จากประชาชาติธุรกิจ
มี คาถาเด็ดมาบอก..."ปวดอย่าอั้น นั่งท่ายอง ๆ มั่นใจเบ่ง"
นี่แหละของ ดีของเด็ดเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ อึ (ขี้) ง่าย ถ่ายคล่อง
นั่น เพราะ อึยาก ถ่ายฝืดนั้น มักเป็นปัญหาสะสมของบรรดาคนทำงานแบบออฟฟิศไทม์ที่จะต้องเร่งรีบแข่งกันเวลา เข้างานแบบประเภทที่ปวดก็ยอม อั้นไว้ก่อน ดีกว่าไปทำงานสาย ทั้งระหว่างวันยังเติมความเครียด กินก็ไม่เป็นเวลา ไม่ออกกำลังกาย แถมยังนอนดึกอีก ระบบภายในเลยปั่นป่วนรวนไปหมด ผลก็คือ ถ่ายไม่ออก ท้องผูก พุงป่อง ท้องแข็ง ไม่สบายตัวเอาเสียเลย
เหล่านี้มีทางแก้ แต่ต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลง
เปลี่ยนแปลงที่ว่านี้คือ เรื่องของการจัดสรรเวลาให้กับการอึ โดยเฉพาะ และเวลาที่เหมาะที่สุดนั้นอยู่ที่ตี 5-7 โมงเช้า หรืออยู่ในเกณฑ์ช่วงเช้าก็ถือว่าโอเค อยู่ในช่วงเวลาทองสำหรับการขับถ่าย อาหารจะไม่ค้างอยู่ในลำไส้นานมากเกินไป เพราะถ้าถ่ายในช่วงกลางคืนอาหาร ที่กินเข้าไปในมื้อเย็นก็จะค้างอยู่ในลำไส้นานไปอีก 24 ชั่วโมง
แต่ ถ้าปวดเวลานั้นก็ไม่เป็นไร ดีกว่าไม่ถ่าย
การปรับเวลาอึ เวลาถ่ายนั้นต้องค่อยเป็นค่อยไป ไม่จำเป็นต้องเบ่งบังคับมัน เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะได้ริดสีดวงมาเป็นเพื่อนอีกโรค แต่ควรรอคอยเวลาที่มันเริ่มสะกิดปวดเตือนทีละเล็ก ถ้าได้เวลานั้นรีบเข้าห้องน้ำแล้วเบ่งตามช่วงปวดได้เลย
ที่สำคัญอย่า อั้นหรือทำเมินเฉยกับสัญญาณเตือนของร่างกาย เพราะสัญญาณนี้ไปแล้วก็จะไปลับ ในรอบวันหรือ 2-3-4 วันอาจจะไม่วนกลับมาอีกแล้ว และ สิ่งที่จะตามมาคือ อาการท้องผูก
ตรงกันข้ามสำหรับคนลำไส้สั้น กระเพาะนก เข้าห้องน้ำวันละ 2-3 ครั้ง ก็ไม่ต้องตกใจ ขอให้รู้ไว้ว่าเป็นเรื่องปกติ
ส่วน คนที่กระเพาะยังไม่ตื่น ลำไส้ยังไม่คุ้นที่จะระบายทุกข์ในตอนเช้านั้น ลองใช้เทคนิคเหล่านี้
1."นวดลำไส้" วิธีนี้ต้องทำกันตั้งแต่ก่อนนอน ค่อย ๆ นวดลำไส้หรือช่วงท้องส่วนล่างทางด้านซ้าย นวดไปคลำไปจนพบกากอาหารจะเป็นลำเป็นก้อนก็แล้วแต่ แล้วให้กดเบา ๆ เป็นระยะ ๆ สัก 5 นาทีแล้วเข้านอน และเมื่อตื่นให้ดื่มน้ำอุ่นสัก 1-2 แก้ว รอสักแป๊บ...อาการปวดก็จะมาสะกิดเตือน
หรือเพื่อความชัวร์ ตื่นมาให้นวดลำไส้อีกรอบ แต่ทีนี้ให้นวดแบบเดิมแต่ดันลงไปข้างล่างก็จะช่วยให้ปวดอึได้ แต่ว่าถ้าเข้าไปถ่ายทุกข์แล้วยังไม่สำเร็จ ให้ออกมาลุกขึ้นเดินเหินไป ๆ มา ๆ สักพัก อย่าไปนั่งแช่รออยู่ อย่างนั้นริดสีดวงทวารอาจตามมาได้
2."ขยับ ไส้" วิธีการนี้ใช้การออกกำลังกายที่สามารถขยับไส้ ขยับพุงได้เป็นตัวช่วย จะใช้ซิตอัพวันละ 40 ครั้งเป็นอย่างน้อย หรือวิ่งเหยาะ ๆ วันละครึ่งชั่วโมงก็ได้
3."นั่งยอง ๆ" เป็นท่าที่มนุษย์ถูกออกแบบให้เป็นท่าสำหรับการขับถ่ายโดยเฉพาะ เพราะแรงกดจากหน้าขาของท่านั่งท่านี้จะไปกดตรงพอดีกับลำไส้ใหญ่ จึงทำให้ถ่ายได้สะดวกขึ้น
4. "ล้างลำไส้" วิธีการนี้ไม่จำเป็นต้องไปสวนล้าง หรือที่เรียกว่า detox กันให้วุ่นวาย แค่กินอาหารที่มีกากใยอาหารหรือผัก ผลไม้ หลากหลายประเภทให้หมุนเวียนกันไป แต่ถ้าอยากจะใช้ตัวช่วยแบบเจ๋ง ๆ ก็มีส้มโอ จะช่วยระบายท้องได้ในลำดับต้น ๆ ส่วนระดับขั้นเทพแล้วละก็ มะขามเปียก ลูกพรุน ไม่ว่าจะเป็นน้ำหรือเนื้อได้ผลชะงัดนัก
นอกจาก 4 ข้อที่ว่าแล้ว ควรออกกำลังกายให้สม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่า 10-15 นาที ก็จะช่วยได้อีกทางหนึ่ง
สำหรับคนที่อึดอัด อึไม่ออก บอกไม่ได้เป็นเวลานานมาก ๆ แล้ว ควรปรึกษาแพทย์ดีกว่าจะหันไปพึ่งยาถ่าย เพราะมีคำเตือนมาว่า อย่าใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน เพราะอาจทำให้ร่างกายสูญเสียวิตามิน และร่างกายอาจเคยชินจนไม่สามารถขับถ่ายเองได้
เทคนิคการอึนี้ BE magazine นำข้อมูลจาก อ.น.พ.กฤษดา ศิรามพุช ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์ อายุรวัฒน์นานาชาติ และข้อมูลจากมูลนิธิ หมอชาวบ้านมาขยายความ ...เป็นเรื่อง "ขี้ ๆ" ที่ไม่ "ขี้" เลย