จากประชาชาติธุรกิจ

คอลัมน์ มุมคิดคนข่าว โดย ดิสก์ ประชาชาติ nart_burapa@hotmail.com

ไม่กี่วันมานี้ "สมชัย สัจจพงษ์" ปลัดกระทรวงการคลังแจ้งว่า จะให้ธนาคารของรัฐจัดทำ "เสื้อสีดำ" แจกประชาชนผู้มีรายได้น้อย เพื่อจะได้เอาไว้ใส่ในช่วงเวลาแห่งการไว้ทุกข์ไปตลอด 1 ปีข้างหน้านี้ โดยการแจกเสื้อจะใช้ช่องทางที่มีการขึ้นทะเบียน "สวัสดิการแห่งรัฐ" เอาไว้ ซึ่งรอบปี 2559 มีประชาชนมาลงทะเบียนไว้ทั้งสิ้นกว่า 8.3 ล้านราย

สิ่งที่อยากบอกก็คือ ขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังคิด "สวัสดิการ" ที่จะให้กับผู้มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนไว้ และจะทยอย "เข็น" ออกมาเรื่อย ๆ โดยที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ไฟเขียวไปแล้ว และอยู่ในกระบวนการ "รอจ่าย" ก็คือ มาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อย โดยเกษตรกรที่มีรายได้ไม่เกิน 3 หมื่นบาทต่อปี จะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีคนละ 3,000 บาท ส่วนเกษตรกรผู้มีรายได้สูงกว่า 3 หมื่นบาทต่อปี แต่ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี จะได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีคนละ 1,500 บาท

เบ็ดเสร็จแล้วโครงการนี้จะใช้เงินรวมทั้งสิ้น 6,540 ล้านบาท

โดยจากการซักถาม "ลักษณ์ วจนานวัช" ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) บอกว่า ภายในกลางเดือน พ.ย.นี้น่าจะสามารถเริ่มจ่ายเงินตามมาตรการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรผู้มีรายได้น้อยนี้ได้ เพราะระหว่างนี้ เป็นช่วงของการตรวจสอบผู้มีสิทธิ์ และปฏิบัติตามข้อเสนอแนะของทางสำนักงบประมาณที่ให้ร่วมกับทางกระทรวงมหาดไทยในการทำประชาคม เพื่อยืนยันผู้มีสิทธิ์อีกครั้ง ซึ่งเมื่อตรวจสอบสิทธิ์ต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ธ.ก.ส.จะโอนเงินเข้าบัญชีให้แก่เกษตรกรโดยตรง โดยเกษตรกรที่มีสิทธิ์ได้รับสวัสดิการนี้มีทั้งสิ้น 2.85 ล้านคน

ส่วนสวัสดิการอีกตัวที่มีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้ก็คือ "ประกันภัยอุบัติเหตุผู้มีรายได้น้อย" ที่รัฐจะออกค่าเบี้ยประกันภัย 99 บาทต่อคนต่อปี (ไม่รวมภาษีอากรแสตมป์) ให้กับประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนไว้ โดยใช้งบประมาณราว ๆ 800 ล้านบาท

เบื้องต้นทางเอกชนเสนอความคุ้มครอง จะประกอบไปด้วย 1) กรณีเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงเนื่องจากอุบัติเหตุ ไม่รวมกรณีถูกฆาตกรรม อุบัติเหตุการขี่มอเตอร์ไซค์ วงเงินคุ้มครอง 100,000 บาทต่อคน

2) กรณีเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง จากการถูกฆาตกรรมลอบทำร้ายร่างกาย และ/หรืออุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ วงเงินคุ้มครอง 50,000 บาทต่อคน และ 3) ชดเชยรายได้ระหว่างการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล จากอุบัติเหตุ 300 บาท/วัน สูงสุด 20 วัน

นี่เป็นเพียง "น้ำจิ้ม" เพราะเท่าที่ได้ยินมา "สวัสดิการ" จะยังมีอีก "หลายตัว" ที่จะทยอยออกมา

อนาคตที่ไกลออกไปหน่อย ก็น่าจะมีสวัสดิการที่เกี่ยวกับ "สาธารณูปโภคพื้นฐาน" ต่าง ๆ ไม่ว่าจะ "โดยสารรถเมล์ฟรี-โดยสารรถไฟฟรี-ใช้ไฟฟ้าฟรี-ใช้น้ำประปาฟรี" ซึ่งต้องรอให้ทางภาครัฐจัดวางระบบต่าง ๆ ให้รองรับก่อน แต่ก็คงไม่น่าจะใช้เวลานานนัก

ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นการ "ตอบโจทย์" การจ่ายสวัสดิการให้แก่ประชาชนอย่างมี "แบบแผน" มากขึ้น จะได้ไม่ "ผิดฝาผิดตัว" เหมือนกับหลาย ๆ นโยบายที่ผ่านมา

ส่วนปีนี้ผู้มีรายได้น้อย (ผู้ที่มีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี) รายใดที่ "พลาด" การลงทะเบียนไป ภาครัฐจะมีการเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่ในปีหน้าช่วงวันที่ 1-30 ก.ย. 2560 (ต่อไปรัฐจะเปิดให้ลงทะเบียนช่วงดังกล่าวนี้ทุกปี)

อย่าพลาดอีกก็แล้วกัน

สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน