สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ชำแหละ 4 ซีนาริโอ วิกฤตการเมือง กระทบเศรษฐกิจไทย ย่อยยับเพียงใด ?

จากประชาชาติธุรกิจ

กรณ์ จาติกวณิช หวั่นว่า วิกฤตการเมืองกระทบจีดีพีแล้ว 0.5 % แต่ถ้ายืดเยื้อถึงสิ้นปี จะกระทบจีดีพี ถึง 2 % ล่าสุด "รอยเตอร์ส" ประเมิน 4 ซีนาริโอ จำลองเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจากวิกฤตการเมืองในไทย อะไรจะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทยที่มีขนาด 264 พันล้านดอลลาร์ และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    เมื่อผู้ชุมนุมประท้วงเคลื่อนพลเข้าสู่กรุงเทพฯ เมื่อกลางเดือนมีนาคมเพื่อเรียกร้องให้ยุบสภานั้น เศรษฐกิจเพิ่งฟื้นตัวจากความถดถอยช่วงสั้นๆ โดยรัฐบาลมั่นใจว่าอัตราการขยายตัวในปี 2553 จะอยู่ที่ 4.5%
  ทว่าหลังการชุมนุมยืดเยื้อกว่า 7 สัปดาห์ กระทั่งมีผู้เสียชีวิต 16 ศพ และบาดเจ็บหลายร้อยราย จากการปะทะกันระหว่างเจ้าที่ดูแลความมั่งคงกับผู้ชุมนุม ทำให้นักท่องเที่ยวหดหาย และรัฐบาลอาจต้องปรับลดประมาณการเศรษฐกิจลงจากเดิม
 "รอยเตอร์ส" ได้ประเมิน 4 ซีนาริโอ เพื่อจำลองเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจากวิกฤตการเมืองในไทย อะไรจะเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจไทยที่มีขนาด 264 พันล้านดอลลาร์ และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าการประท้วงครั้งนี้จะนำไปสู่อะไร ?


@ความรุนแรงเลวร้ายมากขึ้น-ความเชื่อมั่นดิ่งเหว
 มี รายงานการปะทะกันเกิดขึ้นทั่วประเทศ กลุ่มขัดแย้งทางการเมืองเข้าสู่โหมดการใช้กำลัง กองทัพส่งทหารเพื่อสลายการชุมนุม ฝ่ายผู้ประท้วงอาจพกพาปืนไรเฟิลและระเบิดเอ็ม-79 ซึ่งเลี่ยงไม่พ้นการสูญเสียอย่างหนัก
 ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ: การนองเลือดมากขึ้นยิ่งทำให้ความเชื่อมั่นผู้บริโภคตกต่ำ หลังจากลดลงมาแล้วในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ทั้งๆ ที่เดือนมกราคมปรับขึ้นสูงสุดในรอบ 21 เดือน ผู้ค้าปลีกได้รับผลกระทบหนัก เนื่องจากการชุมนุมตั้งอยู่ในพื้นที่ธุรกิจ จำเป็นต้องปิดทำการหรือลดจำนวนพนักงาน
 รัฐบาลแถลงเมื่อสัปดาห์นี้ว่าแรง งาน 25,000 คนในกรุงเทพฯ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมค้าปลีกและโรงแรมไม่สามารถไปทำงานได้ หรือต้องหยุดงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง สื่อมวลชนบางสำนักรายงานว่าความวุ่นวายทางการเมืองกระทบต่อแรงงาน 63,000 คน ส่วนใหญ่อยู่ในธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว
 แม้ภาคการท่องเที่ยวนำราย ได้เข้าประเทศ 6% แต่การจ้างงานในธุรกิจนี้คิดเป็น 15% ของทั้งประเทศ การท่องเที่ยวที่เสียหายจึงมีผลกระทบอย่างมากต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
 รัฐบาล ระบุว่าจำนวนผู้โดยสารที่สนามบินสุวรรณภูมิในเดือนเมษายนลดลง 1 ใน 3 ด้านสมาคมไทยบริการท่องเที่ยวคาดการณ์ว่า นักท่องเที่ยวทั้งหมดในปีนี้อาจเหลือแค่ 14.5 ล้านคนจากที่ตั้งเป้าไว้ 15.5 ล้านคน
  อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ชี้ว่าการส่งออกกลับได้รับผลสะเทือนเพียงเล็กน้อย และจะเป็นอย่างนี้ต่อไป เว้นแต่สนามบินตกเป็นเป้าหมายของผู้ชุมนุมเหมือนที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2551 หรือการคมนาคมขนส่งต้องหยุดชะงัก
 รัฐบาลระบุว่า หากการประท้วงยืดเยื้อไปถึง 3 เดือน จะส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจลดลง 0.64% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 4.5% ขณะที่หอการไทยประเมินว่าจีดีพีอาจลดลง 0.5%
 เมื่อสัปดาห์ก่อนธนาคารแห่งประเทศไทยสั่งตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ไว้ต่ำเท่าเดิม เพื่อประเมินผลความเสียหายจากการประท้วงก่อน และมีแนวโน้มว่าประเทศไทยอาจถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ
 ปฏิกิริยาของ ตลาดหุ้น: ราคาสินทรัพย์ในไทยได้สะท้อนถึงความเสี่ยงทางการเมืองที่สูง และถูกมองว่ามีค่าต่ำกว่าความเป็นจริง ตลาดหุ้นยังคงผันผวนต่อไป หากการชุมนุมรุนแรงขึ้นก็จะส่งผลให้ราคาหุ้นลดลง ตามมาด้วยการช้อนซื้อของนักล่าของถูกที่จ้องจะเข้ามาในตลาดหุ้นที่มีมูลค่า ตลาดต่ำสุดแห่งหนึ่งในเอเชีย
 ด้านค่าเงินบาทนั้น ดีลเลอร์ให้ความเห็นว่ามีแนวโน้มเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับสกุลเงินอื่นๆ ในเอเชีย แต่อาจอ่อนค่าลง ถ้ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมสถานการณ์หากมีการสลายการชุมนุม หรือนายกรัฐมนตรีลาออก
 สำหรับอัตราผลตอบแทนของพันบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี อาจลงไปทดสอบจุดต่ำสุดในรอบ 7 เดือนดังเช่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพราะนักลงทุนหันไปหาแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยกว่า


@พรรคร่วมแยกตัว-มีการเลือกตั้ง
 ถ้าพรรค ร่วมแยกย้ายทางใครทางมัน ตามมาด้วยการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทย ซึ่งใกล้ชิดผู้ชุมนุมประท้วงและอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตรที่กระเด็นจากเก้าอี้เพราะรัฐประหารปี 2549 มีแนวโน้มสูงที่จะได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
  ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ: การยุบสภาก่อนกำหนดมีผลดีค่อนข้างน้อยต่อเศรษฐกิจ และอาจนำไปสู่ความวุ่นวายที่มากขึ้น เนื่องจากชนชั้นกลางในกรุงเทพฯ และชนชั้นสูง ไม่ยอมรับรัฐบาลที่ยืนข้างทักษิณ
 อีกทั้งยังต้องใช้เวลาพอ สมควรในการตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งส่งผลให้การใช้จ่ายงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.43 ล้านล้านบาท ในช่วง 3 ปีต้องล่าช้าออกไป และเป็นอุปสรรคต่อการเบิกจ่ายงบประมาณตามปกติ
 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ คลังชี้ว่าการเติบโตของจีดีพีลดลง 1.8% หากการประท้วงยืดเยื้อถึงไตรมาส 4 แล้วนำไปสู่การยุบสภา
 ขณะที่ผลกระทบในระยะกลางอาจรุนแรงกว่า เพราะนักลงทุนต่างชาติที่หยุดชะงักจนถึงขณะนี้อาจทบทวนแผนการลงทุนในไทยใหม่ บริษัทจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นนักลงทุนรายใหญ่สุดของประเทศ รวมถึงโตโยต้า มอเตอร์ส แสดงความกังวล และอาจมองหาทำเลใหม่ หากวิกฤตในไทยยังดำเนินต่อไป
 และ ในที่สุดวิกฤตการเมืองอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกยานพาหนะและชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ ส่งผลต่อดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งจะฉุดให้เงินบาทอ่อนลง
 ปฏิกิริยาของตลาดหุ้น: การเข้าบริหารงานของรัฐบาลใหม่อาจทำให้ตลาดหุ้นคึกคักในช่วงแรก ราคาที่ต่ำจะดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาเสี่ยง แต่รัฐบาลใหม่อาจไม่ช่วยทำให้อันดับความน่าเชื่อถือของไทยดีขึ้น ดังนั้นตลาดตราสารหนี้ยังคงอยู่ภายใต้ความกดดัน การดำเนินการทางการเมืองใดๆ ไม่อาจแก้ไขปัญหาในประเทศที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายได้ และไม่นานวัฏจักรของการประท้วงจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง


@ทหารก่อรัฐประหาร
 ไทยเกิดการรัฐประหาร หรือความพยายามที่จะก่อรัฐประหารมาแล้ว 24 ครั้ง นับจากปี 2475 ล่าสุดคือครั้งที่กระชากทักษิณลงจากตำแหน่ง การเคลื่อนพลออกมาอีกครั้งของทหารอาจเกิดขึ้นได้ถ้ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์มีแนว โน้มล้มเหลว หรือเมื่อมีการเลือกตั้งแล้วพรรคที่ยืนข้างทักษิณได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
 ผล กระทบต่อเศรษฐกิจ  รัฐประหารไม่ช่วยแก้ปัญหาใด ยิ่งหากเป็นการปฏิวัติแบบนองเลือดจะยิ่งซ้ำเติมธุรกิจ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดิ่งลึก
 นักเศรษฐศาสตร์วิเคราะห์ว่า ในไตรมาสที่เกิดปฏิวัติการเติบโตจะลดลง 0.5% การบริโภคตลอดจนกิจกรรมทางเศรษฐกิจซบเซา ส่วนการใช้จ่ายภาครัฐ ซึ่งรวมถึงงบกระตุ้นเศรษฐกิจย่อมชะงักงัน
 แบงก์ชาติน่าจะคงอัตรา ดอกเบี้ยต่อไปเป็นระยะเวลานานขึ้น เพื่อประคับประคองความเชื่อมั่น และสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
 สถาบันจัดเรตติ้งอาจหั่นอันดับความน่า เชื่อถือของไทยลง ส่งผลกระทบต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ไปยังตลาดเกิดใหม่ในอาเซียนอย่างไม่อาจหลีก เลี่ยงได้ แม้นักวิเคราะห์จะชี้ว่านี่เป็นสถานการณ์เฉพาะของไทยเท่านั้น
 ปฏิกิริยา ของตลาด รัฐประหารปี 2549 นำไปสู่การควบคุมการเคลื่อนย้ายเงินทุน ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นรูดลงวันเดียวมากที่สุดในรอบ 31 ปี ความวิตกว่าจะมีการควบคุมในทำนองเดียวกัน และความผิดพลาดในการการบริหารจัดการงบประมาณจะผลักราคาหุ้นและพันธบัตรให้ตก ต่ำ แม้อัตราดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับต่ำมาก
 เงินบาทอาจอ่อนค่าลง แม้เมื่อปี 2550 เงินบาทจะแข็งทั้งๆ ที่มีมาตรการควบคุมเงินทุน และเมื่อเร็วๆ นี้ก็ได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกเท่าๆ กับวิกฤตการเมืองในประเทศ
 ขณะที่อนุพันธ์ CDS (credit default swaps) อายุ 5 ปี เครื่องมือทางการเงินที่เป็นเหมือนหลักประกันความเสี่ยง อาจกระโดดสูงขึ้นไปอีก จากระดับเมื่อสัปดาห์นี้ที่สูงสุดในรอบเกือบปี


@การเจรจาระหว่างรัฐบาล-ผู้ชุมนุม นำไปสู่การประนีประนอม
 นี่อาจจะเป็นการวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด แต่ก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากนายกฯ อภิสิทธิ์ยังยืนกรานต่อต้านข้อเรียกร้องที่ให้มีการยุบสภาทันที และปล่อยให้ความตึงเครียดเกิดขึ้นบนท้องถนน โดยหวังว่าจะชนะผู้ชุมนุมได้ในที่สุด
 ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ: การประนีประนอมอาจจะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่น รวมทั้งทำให้ค่าเงินบาทและหุ้นเพิ่มขึ้น เพราะความต้องการซื้อขายที่ถูกระงับไว้จะถูกปลดปล่อยออกมาหลังความตึงเครียด ลดลง การขยายตัวทางเศรษฐกิจตลอดทั้งปีอาจจะขยับสูงขึ้นจากระดับที่นักเศรษฐศาสตร์ ประเมินไว้ที่ 2.8-6.0%
 หากเศรษฐกิจกลับเข้าร่องเข้ารอย และธุรกิจกลับสู่โหมดปกติ แบงก์ชาติอาจจะเริ่มประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับปกติในการประชุมครั้ง หน้าที่จะมีขึ้นในเดือนมิถุนายน เพื่อสกัดการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อเนื่องจากความต้องการบริโภคที่เพิ่มขึ้น
 ปฏิกิริยา ต่อตลาดหุ้น : เงินบาทและหุ้นจะปรับเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนจะกลับมาในตลาด แต่ราคาพันธบัตรจะยังคงต่ำ ส่งผลต่ออัตราผลตอบแทน เนื่องจากเงินลงทุนจะไหลกลับไปสู่ตลาดหุ้น และอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับสูงขึ้น


view