จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์สามัญสำนึก โดย เมตตา ทับทิม

7 สิงหาคม 2559 กับ 8 พฤศจิกายน 2559 นักธุรกิจไทยเขารออะไรอยู่ ?

วันนี้ชวนคุยเท่ ๆ เริ่มต้นด้วยการเมืองเพื่อมองหาสัญญาณทางเศรษฐกิจ

7 สิงหาคม รู้กันอยู่ว่าเป็นวันโหวตประชามติร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ของประเทศไทย

ทาง "อ.อนุสรณ์ ธรรมใจ" รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ ม.รังสิต ออกมาฟันธงแต่ไก่โห่ว่า ไม่ว่าโหวต "รับ-ไม่รับ" ก็ตาม ไม่มีผลต่อภาวะเศรษฐกิจไทยในระยะสั้นเฉพาะหน้า ทั้งด้านบวกและด้านลบ

โดยยืนยันพยากรณ์อัตราขยายตัวของเศรษฐกิจปีนี้ไม่เปลี่ยนแปลง อยู่ที่ 3.2-3.5%

และให้คะแนนตัวช่วยครึ่งปีหลังจะมาจากการลงทุนเพิ่มของภาครัฐ และอาการกระเตื้องการลงทุนของภาคเอกชน พระเอกจำเป็นอีก 2 ตัวช่วย คือ ภาคการท่องเที่ยว คาดว่าดีขึ้นกว่าที่ประเมินเล็กน้อย ขณะที่ภาคการส่งออกมีแนวโน้มติดลบจากเป้า อาจจะ -1 ถึง -2%

คุยกับดีเวลอปเปอร์หลายราย ความเห็นสอดคล้องกันเรื่องโหวตประชามติ คือให้น้ำหนักว่าเป็นความเสี่ยงน้อยกว่าปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ในช่วงครึ่งปีหลัง

ที่แน่ ๆ ก็มี "พี่เทน-อุเทน คงสุนทรกิจกุล" กรรมการผู้จัดการค่ายปริญสิริ บอกว่า ตอนนี้คนเขารอดูผลโหวตประชามติก็จริง แต่น้ำหนักข้อกังวลดูจะเทไปให้กับแนวโน้มไตรมาส 3/59 มากกว่า

เหตุผลเพราะผ่านมาแล้วครึ่งปีแรก แทบจะแยกไม่ออกระหว่าง "เผาจริง-เผาหลอก" ทั้ง ๆ ที่มีมาตรการรัฐกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ด้วยการลดค่าโอน-จดจำนองจากล้านละ 3 หมื่น เหลือล้านละ 300 บาทออกมา บริษัทอสังหาฯแทบทุกรายก็ยังคงกำสต๊อกบวมอยู่ในมือ

วงการอสังหาฯเขาแอบนินทามาด้วยว่า มาตรการรัฐกระตุ้นอสังหาฯชะรอยเป็นตัวช่วยการเคหะแห่งชาติใช้ระบายสต๊อกบ้านเอื้ออาทรมากกว่าช่วยเอกชนกระมังเพราะสอบถามใคร ทุกคนล้วนถูกแป้กไม่อนุมัติสินเชื่อซื้อบ้าน

อีกราย "ดร.ฮ้อ-ดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต" ซีอีโอค่ายธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ คนนี้ตะโกนออกมาดัง ๆ ว่า คนอสังหาฯตอนนี้ปรับทุกข์กันเรื่องกำลังซื้อตลาดล่างแป้กยาวถึงปี′60 ต่างคนต่างจ้องกำลังซื้อตลาดกลาง-บน ทอนออกมาเป็นราคาอสังหาฯ 7 ล้านบาทอัพ

ซึ่งเศรษฐกิจโลกมีผลต่อกำลังซื้อราคาแพงโดยตรง

"อสังหาฯราคาต่ำกว่า 7 ล้าน ตลาดน่าจะตกต่ำลากยาวถึงปีหน้า เพราะในมุมดีเวลอปเปอร์ หลังอเมริกาเลือกตั้งแล้ว ทุกอย่างชัดเจนขึ้น ก่อนหน้านี้ทุกคนรอดูเบร็กซิตของอังกฤษ เพราะทุกคนไม่ได้รอดูบอลยูโรกับโอลิมปิก แต่รอเลือกตั้งอเมริกา"

ถ้าโดนัลด์ ทรัมป์ มา นโยบายเน้นอเมริกันเฟิรสต์ (เมืองไทยเรียกประชานิยม เอ้ย...ประชารัฐ) โมเมนตัมกลับไปที่ตะวันตก แนวโน้มถอนการลงทุนแบบถอนยวง หรือถอนลงทุนที่ไม่เห็นผลระยะสั้น ทำให้ตะวันออก เน้นที่จีนมีโอกาสบุกการลงทุนมากขึ้น

ถ้าฮิลลารี คลินตัน มา มองว่าคงเดินนโยบายเดิม ๆ อเมริกายังมีบทบาทบนเวทีเศรษฐกิจโลกอยู่ต่อไป

"ไม่ว่าใครชนะ ผู้ประกอบการไทยส่วนใหญ่เชื่อว่า เราค้าขายกับจีนได้ง่ายอยู่แล้ว แต่อาจจะติดว่าในมุมการส่งออกที่มีปริมาณการค้าเยอะ ๆ ยังอิงกับตลาดตะวันตก"

กับดักเศรษฐกิจไทย อ่านจากวงการอสังหาฯ มีภาพไม่แตกต่างจากภาคธุรกิจอื่น นั่นคือติดกับดักสินเชื่อ แบงก์ไม่ปล่อยกู้ทั้งในฝั่งผู้ประกอบการและผู้บริโภค

ถามว่าเลือดเข้าตาขนาดไหน ก็ขนาดที่มีบางบริษัทลุกขึ้นมาทำแคมเปญลดราคา 25% มีข้อแม้ต้องซื้อ 2 ยูนิตพร้อมกัน (ยูนิตแรกราคา 100% ยูนิตที่สองเหลือ 50%)

สอบถามแบงก์ก็คงไม่ปล่อยกู้อยู่ดี ถ้านโยบายสินเชื่อไม่ผ่อนปรน พูดเรื่องนี้ทีไร เป็นต้องเจอทางตันจ่ออยู่ที่ "ธปท.-ธนาคารแห่งประเทศไทย" อีกจนได้

นิมนต์แบงก์ชาติช่วยลงมาปลดล็อกสินเชื่อด้วยเถอะ จะเป็นพระคุณอุ้มเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง เอกชนเขาคอมเมนต์มาอย่างนั้นค่ะ

สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน