จากประชาชาติธุรกิจ
"เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา" ยอมเสียสละเพื่อได้อยู่ในแผ่นดินเกิดไม่อยากเหมือน"เขมร-ญวน"ต้องรักษาบ้าน ไว้ให้คิดถึงแผ่นดิน เผย"ในหลวง"ทรงทุกข์ลูกตีกัน ลูกไม่ดียังพอทนไหว ลูกทรพีพ่อแม่ยังทนได้ ถามหาคำตอบจะจบอย่างไรหลังเกิดเหตุรุนแรง
"ในหลวง"ทรงทุกข์ลูกตีกัน
นายสุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา บรรยายพิเศษเรื่อง "พระจริยวัตรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการจัดโครงการศิลปะพัฒนาชีวิต ด้วยอานาปานสติภาวนา" ที่เสถียรธรรมสถาน ซอยวัชรพล ถนนรามอินทรา 55 เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 เมษายน โดยกล่าวตอนหนึ่งถึงกรณีความวุ่นวายทางการเมืองขณะนี้ว่า
"ผมยอมเสียสละชีวิตเพื่อตัวเอง ผมเห็นแก่ตัว เพราะผมอยากอยู่บนแผ่นดินนี้ ผมไม่อยากไปอาศัยอยู่บ้านนู้น บ้านนี้เหมือนเขมร เหมือนญวน ผมอยากอยู่ที่นี่ ผมก็ต้องรักษา เขาเรียกว่าเห็นแก่ตัวอย่างสร้างสรรค์ คิดถึงแผ่นดินบ้างเถอะ อย่าลืมถ้าไม่มีแผ่นดิน คุณก็ไม่มีที่อยู่เหมือนกัน"
"พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเตือนอยู่ตลอดเวลาว่า อย่าพังบ้าน ซึ่งเวลานี้กำลังจะพังบ้านกันอยู่แล้ว ใครจะชนะช่างหัว แต่บ้านพังแล้ว ถนอมๆ กันหน่อยเถอะ เพราะเรื่องมันก็มีอยู่แค่นี้ เอาธรรมะเข้าจับ อย่าใช้แต่อารมณ์" นายสุเมธกล่าว และว่า เหตุการณ์เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ตั้งอยู่บนความโกรธ แล้วสุดท้ายคนก็ล้มตายไป ตนเองยังตอบไม่ได้เลยว่า มันจะจบอย่างไร
"ตอนนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงแล้ว แต่มีพ่อแม่คนไหนที่เห็นลูกตีกันแล้วมีความสุข ลูกไม่ดียังพอทนไหว ลูกทรพีพ่อแม่ยังทนได้ แต่ลูกตีกัน ผมว่าพ่อแม่คนไหนก็ทุกข์ทั้งนั้น
ทุกข์ที่สุดของของพ่อแม่คือ เห็นพี่น้องตีกัน ทนไม่ได้หรอก ถ้าถามจิตใจของพระองค์ท่านตอนนี้ ผมว่าพระองค์ทุกข์ที่สุด เพราะฉะนั้นอย่าโกรธกันเลย ถ้าโกรธเมื่อไร ประเทศพังเมื่อนั้น" นายสุเมธกล่าว
"องคมตรี"ให้ม็อบหยุดทำผิด
พล.อ.อ.กำธน สินธวานนท์ องคมนตรี ให้สัมภาษณ์ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ถึงสถานการณ์การเมือง ภายหลังเดินทางเข้าเยี่ยมทหารและผู้บาดเจ็บ จากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับกลุ่มผู้ชุมนุมแนวร่วม ประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.)-แดงทั้งแผ่นดิน เมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา ว่า
ที่มีฝ่ายหนึ่งไปบังคับว่าต้องยุบสภาให้ได้ภายในกี่วัน อันนี้คือเป็นม็อบ ซึ่งถ้าไปบังคับเมื่อไหร่ ผลของการอยากให้ยุบตามใจฝ่ายตนเอง ก็ขยายผลไปสู่การทำให้คนอื่นเกิดความเดือดร้อน ค้าขายไม่ได้ เศรษฐกิจก็ไปไม่ได้ บ้านเมืองเสียหาย จึงอยากขอให้เลิก เพราะเมื่อไม่เลิกก็เกิดปะทะกัน ดังนั้น ถ้าจะแก้ปัญหาก็ต้องหยุดทำผิดกฎหมายที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ส่วนความเห็นที่บอกว่า ของใครจะทำให้บ้านเมืองดี หากยังมีอยู่ก็แสดงออกได้ แต่ขอว่าอย่ารุนแรง อย่าคิดว่าต้องเอาให้ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความรุนแรง ไม่ต้องเอาคนมาเป็น 3 หมื่นคน เพราะคนแค่พัน หรือหมื่นคนก็แสดงออกได้แล้ว ผลที่ออกมาก็จะเป็นไปตามเหตุผล ไม่ได้ใช้อำนาจ ถ้าเอาหลักตรงนี้ไปคิดก็จะหยุดการที่จะต้องสลายม็อบที่ทำให้เกิดการปะทะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ตอนนี้ยังส่อเค้าที่จะรุนแรงมากขึ้น
พล.อ.อ.กำธนกล่าวว่า "อยากให้ช่วยเผยแพร่ข้อความของผม ที่บอกว่าความเห็นที่แตกต่างกันไม่เป็นปัญหา เป็นประชาธิปไตย แต่ความเห็นที่บอกว่า ต้องเป็นไปตามของตนเองอย่างเดียว แบบนี้ไม่ถูก ยิ่งมาใช้กำลังบังคับให้เป็นไปตามที่ตัวเองก็ยิ่งไม่ดีใหญ่ ทำให้เกิดปัญหา ส่วนการใช้อาวุธหนักเข้ามาปะทะกันนั้น ไม่ขอแสดงความเห็น อย่าไปปรักปรำว่าใครเป็นอย่างไร เพราะต่างฝ่ายก็ต่างบอกว่าอีกฝ่ายโยนใส่"
เมื่อถามว่า ทางออกของประเทศ รัฐบาลและคนเสื้อแดงควรจะเจรจากันหรือไม่
พล.อ.อ.กำธนกล่าวว่า "เป็นเรื่องของรัฐบาล ผมไม่อาจไปสั่งได้ แต่เชื่อว่าทั้งสองฝ่ายคงหาทางพูดกันอยู่แล้ว"เมื่อถามว่า การเจรจาจะทำให้ปัญหายุติหรือไม่ พล.อ.อ.กำธนกล่าวว่า ถ้าเราฟังแล้ว ไม่มีประเด็นที่จะให้เจรจา มันก็เจรจาไม่ได้ เช่น ที่บอกว่าต้องยุบภายใน 15 วันมันก็ไม่มีทางจะเจรจา"