จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ Market-think โดย สรกล อดุลยนนท์
การตัดสินใจปลดพนักงานด้านธุรกิจเพลงประมาณ 80 คนของ "แกรมมี่" ด้วยเหตุผลว่าโครงสร้างธุรกิจเพลงเปลี่ยนไปแล้ว
งานที่เคยจำเป็นในอดีต ในวันนี้ไม่มีความจำเป็นแล้ว
นี่คือปรากฏการณ์ล่าสุดของธุรกิจเพลงในกระแสลมแห่งความเปลี่ยนแปลง
ธุรกิจเพลงนั้นต้องปรับตัวเองมาหลายระลอกเพื่อหาสมดุลใหม่
เริ่มจาก"เทปผี-ซีดีเถื่อน"
จนถึงการดาวน์โหลดฟรี
รายได้ที่เคยได้จากการขายเทป-ซีดี หรือการดาวน์โหลดเริ่มลดลงเรื่อย ๆ
ศิลปินที่เคยร้องเพลงอัดเทปหรือซีดีครั้งเดียว แล้วรอคอยส่วนแบ่งรายได้ ก็ต้องออกแรงมากขึ้น
ทั้งเล่นคอนเสิร์ตและเล่นตามผับ
เพราะส่วนแบ่งรายได้จากการขายน้อยลง
ซีดีวันนี้แทบจะไม่เหลือพื้นที่การขายแล้ว
ยอดขายต่ำลงเรื่อยๆ
ผมเชื่อว่าอีกไม่นาน ค่ายเพลงอาจต้องเลิกขายซีดี
เพราะไม่คุ้มกับการลงทุน
นอกจากนั้น สถานะความยิ่งใหญ่ของค่ายเพลงก็เริ่มเปลี่ยนไปตาม "เทคโนโลยี"
สมัยก่อนศิลปินต้องอาศัยค่ายเพลง เพราะการลงทุนเรื่องเพลงทั้งการอัดเพลงและโปรโมตสูงมาก
ห้องอัดเสียงต้องลงทุนหลายสิบล้าน
แต่เดี๋ยวนี้ใช้คอมพิวเตอร์ตัวเดียวก็ทำเดโมเทปได้
หรือเรื่องการโปรโมตเพลงสมัยก่อนศิลปินต้องพึ่งค่ายเพลงเพราะค่ายเพลงกุมสื่อที่จะโปรโมตเพลงทั้งทีวีและวิทยุ
แต่วันนี้เทคโนโลยีทำให้การประชาสัมพันธ์เพลงเปลี่ยนไป
ใครๆก็ทำเพลงและโปรโมตเพลงเองได้ผ่าน"ยูทูบ"
ผ่านโซเชียลมีเดีย
"ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน" คือตัวอย่างล่าสุด
"เทคโนโลยี" ทำให้ "ศิลปิน" มีอำนาจต่อรองมากขึ้น
จาก "ดาวเคราะห์" กลายเป็น "ดาวฤกษ์" ที่มีแสงในตัวเอง
และวันนี้คนในแวดวงบันเทิงแทบทุกคนมี "สื่อ" เป็นของตัวเอง
ไม่ว่าจะเป็นแฟนเพจ อินสตาแกรม หรือทวิตเตอร์
ดาราหรือศิลปินบางคนมีสังกัด ค่าตัวการรับงานต้องแบ่งให้ค่าย
แต่รายได้ผ่านสื่อของตัวเอง ไม่ต้องแบ่งใคร
ดังนั้น อย่าแปลกใจที่ดาราจะถ่ายรูปในชุดว่ายน้ำลงอินสตาแกรมให้เราดูฟรี แทนที่จะถ่ายลงนิตยสารที่ได้เงิน
เพราะเธออยากได้ยอดฟอลโลว์มากขึ้น
ดาราคนไหนมียอดคนติดตามมากงานอีเวนต์จะเยอะเพราะค่าตัวจะพ่วงกับการถ่ายรูปลงอินสตาแกรม
นอกจากนั้นยังมีรายได้จากสินค้าที่ติดต่อให้ลงโฆษณาผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว
อย่างล่าสุดที่เป็นข่าว "เบนซ์" พรชิตาถ่ายรูปข้าวไรซ์เบอรี่ลงในอินสตาแกรมส่วนตัว
ค่าลงสื่อส่วนตัว 90,000 บาท
ส่วนดาราหรือศิลปินทั่วไปที่มียอดคนติดตามมากพอสมควร ลงรูปในอินสตาแกรม 15 วัน
40,000 บาท
บางคนทำรายได้จากช่องทางนี้เดือนละ 3-4 แสนบาท
จากการถ่ายรูปคู่กับสินค้าลงอินสตาแกรม
นี่คือพลังของ "คนตัวเล็ก" ในโลกยุคใหม่
ดังนั้น การปรับตัว ปรับคนของ "แกรมมี่" จึงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายของความเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจบันเทิง
ต่อจากนี้ไปเราคงได้เห็นอะไรอีกมากมาย
โปรดติดตามตอนต่อไป
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน