่านฟัง นั่นเป็นเพราะว่าผมอยากจะบอกว่างานนี้ถึง Thai Startup ที่ไป จะไม่ได้รับการลงทุนทันทีทันใด แต่-แต่ละรายที่ไปนั้นล้วนแล้วแต่ได้รับการติดต่อและสนใจมากจากนานาชาติ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสในการลงทุนหรือหาหุ้นส่วนทางธุรกิจชั้นดีในอนาคต โดยถ้ามีการจัดงาน AFF อีกปีหน้า ผมก็จะพา Thai Startup ไปอีกแน่นอนครับ
ต้องขอขอบคุณสปอนเซอร์ที่จัดให้เกิดงาน AFF ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทาง HKTDC, HKSAR และ PwC ขอขอบคุณ-คุณจอย ผู้จัดการฝ่ายการตลาด HKTDC ประเทศไทยที่ให้การต้อนรับทั้งทีมทางการไทย และทาง Thai Startup รวมทั้งสื่อทั้งหลายเป็นอย่างดี
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน
