สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ทำดีไม่ตีปี๊บ ประชานิยมรัฐบาลแป้ก

จาก โพสต์ทูเดย์

หากรัฐบาลยังทำงานแบบตั้งรับมากกว่ารุก คงไม่สามารถทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ หลังจากมีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงกลับมาได้

โดย...ทีมข่าวการเงิน

ภาพของคนที่เรียกตัวเองว่าเป็นไพร่ และต่อมาเปลี่ยนเป็นคนไม่มีเส้น ที่สะท้อนการแบ่งชนชั้น โดยวัดจากสถานะทางสังคมและรายได้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่มาจากภาคเหนือและภาคอีสาน โดยมีความเชื่อว่ารัฐบาลไม่ได้เหลียวแลคนในกลุ่มรากหญ้าเลย

คนกลุ่มนี้ยังคงฝังใจกับนโยบายประชานิยมของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าเป็นผู้เดียวที่สนใจและให้ความสำคัญกับคนจนมากกว่ารัฐบาลอื่นๆ

ความฝังใจและติดใจในนโยบายประชานิยมนี่เอง ทำให้คนกลุ่มนี้ยังถวิลหาโดยคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เพียงผู้เดียวที่จะทำให้เศรษฐกิจประเทศเจริญรุ่งเรือง คนจะได้มีเงินลืมตาอ้าปากได้เสียที

นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค นโยบายกองทุนหมู่บ้าน หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ฯลฯ ยังอยู่ในใจของคนกลุ่มรากหญ้าอยู่เสมอ
อย่างไรก็ดี เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ขึ้นมาเป็นรัฐบาล ก็ไม่ได้ทำโครงการประชานิยม ที่เปลี่ยนชื่อไปเป็นรัฐสวัสดิการ น้อยกว่าที่พรรคไทยรักไทยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำเลย

แต่น่าแปลกที่โครงการประชานิยมของพรรคประชาธิปัตย์กลับไม่ติดตาตรึงใจ ประชาชนกลุ่มรากหญ้าเลยสักนิด

กล่าวได้ว่าปีกว่าที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์ไม่สามารถไปยืนกลางใจกลุ่มคนรากหญ้าได้เลย ทั้งที่ได้ทุ่มงบประมาณไปมากมายเพื่อซื้อใจประชาชนกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นฐานเสียงที่สำคัญของพรรคเพื่อไทย

โครงการประชานิยมที่พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินการไม่ว่าจะเป็นการ ตั้งงบประมาณกลางปี 1 แสนล้านบาท

ยกเลิกโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคเป็นรักษาฟรี

โครงการเรียนฟรี 15 ปี จำนวน 1.9 หมื่นล้านบาท

โครงการเช็คช่วยชาติ 2,000 บาท จำนวน 1.8 หมื่นล้านบาท

เบี้ยคนชรา 500 บาทต่อเดือน จำนวน 9,000 ล้านบาท

โครงการเศรษฐกิจพอเพียง 1.52 หมื่นล้านบาท

โครงการต้นกล้าอาชีพ

นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ต่ออายุ 5 มาตรการ 6 เดือน ทั้งหมด 5 ครั้ง ใช้เงินประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาท

มาตรการลดภาษีอสังหาริมทรัพย์สูญเงินภาษีไป 3,000-5,000 ล้านบาท

แถมยังทำโครงการแก้ไขหนี้นอกระบบจำนวน 1.2 ล้านราย และโครงการประกันรายได้ใช้เงินงบประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

จะเห็นได้ว่ารัฐบาลดำเนินการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่กลุ่มคนชั้นกลางและ ระดับล่างมากมายหลายโครงการ แต่ที่ประชาชนไม่จดจำสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำเลยก็เพราะการขาดการทำ แพ็กเกจของมาตรการ

และการเล่นการตลาดไม่เป็นของหัวหน้ารัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้เป็นเพราะสไตล์การทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ที่ช้าแต่ชัวร์ คือจะทำนโยบายอะไรก็ตามไม่เคยบอกหรือทำความเข้าใจกับประชาชนก่อน แต่จะมาบอกประชาชนเมื่อได้ทำไปแล้ว

เรื่องนี้ทำให้ประชาชนขาดความสนใจในนโยบายรัฐบาล แทนที่จะตื่นเต้นและรอคอย กลับกลายเป็นรับรู้แล้วก็เฉยๆ

การทำงานที่ไม่น่าตื่นเต้นของรัฐบาลสะท้อนออกมาในรูปแบบการทำงานที่ เชื่องช้า อย่างเช่นการที่กลุ่มคนเสื้อแดงบุกปิดสี่แยกราชประสงค์ จนทำให้เกิดความเสียหายเดือดร้อนเป็นวงกว้างกับธุรกิจและผู้ใช้แรงงานที่ทำ งานในห้างสรรพสินค้า เป็นลูกจ้างร้านค้า และขายสินค้าบริเวณนั้น ทำให้ขายของไม่ได้ ขาดรายได้ และเดือดร้อนอย่างยิ่ง

สิ่งที่รัฐบาลควรจะต้องคิดก็คือการหาทางเยียวยาผู้ประกอบการและผู้ใช้แรง งานที่เป็นผู้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เรื่องนี้รัฐบาลยังนิ่งเฉย จนสื่อทั้งหลายออกมากระทุ้งว่า จะต้องมีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการและผู้ใช้แรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการ ชุมนุมเป็นการด่วน จึงทำให้รัฐบาลได้คิดว่าต้องรีบดำเนินการเรื่องนี้

ผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ต้องการให้รัฐบาลช่วยคือ 1.ขอผ่อนผันระยะเวลาการชำระคืนเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ในส่วนของเงินต้น ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2553

2.ขอลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จากธนาคารพาณิชย์เหลือไม่เกินร้อยละ 5 ต่อปีไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2553

3.ขอวงเงินกู้ฉุกเฉินโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องทางการเงิน วงเงินไม่น้อยกว่ารายได้ที่มีการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่มตลอดปี 2552 อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเอ็มแอลอาร์ ระยะเวลาผ่อนชำระไม่น้อยกว่า 3 ปี ชำระดอกเบี้ยทุก 12 เดือน โดยจะต้องดำเนินการภายใน 7 วัน

4.ขอวงเงินกู้ฉุกเฉินโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันเพื่อเพิ่มสภาพคล่องทาง การเงินให้สมาชิกกลุ่มที่เป็นหนี้นอกระบบ วงเงินไม่น้อยกว่าหนี้นอกระบบทั้งหมดและอนุมัติวงเงินกู้อีกสองเท่าเพื่อ เพิ่มสภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ระยะเวลาผ่อนชำระไม่น้อยกว่า 3 ปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน

5.ขอวงเงินกู้ฉุกเฉินโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อชำระค่าสินค้า และค่าบริการ ตามมูลค่าใบกำกับภาษีซื้อตลอดปี 2553 โดยชำระให้กับเจ้าหนี้ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่ายผู้ให้บริการโดยตรงเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้กับเจ้าหนี้

6.ขอวงเงินกู้ฉุกเฉินโดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันตามมูลค่าสต๊อกสินค้า ที่มีอยู่เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ ระยะเวลาผ่อนชำระไม่น้อยกว่า 3 ปี ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน

7.ขอลดอัตราการผ่อนชำระบัตรเครดิตขั้นต่ำจาก 10% เป็น 3% และลดอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตต่ำกว่าเอ็มแอลอาร์เป็นระยะเวลา 3 ปี

8.ขอเพิ่มวงเงินอนุมัติบัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลทุกชนิด บัตรผ่อนสินค้า และบัตรกดเงินสดอีก 10 เท่าของวงเงินที่ได้รับในปัจจุบันสำหรับสมาชิกกลุ่มที่มีประวัติการชำระหนี้ ที่ดีมาตลอด

และ 9.ขอผู้เชี่ยวชาญด้านบัญชี-การเงินมืออาชีพ ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ วางแผนทางการเงิน และวางระบบบัญชีรายรับ-รายจ่ายตลอดจนจัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมซอฟต์แวร์ ระบบบัญชี พร้อมฝึกอบรมระบบบัญชีให้สมาชิกกลุ่มอย่างใกล้ชิด โดยทางรัฐบาลเป็นผู้สำรองค่าใช้จ่ายทั้งหมด แล้วให้สมาชิกกลุ่มเริ่มผ่อนชำระคืนภายใน 3 ปี

นั่นเป็นการขอในเชิงธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องระหว่างเจ้าหนี้กับลูกหนี้ ซึ่งรัฐบาลยังไม่ได้เข้ามาช่วยเหลืออะไร ปล่อยให้ผู้ประกอบการร้องขอไปก่อน และธนาคารพาณิชย์ก็ออกมาโวยว่า คงให้ตามที่ขอไม่ได้ เมื่อคนขอกับคนให้ตกลงกันไม่ได้ แล้วทีนี้รัฐบาลจะช่วยเหลือยังไงก็ยังไม่มีความชัดเจน

และจากสไตล์การทำงานของรัฐบาล คาดว่ากว่าจะได้ความชัดเจนในการช่วยเหลือ กลุ่มผู้ประกอบการอาจจะทนไม่ไหว และออกมาประท้วงกลายเป็นม็อบอีกม็อบหนึ่งขึ้นมากดดันรัฐบาล

ทางด้านแรงงานที่ได้รับผลกระทบยังไม่มีการพูดถึงว่าจะช่วยอย่างไร นอกจากกรมการจัดการงานจะจัดสายด่วนไว้ให้ โดยเมื่อใครโทร.เข้าไปก็จะได้คำตอบให้เข้าไปดูเว็บไซต์หางานของกรมการจัดหา งานเอาเอง จะได้งานหรือเปล่าก็ไม่สามารถตอบได้

นี่หรือคือการจัดการที่จะช่วยเหลือเยียวยาผู้เดือดร้อนที่ได้รับผลกระทบ จากการเมืองที่กำลังเดือดร้อน

สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนการบริหารจัดการที่อืดอาดล่าช้าไม่ทันใจประชาชนและ ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน

หากรัฐบาลยังทำงานแบบตั้งรับมากกว่ารุก คงไม่สามารถทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ หลังจากมีการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงกลับมาได้

การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เข้าถึงใจรากหญ้า อาจจะเป็นสิ่งสำคัญที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องเร่งดำเนินการ

รัฐบาลทำดีแต่โชว์ไม่เป็น เลือกตั้งกี่ครั้งก็คงไม่สามารถชนะใจชาวรากหญ้าได้อย่างแน่นอน

ฟันธงได้ว่า 280 เสียง ที่พรรคประชาธิปัตย์อยากได้ในการเลือตั้งครั้งใหม่ อาจจะเป็นเพียงแค่ฝันที่ไม่มีวันเป็นจริง

view