จากประชาชาติธุรกิจ
ถ้าถามถึงตำแหน่งหน้าที่การงานที่หลายๆ คนใฝ่ฝัน เชื่อว่า "ซีอีโอ" หรือประธานเจ้าหน้าที่บริหาร จะเป็นหนึ่งในคำตอบที่ใครหลายคนปรารถนา
เพราะซีอีโอมีทั้งอำนาจกุมบังเหียนองค์กร รวมทั้งได้รับผลตอบแทนอย่างงาม และเดินทางไปโน่นมานี่ตลอดเวลา แล้วอย่างนี้ใครจะไม่อยากเป็นซีอีโอ แต่ยังมีความลับของซีอีโอที่หลายคนยังไม่รู้ เพราะการมีหัวโขนก็เหมือนยิ่งเดินขึ้นที่สูง "ยิ่งสูง ยิ่งหนาว"
ซีเอ็นเอ็น รายงานผลการศึกษาของ "สตีฟ แทปปิน" ผู้เขียนหนังสือเรื่อง "ความลับของซีอีโอ" ที่สัมภาษณ์ซีอีโอ 150 คน ทั้งในแง่ธุรกิจ ความเป็นผู้นำ และความจริงที่ยากลำบากของงานในความรับผิดชอบ โดยพบแง่มุมที่น่าสนใจว่า ราว 2 ใน 3 ของซีอีโอที่ตอบคำถามสัมภาษณ์กำลังดิ้นรนต่อสู้ เพราะไม่มีสถานที่ไหนที่จะสอนวิธีเป็นซีอีโอได้จริงๆ แต่พวกเขาต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง
แทปปินได้ร่วมมือกับนักประสาทวิทยา เพื่อทดสอบบรรดาซีอีโอ ทั้งด้านร่างกายและระบบประสาท ซึ่งพบว่า ซีอีโอเหล่านี้ทำงานหนักเกินไป มีความเครียดมากเกินไป และอ่อนระโหยโรยแรง
โดยความรู้สึกหลักๆ ของซีอีโอ คือ ความคับข้องใจ ผิดหวัง ฉุนเฉียว และรู้สึกชนะอย่างเด็ดขาด ซึ่งนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนด้านสุขภาพ เพราะหากมีความรู้สึกแบบนี้ถึง 80% ในแต่ละวัน ก็จะทำให้เกิดความเครียด และฮอร์โมนคอร์ติซอลในร่างกาย ซึ่งจะทำให้แก่เร็ว มีความเสี่ยงที่จะหัวใจวายและเป็นโรคมะเร็ง
ในหลายกรณี ซีอีโอเหล่านี้ใช้พลังงานไปมากและมีความเครียด ทำให้เหลือพลังงานน้อย แต่ผู้คนต่างคิดกันว่าซีอีโอนั้นเก่งเกินมนุษย์ แต่ที่จริงพวกเขาต้องต่อสู้กับงานที่ยากมากๆ
การเป็นซีอีโอนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจระดับโลก ยิ่งทำให้การขับเคลื่อนองค์กรมีความซับซ้อนมากขึ้นอีก ขณะที่มีเรื่องต้องตัดสินใจแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนี้ ธุรกิจโลกยังหมายถึงการเดินทางไปทั่วโลก ซึ่งไม่เพียงแค่การเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางข้ามโซนเวลาที่แตกต่างกัน แต่ยังอาจต้องเปลี่ยนสถานที่ทำงานบ่อยๆ ดังที่อดีตซีอีโอของริโอ ตินโต บอกว่า เขาและภรรยา ย้ายบ้านมา 19 หลังแล้ว นับตั้งแต่แต่งงานกัน
ภาวะเศรษฐกิจขาลงยิ่งทำให้แรงกดดันของซีอีโอเพิ่มขึ้น เพราะต้องปรับลดพนักงานไปพร้อมๆ กับสร้างแรงกระตุ้นให้กับคนที่ยังอยู่
นอกจากนี้ ซีอีโอยังทำงานอย่างโดดเดี่ยว และไม่รู้ว่าจะหาใครมาให้คำแนะนำ เพราะคุณจะไม่มีกลุ่มก้อน เหมือนอย่างตอนที่เป็นหนึ่งในทีมผู้บริหารในบริษัทใหญ่ๆ
ขณะที่ราว 90% ต้องดิ้นรนเพื่อสร้างสมดุลระหว่างการงานและชีวิตส่วนตัว ซีอีโอรายหนึ่งให้สัมภาษณ์ว่า เขาแต่งงานมา 2 ครั้งแล้ว และเขาจำไม่ได้กระทั่งว่าลูกชายโตแค่ไหนแล้ว หรือตอนเด็กๆ พวกเขาเป็นยังไง
อย่างไรก็ตาม มีซีอีโอบางคนที่บริหารงานและชีวิตได้ดี อาทิ "ฟิลิป กรีน" ซีอีโอของบริษัทอังกฤษ "ยูไนเต็ด ยูทิลิตี้ส์" ที่มีสูตรในการใช้ชีวิต "5 f" คือ ความเชื่อถือศรัทธา (faith) ครอบครัว (family) ความแข็งแรง (fitness) ความสนุก (fun) และองค์กร (firm) โดยเขา ไม่ได้ให้น้ำหนักกับองค์กรเป็นอันดับ 1 ซึ่งนี่ทำให้เขาประสบความสำเร็จทั้งในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว