สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

โบรกฯไทยตื่น บิตคอยน์ ชวนลูกค้า ขุดทอง หรือ ฝังตัวเอง

จากประชาชาติธุรกิจ

ต้องยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมากระแสความกังวลต่อการเข้าลงทุนใน “บิตคอยน์ (Bitcoin)” ปรากฏขึ้นบนหน้าหนังสือพิมพ์อย่างต่อเนื่อง หลายหน่วยงานได้ออกโรงเตือน ไม่ว่าจะเป็นธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง ที่ย้ำเตือนว่า “บิตคอยน์” เป็นเงินที่ไม่ได้รับการรับรองทางกฎหมายแต่อย่างใด

ขณะที่นักเก็งกำไรในโลกต่างวิ่งเข้าหา “บิตคอยน์” แม้ว่าจะเป็นสกุลเงินที่ไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ จนทำให้ราคาเทรด “บิตคอยน์” ปรับตัวร้อนแรงพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างหวาดผวาว่า แรงเก็งกำไรจะทำให้เกิดความผันผวนสูง อาจนำมาสู่ภาวะ “ฟองสบู่” ขึ้นได้ในไม่ช้า ซึ่งหมายถึง ความเสียหายจะเกิดตามมา

ทั้งนี้ “บิตคอยน์” คือสกุลเงินสมมุติที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการกันในโลกออนไลน์ โดยไม่ขึ้นกับสกุลเงินใด ๆ และไม่สามารถจับต้องได้ เหมือนธนบัตรหรือเหรียญเงินตรา “บิตคอยน์” จะมีหน่วยเงินตราเป็น BTC ความเสี่ยงของมันนอกเหนือจากความผันผวนที่สูงแล้ว คือ “การที่ยังไม่มีกฎหมายมากำกับดูแล”

กระแสเก็งกำไร “บิตคอยน์” ฮอตมาก จนโบรกเกอร์ไทยบางรายอดไม่ได้ที่จะโดดร่วมวงสร้างรายได้จากการหาค่าธรรมเนียมซื้อขาย โดยล่าสุด บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) ที่เปิดให้บริการลงทุนต่างประเทศทั้งหุ้นและฟิวเจอร์ส (สัญญาซื้อขายล่วงหน้า) รวมแล้วกว่า 30 ตลาดทั่วโลก ระบุว่าตอนนี้ บริษัทกำลังเป็นโบรกเกอร์รายเดียวในประเทศไทยที่เปิดบริการเทรดบิตคอยน์ฟิวเจอร์ส ในตลาด CBOE (Chicago Board Options Exchange) และ CME (The Chicago Mercantile Exchange) ซึ่งเป็นตลาดล่วงหน้าที่ใหญ่ที่สุดและมีปริมาณการซื้อขายฟิวเจอร์สสูงที่สุดในโลก โดยจะมีทั้งเปิดให้ส่งคำสั่งแบบเรียลไทม์ผ่านระบบออนไลน์หรือผ่านเจ้าหน้าที่ดูแลการซื้อขายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกับชูข้อดีว่ามีโอกาสทำกำไรได้ทั้งขาขึ้นและขาลง ทำให้นักลงทุนสามารถปรับกลยุทธ์และเลือกวิธีลงทุนในสภาวะที่ราคาบิตคอยน์ฟิวเจอร์สมีความผันผวนได้

“การที่เราเปิดให้บริการส่วนนี้ ท่ามกลางความกังวลว่า การซื้อขายบิตคอยน์กำลังจะเป็นฟองสบู่ในไม่ช้านั้น เพราะเราเล็งเห็นว่านักลงทุนไทยจำนวนไม่น้อยที่สนใจและสามารถรับความเสี่ยงได้ “ซี คิ-ออง เลาว์” กรรมการผู้จัดการ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุและย้ำว่า ลูกค้าเป้าหมายจะเป็นนักลงทุนที่มีประสบการลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์สมาแล้วและสนใจลงทุนในบิตคอยน์นี้ แต่ไม่ต้องการเทรดผ่านเว็บไซต์หรือโบรกเกอร์ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่มีการรับรอง

นอกจากนี้ยังแจกแจงนโยบายการบริหารความเสี่ยงของบริษัทและลูกค้าว่า บิตคอยน์ฟิวเจอร์สเป็นสินค้าที่มีความผันผวนสูง ทางตลาด CBOE และ CME มีแนวทางการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ชัดเจน เช่น ตลาด CME ใช้ราคาสินทรัพย์อ้างอิงเป็น Bitcoin Reference Rate (BRR) ซึ่งเป็นการนำราคาบิตคอยน์จากหลากหลายแหล่งซื้อขายสำคัญ มาคำนวณหาค่าเฉลี่ย จะช่วยลดความผันผวนของราคาบิตคอยน์ฟิวเจอร์สลงได้ หรือการหยุดพักการซื้อขายชั่วคราวของทางตลาด หากราคาผันผวนเกินระดับที่กำหนดไว้ อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทมีเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลความเสี่ยงของลูกค้าอยู่เสมอ

“นายปรัชญา กุลวณิชพิสิฐ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ฟิลลิปฯ ก็ระบุว่า ที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดให้บริการอย่างไม่เป็นทางการแล้ว เพียงแต่ยังมีผู้เข้ามาทดลองลงทุนจริงค่อนข้างน้อย ขณะที่การลงทุนจะอยู่ในรูปแบบสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาของบิตคอยน์ หรือเงินสกุลดิจิทัล ไม่ได้ลงทุนในค่าสกุลเงินบิตคอยน์โดยตรง

โดยรูปแบบสัญญาในตลาด CME จะเป็น 5 สัญญา ต่อ 1 บิตคอยน์ และตลาด CBOE จะลงทุน 1 สัญญาต่อ 1 บิตคอยน์ อย่างไรก็ตามในช่วงปลายเดือนนี้บริษัทจะเปิดสัมมนา การลงทุนในบิตคอยน์ฟิวเจอร์สเพื่อให้ข้อมูลกับผู้ที่สนใจด้วย

การเปิดตัวของ บล.ฟิลลิปได้สร้างกระแสฮือฮาในวงการตลาดทุนอย่างรวดเร็ว พร้อม ๆ กับการตั้งคำถามกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า “สามารถทำได้หรือไม่ ?” และจะมีโบรกเกอร์รายอื่น ๆ เปิดให้บริการตามมาหรือไม่

ดังนั้น “นางเกศรา มัญชุศรี” ในฐานะกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จึงออกมาระบุว่า กรณีของ บล.ฟิลลิปเปิดให้บริการเทรดดังกล่าว ไม่ได้เป็นประเด็นต้องห้าม และที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ฯ เปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยออกไปลงทุนต่างประเทศได้โดยไม่ได้จำกัดประเภทสินทรัพย์การลงทุน เพียงแต่หวังว่านักลงทุนควรจะต้องศึกษาข้อมูล ต้องรู้จัก และเข้าใจสินค้าก่อนเท่านั้น

ฟากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) นางทิพย์สุดา ถาวรามร รองเลขาธิการ ก.ล.ต.กล่าวว่า บล.สามารถบริการลูกค้าที่ประสงค์จะลงทุนผ่านตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในต่างประเทศดังกล่าวได้อยู่แล้ว เนื่องจากเป็นตลาดที่อยู่ใต้การกำกับของ ก.ล.ต.นานาชาติ (IOSCO) ซึ่งมีข้อตกลงความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกัน อีกทั้งผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอยู่ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรที่มีมาตรฐานด้วย

ดังนั้นประเด็นที่น่าเป็นห่วงในกรณีนี้จึงมิใช่เรื่องฉ้อโกงหรือฟอกเงิน แต่เป็นเรื่องที่ว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีความเสี่ยงสูงมากจากหลายปัจจัย ทั้งความผันผวนของสกุลเงินดิจิทัลที่เป็นสินค้าอ้างอิง รูปแบบผลิตภัณฑ์ที่มีอัตราทดในตัว จึงทำให้อัตราของผลกำไรขาดทุนสูงกว่าสินค้าอ้างอิง และการต้องเตรียมสภาพคล่องเพื่อรองรับการถูกเรียกหลักประกันเพิ่มรายวัน

ส่วนในอนาคตหากมี บล.อื่น ๆ ให้บริการในลักษณะเดียวกันนี้ ก็สามารถทำได้ แต่ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ของ recognized exchange โดยต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ ก.ล.ต. และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดย บล.จะต้องมีใบอนุญาตนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และตัวแทนสัญญาซื้อขายล่วงหน้า

“บล.มีหน้าที่จะต้องพิจารณาความเหมาะสมของลูกค้า และให้คำแนะนำเกี่ยวกับตราสารและความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องให้ลูกค้าทราบ รวมทั้งรายงานการลงทุนกับ ก.ล.ต.และ ธปท. ตามกำหนดเวลาและช่องทางที่กำหนด อย่างไรก็ตาม ก.ล.ต.ยืนยันว่า ยังไม่ได้รับรองสถานะของบิตคอยน์ และบิตคอยน์ก็ไม่ใช่เงินที่ใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายด้วย” นางทิพยสุดากล่าว

ด้านแบงก์ชาติ “นางจันวรรณ สุจริตกุล” ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และโฆษก ธปท.กล่าวว่า ธปท.มีหน้าที่ดูแลให้วงเงินเหล่านั้น ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อไปลงทุนในต่างประเทศตามเกณฑ์ ก.ล.ต. ซึ่ง ก.ล.ต.ได้ยืนยันมาว่า การลงทุนดังกล่าวถือว่าเป็นไปตามเกณฑ์และลงทุนตามช่องทางที่ ธปท.เปิดไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม ธปท.ได้ขอให้ ก.ล.ต.กำชับกับ บล.เรื่องการให้คำแนะนำในการลงทุนการบริหารความเสี่ยงและความสามารถในการรับความเสี่ยงของนักลงทุนด้วย เพราะมีความผันผวนสูงและจากประเด็นที่เกิดขึ้น ในเดือน ม.ค.นี้ จะมีการประชุมกันระหว่าง 4 หน่วยงาน ได้แก่ ธปท., ก.ล.ต., กระทรวงการคลัง, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในเรื่องการเตือนนักลงทุน และประเด็นแลกเปลี่ยนเงินตราที่อาจจะต้องรายงาน

บิตคอยน์จะทำให้เกิด “นักขุดทอง” ที่มั่งคั่ง หรือ “นักตื่นทอง” ที่ขุดหลุมฝังตัวเอง คำตอบอยู่ที่ตัวนักลงทุนเองว่าจะพยายามสร้างความเข้าใจต่อสินค้าชนิดใหม่นี้แค่ไหน


#สำนักงานบัญชี,#สำนักงานสอบบัญชี,๒ทำบัญชี,#สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน

Tags : โบรกฯไทยตื่น บิตคอยน์ ชวนลูกค้า ขุดทอง ฝังตัวเอง

view