จากประชาชาติธุรกิจ

เมื่อพูดถึง "การเกษียณอายุ" หลายคนจะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไกลตัว หรือไปนึกถึงการเกษียณตอนที่ใกล้จะเกษียณจริง ๆ แล้ว ซึ่งตอนนั้นให้มาเริ่มวางแผนการเงิน ลงทุน หรือแม้แต่อดออมง่าย ๆ บางทีก็สายไปเสียแล้ว

การวางแผนเพื่อการเกษียณอายุ คือวางแผนการเงินรูปแบบหนึ่ง ซึ่งต้องใช้เวลายาวนาน เมื่อดูตามสถิติในต่างประเทศนั้น คนจะเริ่มต้นวางแผนกันตั้งแต่อายุ 30 ปี ขณะที่คนไทยจะเริ่มคิดวางแผนเมื่ออายุประมาณ 42 ปีซึ่งถือว่าช้ามากแล้ว

ตกใจไหมครับ !

สถิตินี้สะท้อนให้เราเห็นว่า คนไทยมองเรื่องการวางแผนเพื่อการเกษียณว่าไกล หรือถ้าน่าตกใจกว่านั้นคือ หลายคนมองว่า "ไม่เห็นต้องวางแผนเลย"

"มีลูกไว้ทำไม ก็ให้มันเลี้ยงสิ"

"แก่ตัวไปเดี๋ยวก็ตาย จะวางแผนทำไม เอาเงินไปทำบุญดีกว่า"

"ประกันสุขภาพก็มี ใช้สิทธิคนแก่ไปสิ รัฐก็ให้เบี้ยเลี้ยง จะวางแผนให้ปวดหัวไปทำไม"

ฯลฯ

สารพัดเหตุผลที่เราไม่อยากวางแผน

อย่างนั้น ลองตั้งคำถามชวนคิดใหม่ว่า "ถ้าไม่วางแผนเกษียณอายุ แล้วชีวิตคุณจะเป็นอย่างไร ?"

ถ้าไม่มีลูก
ถ้าเกิดป่วยเป็นโรคร้ายกะทันหัน
ถ้าไม่มีเงินเก็บเลย
คุณจะทำอย่างไร ?

ปัจจัยที่สำคัญของการวางแผนเกษียณนั้นคือ เราประมาณการอายุที่ไม่เป็นไปตามความจริง เราคิดว่าเราจะตายเร็วกว่าที่คิด แต่อย่าลืมว่าการแพทย์สมัยนี้พัฒนาไปมาก อายุเฉลี่ยของคนทั่วไปน่าจะปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงที่ธรรมชาติออกแบบมาให้ทนต่อสภาวะแวดล้อมต่าง ๆ ได้ดีกว่าผู้ชาย และแน่นอนว่าทำให้มีโอกาสที่เงินที่เตรียมไว้นั้นไม่พอ และจากสถิติงานวิจัยภายใต้สถาบันวิจัยตลาดทุน (CMRI) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะพบว่า 86% ของกลุ่มตัวอย่างจะมีเงินไม่พอใช้ในวัยเกษียณ

แน่นอนว่า เมื่อเงินเกษียณไม่พอใช้ เราก็ต้องหยิบยืม หรือบางครั้งก็ต้องให้ลูกหลานเลี้ยงดูอีกทาง ซึ่งเป็นภาระเพิ่มเติมให้กับครอบครัว ทำให้ลูกหลานเราเองก็ต้องเจียดเงินบางส่วนมารักษาดูแล สุดท้ายลูกหลานก็ไม่สามารถที่จะเก็บเงินให้เพียงพอต่อการเกษียณได้ ก็จะยิ่งส่งต่อความยากจนให้กับคนรุ่นหลัง ๆ ต่อไป หรือบางครั้งก็ต้องเป็นภาระของรัฐบาลหากไม่มีลูกหลาน ก็จะยิ่งลำบากมากขึ้น ทำให้ประเทศชาติให้งบประมาณมาดูแลมากขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนเป็นการทำลายประเทศชาติทางอ้อม และอีกไม่กี่ปีข้างหน้านี้ (ประมาณ 1 ปี) สังคมไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มตัว (หรือมีประชากรสูงอายุเกิน 20% ของประชากรทั้งหมด) ซึ่งจะยิ่งทำให้ปัญหาเพิ่มพูนมากขึ้นในสังคมไทย

แต่ถ้าเราสามารถดูแลเรื่องการเกษียณได้ด้วยตนเอง ไม่ต้องรบกวนลูกหลาน หรือถ้าเราสามารถที่จะดูแลตัวเองได้ดี มีเงินเหลือ ก็สามารถส่งต่อความมั่งคั่งให้กับลูกหลานได้อีกด้วย (มีเกียรติและมีศักดิ์ศรีในชีวิต)

ถ้าไม่วางแผนเกษียณไว้เลย นอกจากบั้นปลายจะลำบากแล้ว ในระยะก่อนเกษียณก็อาจจะลำบากมากกว่าก็ได้ เนื่องจากถ้าไม่เคยวางแผนการเงิน เวลาฉุกเฉินขึ้นมา เช่น การถูกไล่ออก หรือจำเป็นต้องออกจากบริษัทเพราะว่ามีปัญหา สิ่งเหล่านี้จะยิ่งลดทอนสภาพความเป็นอยู่ของผู้เกษียณได้อีกด้วย เผลอ ๆ อาจจะต้องไปอยู่บ้านพักคนชราเร็วกว่าที่คิดไว้อีก และคงจะส่งผลต่อสภาพจิตใจ ทำให้เกิดความเครียดได้ง่าย ซึ่งเป็นที่มาของโรคต่าง ๆ อีกมากมาย ดังนั้นเราก็ควรที่จะวางแผนเกษียณอย่างถูกต้องเสียตั้งแต่วันนี้ จะได้เป็นการช่วยคนที่เรารักและประเทศชาติได้อย่างเต็มภาคภูมิ

เมื่ออายุ 60 ปีมีเงินเท่าไร?

อายุ 60 ควรมี 10 ล้าน !! เพื่อรักษาความสบาย อย่างน้อยที่ควรมีคือ 5 ล้าน เพื่อไม่ให้เราตกลงสู่ความยากจนและลำบาก แต่ในกรณีของคนที่ใช้จ่ายน้อย ขั้นต่ำควรมีประมาณ 3 ล้าน






ที่มา หนังสือ ฉลาดทุกเรื่อง ยกเว้นเรื่องเงิน โดย หมอนัท คลินิกกองทุน

สำนักงานสอบบัญชี,#สอบบัญชี,สำนักงานบัญชี,#ทำบัญชี,#ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน