จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ผู้นำ3ศาสนาเห็น พ้อง"รัฐบาล-นปช." ควรเจรจารอบ 3 เพื่อหาทางออกให้กับสังคมไทย จากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่สูงขึ้นในขณะนี้
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เชิญผู้แทนศาสนาทั้ง 3 ศาสนา ประกอบด้วย ศาสนาพุทธ คริสต์ และอิสลาม ร่วมกันแสดงความคิดเห็น เพื่อหาทางออกให้กับสังคมไทย ขณะที่มีความขัดแย้งทางการเมืองสูงขึ้น ทั้งนี้ จากการแสดงความคิดเห็นพบว่า ผู้นำทั้ง 3 ศาสนา เห็นตรงกันที่จะให้มีการเจรจาในรอบที่ 3 ระหว่างรัฐบาลกับกลุ่มคนเสื้อแดงให้เกิดขึ้น
พระธรรมโกศาจารย์ ประยูร ธมฺมจิตฺโต ผู้แทนศาสนาพุทธ กล่าวว่า อยากให้ทุกฝ่ายใช้หลักธรรมาธิปไตย ยอมถอยออกมาคนละ 1 ก้าว เพื่อเอาสติ แต่ไม่เอาชนะ จึงนำไปสู่การหาทางออกร่วมกัน
ด้านมุขนายก เกรียงศักดิ์ โกวิทวาณิช ผู้แทนศาสนาคริสต์ กล่าวว่า อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายหยุดความเคลื่อนไหวและความรุนแรงที่อาจ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ เพื่อกลับสู่การเจรจาตามแนวทางสันติวิธี ทั้งสองฝ่ายต้องเปิดใจให้มากขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งมีเจตนาหาทางออกให้กับประเทศอย่างบริสุทธิ์ใจร่วมกัน
ขณะที่ นายอิมลออ มะลูลีม ผู้แทนศาสนาอิสลาม กล่าวว่า ขอให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติเป็นหลัก แบะยอมรับในความแตกต่างทางความคิดซึ่งกันและกัน ขณะเดียวกันก็ต้องไม่นำมาซึ่งความแตกแยก จึงทำให้สังคมที่มีความหลากหลายทางความคิดในขณะนี้กลับมาเป็นเอกภาพได้
“อิมรอน มะลูลีม” ชี้สังคมไทยต้องเลิก ระบบโควตา ระบบอุปถัมภ์ ถึงเวลารัฐบาลแห่งชาติ หมดทางเลือกแล้ว
จากประชาชาติธุรกิจ
นายอิมรอน มะลูลีม ประธานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมไทยทุกวันนี้ ถือเป็นวิกฤติที่ต้องช่วยกันหาทางออก ต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่า อำนาจสำคัญในฝ่ายบริหารถือว่าล่มสลาย รัฐบาลต้องเร่รอนหาที่ประชุมตามสถานที่ต่างๆ
ส่วนอำนาจตุลาการเวลานี้ กำลังสั่นคลอน เพราะถูกประชาชนมองในแง่มุมต่างๆ ต้องยอมรับว่าประเด็นนี้ไม่ว่าศาสนาใดก็มองด้วยความไม่สบายใจ สถาบันหลักทั้ง 3 สถาบันคือชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นที่พึ่งของเราทุกคนที่ต้องยอมรับ ถ้าสังคมใดขาดความยุติธรรม ความสามัคคีจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน ทุกฝ่ายต้องเคารพกฎหมาย ต้องมีความเสมอเท่าเทียมกัน ทุกคนต้องยึดผลประโยชน์ชาติ เพื่อให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า และในยุคที่มีการแข่งขัน ผลประโยชน์ของประเทศชาติต้องมาก่อน
นายอิมรอน ยกตัวอย่างประเทศสหรัฐอเมริกาที่นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเชิญอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของฝ่ายค้าน มาทำหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านเศรษฐกิจการเงิน แสดงให้เห็นว่าการเมืองไม่ได้ยึดติดรูปแบบ มองในแง่ผลประโยชน์ของประเทศชาติ
ขณะที่ประเทศไทยเรามีผู้นำที่ มาด้วยระบบโควตา ระบบอุปถัมภ์ ซึ่งวัฒนธรรมแบบนี้ควรยกเลิก เราต้องใช้ชีวิตอย่างมีสติ คิดทบทวนสิ่งที่ทำไป การทำให้ประเทศอยู่ได้ คนในสังคมต้องมีความรักและผูกพัน รับผิดชอบร่วมกัน อยากเสนอว่าคนในประเทศควรมีเอกภาพ แม้เชื้อชาติจะแตกต่างกัน ก็อยู่ร่วมกันได้ อยากให้คนไทยรักกัน ต้องมีสติและต้องสงวนจุดต่าง และมีจุดร่วม ขณะที่ผู้นำจะต้องมีคุณสมบัติอดทน
“หลักศาสนาอิสลาม จะต้องตอบโต้ความชั่วร้ายด้วยความดี อย่าเอาไฟดับไฟ ต้องเอาน้ำดับไฟ เชื่อว่าสถาบันศาสนาจะช่วยแก้วิกฤติได้ เราต้องสร้างวัฒนธรรมใหม่ทางการเมือง ต้องยกเลิกมือตบ ตีนตบอย่างเด็ดขาด และควรแก้กฎหมายการชุมนุมตามมาตรา 63 ให้เป็นแบบรัฐ ธรรมนูญของอังกฤษ ที่ต้องแจ้งว่าการชุมนุมจะมาชุมนเรื่องอะไร มีขอบเขตแค่ไหน ไม่ใช่ไร้เหตุผลแล้วนำไปสู่ความรุนแรง ส่วนมาตรา 237 ที่ให้ยุบพรรค ผมเห็นว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นในประเทศไทย อย่าให้ความผิดของคนคนเดียวกลายเป็นผิดทั้งหมด เป็นเรื่องที่ฝืนธรรมชาติ” นายอิมรอน กล่าว
นอกจากนี้ นายอิมรอน ยังเห็นว่า ปัจจุบัน จำเป็นแล้วที่ต้องมีรัฐบาลแห่งชาติ เพราะเวลานี้หมดทางเลือกแล้ว ฟังดูแล้วบางคนอาจไม่เข้าท่า แต่ยืนยันว่าไม่มีทางไหนไม่มีทางไหนที่ดีกว่านี้แล้ว ขณะที่ถ้าทุกคนเข้ามามีส่วนรวม มีส่วนตัดสินใจ มีความรับผิดชอบแล้วจะโทษใครไม่ได้ ตนเข้าใจว่าประเทศไทยยังมีคนดี และคนเป็นกลางมีอีกเยอะ จึงอยากให้ทุกคนต้องมาร่วมกันเสียสละ