จากประชาชาติธุรกิจ
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ศาลฎีกาอิตาลีตัดสินว่าการขโมยอาหารเพียงเล็กน้อยเพื่อให้ชีวิตรอดพ้นจาก ความหิวโหย ไม่ควรถูกพิจารณาว่าเป็นการกระทำผิดทางอาญาในคดีของนายโรมัน ออสเทรียคอฟ ชายเร่ร่อนชาวยูเครนที่มาอาศัยอยู่อย่างยากไร้ในเมืองเจนัว ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี ที่ก่อเหตุลักขโมยชีส 2 ชิ้นพร้อมไส้กรอก 1 ห่อ มีราคารวม 4.07 ยูโร หรือประมาณ 163 บาท จากซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งในการก่อเหตุเมื่อปี 2554
ใน ปี 2558 นายออสเทรียคอฟถูกศาลตัดสินว่ามีกระทำผิดจากการลักขโมยชีสและไส้กรอกดัง กล่าว โดยถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน และปรับเป็นเงินอีก 100 ยูโร หรือ ราว 4,000 บาท ทั้งนี้ อัยการอุทธรณ์คำตัดสิน โดยแย้งว่าจำเลยไม่ควรถูกตัดสินว่ากระทำผิดฐานลักขโมย แต่ควรจะถูกตัดสินว่าพยายามลักขโมย เนื่องจากจำเลยถูกจับได้ก่อนที่เขาจะออกไปจากซุปเปอร์มาร์เก็ตอันเป็นสถาน ที่ก่อเหตุ
แต่ในการพิจารณาคดีครั้งนี้ ศาลฎีกาอิตาลีได้ยกฟ้องคำตัดสินของศาลก่อนหน้านี้ โดยให้เหตุผลว่าปัจจัยและสภาพแวดล้อมที่ทำให้จำเลยได้สินค้าเหล่านั้นมาแสดง ให้เห็นว่าเขานำอาหารมาในปริมาณเล็กน้อยเท่าที่เขาจำเป็นเท่านั้นเพื่อมาประทังความหิวโหยของร่างกาย
ที่มา มติชนออนไลน์
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน