จากประชาชาติธุรกิจ
คอลัมน์ คิด วิเคราะห์ แยกแยะ โดย วีระพงษ์ ธัม www.facebook.com/10000Li
การลงทุนคือหัวใจสำคัญที่จะอยู่รอดในโลกยุคนี้ ยุคที่สินทรัพย์มีราคาเพิ่มขึ้นเร็วกว่าความสามารถในการหารายได้ของคนทั่วไป สำหรับคนยุคก่อน เงินล้านคือความฝันทั้งชีวิต แต่ปัจจุบันเงินล้านแทบจะซื้อบ้านเล็ก ๆ ซักหลัง หรือรถขนาดกลางหนึ่งคันไม่ได้
ดังนั้นตำราที่บอกว่า ให้ทำงานหนักขึ้น เพื่อหารายได้มากขึ้น และเก็บออมไว้เกษียณ อาจใช้ได้ดีในยุค Baby Boomer แต่ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับยุคปัจจุบัน ยิ่งเรามีความตื่นตัวเรื่องการลงทุน ก็ยิ่งทำให้ราคาสินทรัพย์ลงทุนเกือบทุกชนิด รวมถึงหุ้นมีราคาแพงขึ้น ดังนั้นการลงทุนที่เป็นทางออกสำหรับชีวิตยุคนี้ก็เป็นทางที่อันตรายที่สุดได้ ตอนนี้หนังสือหุ้นเปลี่ยนชีวิตครบ 3 ปีเต็ม ผมอยากจะเพิ่มกลยุทธ์การลงทุน 30 ข้อ ที่น่าจะเอาไว้ใช้ให้เราต้องเอาตัวรอดจากการลงทุนในหุ้น
1.หัวใจของการลงทุนหุ้นอยู่ที่การซื้อธุรกิจที่"แข็งแรง""มีการเติบโต"และ "ราคาต่ำกว่ามูลค่า" การลงทุนในบริษัทที่ "ไม่แข็งแรง" เป็นสิ่งแรกที่ควร "หลีกเลี่ยง" เพราะการแข่งขันในธุรกิจมักจะสร้างปัญหาให้บริษัทที่อ่อนแอที่สุด คล้าย ๆ กับสารคดีที่บอกว่า ในทุก ๆ วัน กวางที่วิ่งช้าที่สุดจะตกเป็นเหยื่อของสิงโต นอกจากนั้นธุรกิจต้องมีการ "เติบโต" อย่างน้อยก็มากกว่าเงินเฟ้อ หรือ GDP เพราะนี่คือปราการสำคัญสำหรับการคงมูลค่าเงินลงทุน สุดท้ายแล้วราคาที่เราซื้อ "ไม่ควรจะแพง" จนเกินไป เพราะสามสิ่งนี้ช่วยป้องกันปัญหาการลงทุนประเภท "ขาดทุนถาวร"
2.หุ้นที่ดีจะต้องมีพัฒนาการเชิงบวกที่ดีกว่าตลาดคาดการณ์ นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่ยอดเยี่ยมจากการลงทุน หากสามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า และเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนเสาะแสวงหาพัฒนาการเชิงบวก เช่น หาบริษัทที่การลงทุนใหม่ ๆ ที่น่าตื่นเต้น (หุ้นเติบโตสูง) การเปลี่ยนผู้บริหาร หรือการแก้ปัญหาที่เรื้อรังของธุรกิจ (หุ้น Turn Around) การเปลี่ยนแนวโน้มของอุตสาหกรรมที่ตกต่ำ (หุ้นวัฏจักร) อย่างไรก็ดี เราควรจะยึดหลักสำคัญข้อแรกไว้ก่อน ว่าการลงทุนควรจะหลีกเลี่ยงการขาดทุนถาวร ก่อนที่จะมุ่งหาผลตอบแทนและมองหา "ข่าวดี" เหล่านี้
