จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์

รอยเตอร์ - กฎหมายความมั่นคงไซเบอร์ของเวียดนามที่บริษัทด้านเทคโนโลยีระดับโลก และกลุ่มสิทธิมนุษยชนเตือนว่าอาจบ่อนทำลายการพัฒนาและเป็นอุปสรรคต่อนวัตกรรม จะช่วยป้องกันประเทศจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่เพิ่มมากขึ้น กระทรวงความมั่นคงระบุ

สมาชิกสภานิติบัญญัติอนุมัติกฎหมายฉบับนี้เมื่อเดือน มิ.ย. แม้มีเสียงคัดค้านจากบริษัทต่างๆ เช่น บริษัทเฟซบุ๊ก และบริษัทอัลฟาเบทของกูเกิล กลุ่มสิทธิมนุษยชน และรัฐบาลชาติตะวันตก รวมทั้งสหรัฐฯ 

แต่กระทรวงความมั่นคงสาธารณะของเวียดนาม ที่บริหารหน่วยงานตำรวจ กล่าวว่า เวียดนามถูกคุกคามจากการโจมตีทางไซเบอร์หลายแสนครั้ง ที่ก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและคุกคามความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของสังคม

“การประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงไซเบอร์เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อตอบสนองต่อความต้องการอย่างเร่งด่วนในการป้องกันความมั่นคงทางไซเบอร์” กระทรวงความมั่นคง ระบุบนเว็บไซต์

กฎหมายฉบับดังกล่าวที่มีผลบังคับใช้ในปีหน้า กำหนดให้บริษัทเทคโนโลยีต่างประเทศต้องตั้งสำนักงาน และจัดเก็บข้อมูลในเวียดนาม แต่เฟซบุ๊ก และกูเกิลที่ได้รับความนิยมและใช้งานอย่างกว้างขวางในเวียดนาม ไม่มีสำนักงานท้องถิ่นหรือสถานที่จัดเก็บข้อมูลในประเทศ

กระทรวงระบุว่า ไม่มีวิธีการที่มีประสิทธิภาพใดจะควบคุมสิ่งต่างๆ เช่น ข่าวสารปลอมและการหมิ่นประมาทใส่ร้ายป้ายสีซึ่งก่อให้เกิดผลที่ไม่ดี กองกำลังตอบโต้และศัตรูใช้โลกไซเบอร์เป็นพื้นที่ปลุกระดมการชุมนุมประท้วงและยั่วยุปลุกปั่นการจลาจล และการก่อการร้าย

แม้เวียดนามจะดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง และเปิดกว้างรับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม แต่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามยังคงควบคุมสื่ออย่างเข้มงวด และไม่อดทนยินยอมต่อผู้เห็นต่าง

เจ้าหน้าที่จากบริษัทเอกชนได้แสดงความเห็นวิตกกังวลว่า กฎหมายนี้จะทำให้เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นสำหรับเจ้าหน้าที่ที่จะเข้ายึดข้อมูลลูกค้า และจับกุมพนักงานท้องถิ่น

กระทรวงระบุว่า ข้อมูลของประชาชนจะไม่ถูกเปิดเผย บริษัทต่างๆ จะเพียงแค่ถูกร้องขอให้จัดหาข้อมูลผู้ใช้งานเพื่อใช้ในการสอบสวน หรือการบังคับใช้กฎหมายตามกระบวนการขั้นตอนอย่างเคร่งครัด กฎหมายจะไม่ขัดขวางประชาชนจากการเข้าใช้งานเฟซบุ๊ก หรือกูเกิล แต่หากละเมิดกฎหมายบุคคลนั้นจะถูกดำเนินการอย่างเข้มงวด.

#สำนักงานบัญชี,#สำนักงานสอบบัญชี,๒ทำบัญชี,#สอบบัญชี,ที่ปรึกษา,การจัดการ,เศรษฐกิจการลงทุน