จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ปธ.อนุฯเนื้อหารายการ กสทช. ชี้ช่อง3ขัดจริยธรรม ให้ "สรยุทธ" ออกจอเล่าข่าวหลังศาลพิพากษาคดีไร่ส้ม เตรียมหารือสภาวิชาชีพแก้ปัญหา
จากกรณีศาลอาญามีคำพิพากษาศาลชั้นต้น จำคุก 13 ปี 4 เดือน โดยไม่รอลงอาญา นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ดำเนินรายการทางช่อง 3 ในคดีบริษัทไร่ส้ม จำกัด ยักยอกเงินโฆษณาอสมท เมื่อวันที่ 29 ก.พ.ที่ผ่านมา
หลังจากนั้นช่อง3 ได้สนับสนุนให้นายสรยุทธ ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการข่าวต่อในวันที่ 1-3 มี.ค. ก่อนที่นายสรยุทธ จะโพสต์อินสตาแกรมช่วงเย็นวันที่ 3 มี.ค. ขอยุติการทำหน้าที่พิธีกร เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับช่อง3
อย่างไรก็ตามหลังจากศาลชั้นต้นมีคำพิพาษาเมื่อวันที่ 29 ก.พ. คณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการในกิจการกระจายเสียงและกิจการ โทรทัศน์ กสทช.ได้ประชุมวาระด่วนกรณีดังกล่าวในวันที่ 1 มี.ค. เพื่อพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวกับการกำกับดูแลผู้รับใบอนุญาต ช่อง3 ตามประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตการให้บริการกระจายเสียง หรือ โทรทัศน์ พ.ศ.2555 ข้อ 14 ที่ระบุให้ผู้รับใบอนุญาต ต้องกำกับดูแลรายการเป็นไปตามจริยธรรมและความเหมาะสม พร้อมเชิญตัวแทนช่อง3 ในฐานะผู้รับใบอนุญาตจาก กสทช. มาชี้แจงวานนี้ (7 มี.ค.)
พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการในกิจการกระจาย เสียงและกิจการโทรทัศน์ กสทช. เปิดเผยว่าวานนี้คณะอนุกรรมการ ได้เชิญช่อง3 ซึ่งนางนิมะ ราซิดี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สถานีวิทยุโทรทัศน์ทีวีสีช่อง 3 เป็นตัวแทนมาชี้แจง พร้อมกันนี้ คณะอนุกรรมการได้สอบถามแนวทางดำเนินการหลังศาลอาญามีคำพิพากษาศาลชั้นต้นจำ คุกนายสรยุทธ
โดยคณะอนุกรรมการเห็นว่าการที่ช่อง 3 ให้นายสรยุทธ ทำหน้าที่ผู้ดำเนินรายการหน้าจอต่อ หลังมีคำพิพากษาจำคุกนั้น แม้ไม่ผิดกฎหมาย กสทช. แต่เป็นเรื่องปัญหาจริยธรรมสื่อ ซึ่งเห็นว่าวิชาชีพสื่อควรพิจารณาเช่นเดียวกับข้าราชการตำรวจ กรณีกระทำผิดกฎหมายแม้กระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุด แต่ควรพิจารณายุติการทำหน้าที่ไปก่อน
ส่วนกรณีนายสรยุทธ ที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาแล้วต้องระงับออกหน้าจอในฐานะพิธีกรไปจนกว่าจะมีคำ พิพากษาศาลฎีกา แต่หากนายสรยุทธจะอยู่เบื้องหลังทางรายการของช่อง 3 หรือรายการที่ผลิตโดยบริษัทไร่ส้ม จำกัด คณะอนุกรรมการไม่ได้พิจารณาประเด็นนี้ เพราะกำกับดูแลช่อง3 ในฐานะผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรทัศน์ ที่ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบด้านจริยธรรมสื่อด้วย
"ช่อง3 ถือเป็นสื่อใหญ่ และมีอิทธิพลทางความคิดต่อผู้ชมจำนวนมาก การดำเนินกิจการต้องคำนึงถึงหลักจริยธรรมด้วย เพราะการทำหน้าที่ด้านสื่อนั้น จริยธรรมมีความสำคัญกว่ากฎหมาย ในช่วง 2วันแรกหลังมีคำพิพากษา ช่อง3 สนับสนุนการทำหน้าที่ต่อโดยให้เหตุผลต้องการดูแลบุคลากรเหมือนคนในครอบครัว และเพิ่งยุติทางบทบาทหน้าจอหลังจากผ่านไปแล้ว 2 วัน"
กรณีที่เกิดขึ้นถือเป็นปัญหาจริธยธรรมสื่อซึ่งเป็นเรื่องใหม่ ที่กสทช.จะร่วมกับสภาวิชาชีพสื่อผลักดันแนวทางการกำกับจริยธรรมสื่อ พร้อมเสนอคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.) การกำหนดหลักเกณฑ์และประกาศเพื่อนำไปบังคับใช้ต่อไป
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน