สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

อย่าให้การเมือง ซ้ำเติมเศรษฐกิจ

จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ชั้น 5 ประชาชาติ โดย สมปอง แจ่มเกาะ

ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสพบปะผู้บริหาร นักธุรกิจหลายท่าน หัวข้อการพูดคุยการสนทนาหนีไม่พ้นเรื่องเศรษฐกิจ และปัญหาบ้านเมือง ที่เผชิญกันอยู่

ทุกคนกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า วันนี้เศรษฐกิจเมืองไทยยังไม่ฟื้นตัว กำลังซื้อโดยรวมยังมีปัญหา ยังไม่กระเตื้อง

อย่างที่ทุกคนรับรู้กันดีว่า บ้านเรา นอกจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวและมีความผันผวนอย่างยากที่จะคาดการณ์แล้ว และที่หนักกว่าประเทศอื่น ๆ ก็เห็นจะเป็นปัญหาทางการเมือง

ไม่ใช่ว่าประเทศเพื่อนบ้านในละแวกเดียวกันนี้จะไม่มีปัญหา ทั้งมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย กัมพูชา เมียนมา ล้วนมีปัญหาทางการเมืองด้วยกันทั้งนั้น

เพียงแต่อาการไม่หนักเหมือนเมืองไทย

นักธุรกิจล้วนมองไปในทิศทางเดียวกันว่า ปัญหาการเมืองที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจค่อนข้างมาก เพราะการเมืองบ้านเรายังหาโซลูชั่นหรือจุดที่ลงตัวไม่ได้

สิ่งที่นักธุรกิจกังวลมากในเวลานี้ คือ ไม่อยากตกอยู่ในวังวนแบบนี้นานเกินไป

หากสถานการณ์ยังอึมครึมไปสัก 2-3 ปี สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา คือ ธุรกิจจะลำบาก แต่หากยืดเยื้อออกไปอีกเป็น 4-5 ปี สิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมา หลาย ๆ ธุรกิจคงอยู่ไม่ได้

เมื่อสถานการณ์ทางการเมืองมีความไม่แน่นอน นักธุรกิจจึงมีความกังวลและไม่กล้าลงทุน

สิ่งที่นักธุรกิจส่วนใหญ่อยากจะเห็นอย่างหนึ่งในเวลานี้คือ การจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ลุล่วง ทุกฝ่ายจะต้องเอาความจริงมาพูดกัน เพราะในความเป็นจริงกลับกลายเป็นว่า พอมีการเมืองมาคุม เลยไม่สามารถเอาข้อเท็จจริงทางเศรษฐกิจมาพูดแบบตรงไปตรงมาได้

การเมือง ครอบงำมากเกินไป จึงแก้ได้ยาก ยิ่งลำบากกันไปใหญ่

นี่คือ สิ่งที่น่ากลัว น่ากังวล


นักธุรกิจหลายคนเล่าให้ฟังคล้าย ๆ กันว่า ตอนนี้หาคนทำงานยากเหลือเกิน ประกาศรับสมัครพนักงานเสิร์ฟคนงานก่อสร้าง ฯลฯ ให้ค่าแรงวันละ 400-500 บาท สูงกว่าค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ แต่ก็ไม่มีคนมาสมัคร หรือแม้กระทั่งแรงงานชาวเมียนมา ชาวกัมพูชา หากให้น้อยกว่านี้เขาก็ไม่ทำ ที่ไหนให้มากกว่าก็ไปทำที่นั่น

นี่คือ สภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้น

ขณะที่ฟากรัฐบาลบอกว่า ค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท ที่เป็นผลงานของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา ทำให้ผู้ประกอบการเจ๊ง

นักธุรกิจที่ดูแลธุรกิจที่ยอดขายเฉียด ๆ หมื่นล้าน อธิบายให้ฟังต่อไปว่า จริง ๆ แล้วคนไทยมีเงิน เมื่อก่อนเคยขายข้าวได้เกวียนละหมื่นห้า ขายยางพาราได้กิโลละ 100-120 บาท ร่ำรวย มีเงินเหลือก็ซื้อมอเตอร์ไซค์ ซื้อโทรศัพท์ ซ่อมแซมทำบ้าน แต่พอราคาข้าวตกลงมาเหลือ 8,000 บาท ก็ยังอยู่ได้ แต่ไม่มีเงินซ่อมบ้าน ไม่ซื้อมอเตอร์ไซค์ คนขายมอเตอร์ไซค์ก็เลยแย่

ปัญหามันอยู่ที่ว่า ชาวบ้านมีหนี้สินกันทุกคน มีรายได้มากก็ไปจ่ายหนี้หมด

ผมยิงคำถามกลับไปว่า จริง ๆ รัฐบาลก็ได้พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการต่าง ๆ ไปอย่างมากมาย จะไม่ช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นมาบ้างเลยหรือ

ท่านแสดงความเห็นกลับมาว่า มาตรการของรัฐดังกล่าวจะได้ประสิทธิผลน้อยสุด เพราะมีเบี้ยรายทางมาก ถึงจะไม่ใช่การคอร์รัปชั่น แต่ไร้ประสิทธิภาพในแง่การบริหารเงินการจัดการ และเป็นการกระตุ้นที่ผิดที่ผิดเวลา

พร้อมกับย้ำในตอนท้ายว่า ตอนนี้ แม้ประชาชนจะมีเงินในกระเป๋า นักธุรกิจยังมีเงิน แต่คงไม่ลงทุน เพราะไม่มั่นใจ ทิศทางทางการเมืองยังไม่ชัด ไม่รู้ว่าจะไปในทิศทางใด

ถึงนาทีนี้ ผมได้แต่ภาวนาว่าขอให้พระสยามเทวาธิราชดลบันดาลให้เรื่องเลวร้ายผ่านไปเร็ว ๆ และลงเอยด้วยดี


สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : อย่าให้ การเมือง ซ้ำเติมเศรษฐกิจ

view