3.สิ่งที่ต้องรู้คือ นักลงทุนจำนวนมากต่างพยายามใช้วิธีเดียวกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดเช่นเดียวกับเรา นี่คือการแข่งขันที่รุนแรง และถึงเราจะอ่านตำราลงทุนแบบบัฟเฟตต์จนจบ เราก็อาจจะเป็นบัฟเฟตต์ไม่ได้ ส่วนที่สำคัญมากคือ "ประสบการณ์" ที่ต้องใช้ "ระยะเวลาสั่งสม" ท่ามกลางความไม่แน่นอนในตลาดหุ้น สิ่งที่แน่นอนที่สุดคือ ความผิดพลาดจะต้องเกิดขึ้นกับนักลงทุนทุกคน เราไม่ได้พยายามหลีกหนีความผิดพลาดและมองหาความสมบูรณ์แบบจากการลงทุน แต่เราพยายามจะจำกัดความเสี่ยงมัน และเรียนรู้ เพราะนี่คือ "ประสบการณ์ที่มีคุณค่าสูง"
5.ความเป็นอิสระต่อฝูงชน นักลงทุนที่ดีจะต้องมีความคิดเป็นอิสระจากคนอื่น นี่คือสิ่งที่น่าอึดอัดสำหรับสัญชาตญาณมนุษย์ เรามีแนวโน้มที่จะสบายใจที่จะถ้าทำตามคนอื่น นักลงทุนต้องทนความรู้สึกโดดเดี่ยวและไม่สบายใจได้ เพราะหุ้นจะขึ้นในขณะที่นักลงทุนไต่กำแพงแห่งความกังวล และหุ้นจะตกลงอย่างหนัก หลังจากที่ทุกคนรู้สึกสบายใจและปลอดภัย
6.เราจำเป็นต้องพัฒนา "ไอเดียการลงทุน" ไม่ว่าจะเป็นการ "เปิดใจ" รับฟังไอเดียใหม่ ๆ การอ่าน สังเกต คิด วิเคราะห์จึงเป็นส่วนสำคัญ เพราะนักลงทุนควรจะพยายามนำความคิดและข้อมูลต่าง ๆ ตกผลึกเป็นไอเดียดี ๆ ในการลงทุน นักลงทุนที่ชนะตลาดได้ มักจะมีข้อมูลในเชิงคุณภาพและปริมาณของบริษัท หรืออุตสาหกรรมที่ตัวเองลงทุนเหนือกว่าค่าเฉลี่ยของคนทั่วไป และผู้ที่เสียหายหนักคือ นักลงทุนที่รู้น้อยที่สุด
7.จงระวังการหาข้อมูลในการลงทุน เรามักจะมีแนวโน้มหาข้อมูลด้านบวกเพื่อสนับสนุนแนวคิดตัวเอง และละเลยมองข้ามข้อมูลเชิงลบที่ขัดแย้งกับความเชื่อของเรา การที่เรากำไรจากหุ้นจะยิ่งทำให้เราคิดเข้าข้างตัวเองมากขึ้น บางครั้งหุ้นขึ้นหรือลงได้โดยไร้เหตุผล ซึ่งจะทำให้ความโชคดี แปรเปลี่ยนไปเป็นความโชคร้าย
8.อดีตไม่ได้บอกอะไรมากไปกว่า บอกว่ามันคือสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว มันใช้บอกอนาคตได้ในบางสถานการณ์เท่านั้น ถ้าเราตัดสินใจการลงทุนโดยการมองตัวเลขงบการเงิน เหมือนขับรถโดยมองแค่กระจกหลัง ในทางคณิตศาสตร์ ถ้าเราเห็นเลข 2 4 6 เราก็จะเดาว่าตัวเลขต่อไปคือ 8 แต่สำหรับการลงทุน มันอาจจะเป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้น
ติดตามต่อได้ในตอนถัดไปครับ
สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน