สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

บันทึก ณ สนามหลวง

จากประชาชาติธุรกิจ

เสียงของพสกนิกรที่ไปร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีในวันที่ 22 ตุลาคม 2559 ทุกคนต่างเดินทางไปด้วยความตั้งใจจริง เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและร่วมแสดงความไว้อาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และบันทึกภาพประวัติศาสตร์ที่จะจารึกอยู่ในความทรงจำของคนไทยไปอีกตราบนานเท่านาน



แม้อากาศจะร้อนสักปานใดแม้ระยะจะไกลสักเพียงไหนหรือจะรอนานสักเพียงใด แม้ต้องเดินทางเข้าสู่ใจกลางสนามหลวง แต่ไม่มีใครย่อท้อหรือถอนตัว

"อุดมโชค ชูรัตน์"
ผู้อำนวยการโรงเรียนอาชีวะพระมหาไถ่ พัทยา และคณะ ซึ่งราวครึ่งคณะเป็นผู้พิการนั่งวีลแชร์ คือหนึ่งในผู้มีความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช และได้ร่วมแสดงออกด้วยการเดินทางเข้ามายังพื้นที่ของสนามหลวงในวันที่ 22 ตุลาคม 2559 เพื่อร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ไม่ว่าจะต้องรอนานหรือร้อนเพียงใดก็ไม่หวั่น และต้องเข็นวีลแชร์มาไกล ก็ไม่ทำให้พวกเขาท้อหรือถอย



"ผมกับเพื่อน ๆ บางส่วนเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนด้วย เดินทางมาจากพัทยาตั้งแต่ 7 โมงเช้าครับ มาถึงกรุงเทพฯ ช่วง 10 โมง การเดินทางของพวกเราอาจจะไม่ค่อยสะดวกนัก จึงทำให้วันนี้เป็นวันแรกที่พวกเราได้มาที่นี่ แต่เราก็ตั้งใจมาก วันนี้มีการปิดถนน เราต้องจอดรถไว้ฝั่งปิ่นเกล้า และช่วยกันเข็นวีลแชร์ข้ามสะพานมา เรามาด้วยความรู้สึกที่ไม่ต่างจากคนไทยทุกคน เมื่อรู้ว่าพ่อจากไปแล้ว การมีกิจกรรมร่วมกันที่แสดงพลังกายพลังใจเพื่อความรำลึกถึงพระองค์ท่าน เราก็อยากเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมนั้นเช่นกัน"


อีกหนึ่งความรู้สึกของผู้ที่มารอร่วมจุดเทียนและร้องเพลงในตอนค่ำคืน "บงกชใช้สุวรรณ" นักธุรกิจที่พาน้องสาวและเพื่อน ๆ เดินทางไปที่ท้องสนามหลวงตั้งแต่บ่ายบอกเล่าความรู้สึกที่ได้ร่วมกิจกรรมครั้งสำคัญนี้ว่า



"เชื่อว่าทุกคนก็รู้สึกเหมือนกันทุกคนต้องหันหลังให้พระบรมมหาราชวังซึ่งทุกคนรู้ดีว่าเบื้องหน้าไม่ใช่พระบรมศพ แต่ทุกคนก็นึกถึงพระองค์ท่าน ก่อนร้องเพลงเราก็ทำสมาธิ อยู่กับตัวเอง ยังไม่ทันได้ร้องเพลงน้ำตาก็ไหลแล้ว เพราะแค่หลับตา ภาพในอดีตก็ผุดขึ้นมาอย่างชัดเจน ภาพที่เราเดินไปเจอวัว เจอทุ่งนา เจอโรงงานนู่นนี่นั่น เจอบ้านพักคนงาน เจออาคารหลังเล็ก ๆ ตอนนั้นเรายังเด็กมากเราถามคนแถวนั้นว่า ไหนวังในหลวง ไหนครูบอกว่าเราจะพาเข้าวัง เจ้าหน้าที่ก็ตอบกับเราว่า ...นี่แหละวัง

บ่ายวันนี้ (22 ต.ค. 59) มันร้อนมาก ๆ นะ ร้อนมากแบบไหม้ ๆ สนามหลวงมันเป็นที่โล่งกว้าง แต่คนส่วนใหญ่ก็นั่งกางร่มกันตั้งแต่แดดออกจนแดดร่มแต่มีฝนมาแทน เพื่อรอเวลาสี่ทุ่ม เป็นการรอคอยที่คุ้มค่ามากไม่ว่าจะเดินไปไหนก็เห็นแต่น้ำใจคนไทยยืนแจกของแบ่งปันกัน ภาพตรงหน้าเป็นภาพที่ดีมาก รอยยิ้มที่มีให้กันเหมือนคำตอบที่ทุกคนคุยกันว่า เรามาเพื่อพระองค์ท่าน ความเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าหายเป็นปลิดทิ้ง พวกเรารอตั้งแต่บ่ายสองจนสี่ทุ่ม เทียนเล่มน้อยที่ทุกคนมีในมือและที่หลายคนหอบหิ้วมาเผื่อคนอื่น ๆ น้ำใจที่ล้นทะลักผู้คนหลายแสนคนแต่เทียนมีมากกว่านั้น



ยิ่งตอนฝนตก เรารู้แน่แล้วว่าตก สิ่งที่เห็นมันคือการกางร่มพรึ่บพรั่บ แต่ไม่มีซักคนที่วิ่งออกไปหลบฝนที่อื่น ทุกคนยังคงนั่งอยู่ในร่ม ถามว่าเปียกมั้ย เปียกแน่นอน เพราะร่มคันนึงแบ่งกันสามคน บางคนก็นั่งตากฝนไปอย่างนั้นโดยไม่รู้ด้วยว่าฝนจะหยุดตกเมื่อไหร่ จนเวลาสามทุ่มสี่สิบห้า ทำนองเสียงเพลงสรรเสริญดังขึ้น คนที่นั่งอยู่ต่างพากันลุกขึ้นยืนพรึ่บพรั่บ แบบอัตโนมัติทุกคนหุบร่มแบบไม่ต้องบอก แม้ฝนยังตกอยู่ก็ตาม แต่เมื่อได้เวลาจริง ฝนกลับหยุดตกอย่างกะทันหัน

การร้องรอบแรกต้องบอกว่า ขนลุกมาก เสียงบรรเลงดังขึ้นสองประโยคแล้วเพลงบรรเลงก็เงียบหายไป แต่ผู้คนยังคงร้องเพลงต่อแบบไม่มีเพลงบรรเลง เสียงมันกังวานฟังเหมือนเสียงสวดที่เศร้า ๆ ฟังแล้วซาบซึ้งยิ่งกว่าตอนมีเพลงบรรเลงเปิดคลออีก"



นี่คือเสียงของประชาชนของพระราชา เสียงที่ทุกคนร่วมกันเปล่งออกมาเพื่อน้อมถวายในหลวงรัชกาลที่ 9 พระราชาที่จะอยู่ในใจไทยนิรันดร์


สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : บันทึก ณ สนามหลวง

view