จากประชาชาติธุรกิจ

เฮลท์ ทริกส์

 

น้ำส้มคั้นบรรเทาจุกเสียด

บางครั้งบางคราวที่คุณเกิดเอร็ดอร่อยกับ อาหารตรงหน้าเป็นพิเศษจนกินเข้าไปเกินพอดีละก็ ร่างกายของคุณก็ต้องลำบากลำบนไปด้วย เพราะจะมีกระบวนการย่อยที่ทำให้คุณรู้สึกแน่นจุกเสียดจนแทบลงไปนอนดิ้น แต่วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยรับมือกับสถานการณ์เช่นนี้ คือ ดื่มน้ำส้มคั้น

เฮลท์ทิปส์ดอตเน็ตรายงานว่า งานวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ชี้ว่า คนที่เพิ่งจัดการฟาสต์ฟู้ดเซตใหญ่เป็นอาหารเช้า จะมีอาการดีขึ้นหลังได้ล้างปากด้วยน้ำนางเอก

อย่างไรก็ตามอย่าได้อุตริจับคู่อาหาร มื้อใหญ่กับน้ำอัดลมเด็ดขาด เพราะคุณอาจลงเอยด้วยอาการหนักกว่าเก่า

จากการวิจัยซึ่งศึกษาผลของเครื่องดื่ม 3 ชนิดที่มีผลต่ออาหารไขมันสูงที่มักทำให้เกิดภาวะจุกแน่นไม่สบายท้อง ปรากฏว่าเครื่องดื่มที่ผสมน้ำตาลมีผลงานแย่ที่สุด เพราะยิ่งไปเร่งให้อาการแสบร้อนเกิดเร็วและมากขึ้น ขณะที่น้ำเปล่าดีรองลงมาจากน้ำส้มคั้น แม้ไม่มีฤทธิ์บรรเทาความจุกเสียดมากนัก แต่อย่างน้อยก็ไม่เพิ่มจำนวนแคลอรี

ปัจจัยที่ทำให้น้ำส้มคั้นกลายเป็นน้ำนาง เอกอย่างแท้จริงในกรณีนี้ก็คือ สารฟลาโวนอยด์ในผลส้ม ได้แก่ นารินจินิน และเฮสเพอริดิน  ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ประสิทธิภาพสูงที่สามารถชะลอกระบวนการที่เป็นอันตราย   ต่อ เส้นโลหิต ซึ่งอาจนำไปสู่โรคร้ายแรงอย่างโรคหัวใจหรือเส้นเลือดในสมองแตกได้

นี่ยังไม่นับประโยชน์จากวิตามินซีที่คุณ จะได้รับแบบเต็ม ๆ จากการดื่มน้ำส้มคั้นเลยนะ

ผงชูรสทำร้ายรอบเอว

คุณอาจเคยได้ยินว่า โมโนโซเดียมกลูตาเมต (ชื่อที่คุ้นหูกว่าของมัน คือ ผงชูรส) ก่อให้เกิดปฏิกิริยาทางร่างกายต่างกันไปในแต่ละคน แต่หนึ่งในผลลัพธ์ที่คุณอาจยังไม่รู้ คือน้ำหนักขึ้น

ยัวร์เฮลท์เคานต์ดอตเน็ตรายงานว่า ในงานวิจัยของจีนระบุว่า คนที่รับประทานผงชูรสเป็นประจำมีแนวโน้มจะกลมกลิ้งกว่าคนที่ไม่ค่อยยุ่ง เกี่ยวกับมัน

ผงชูรสคือเกลือที่ทำจากกรดกลูตามิกใส่ลง ในอาหารเพื่อช่วยให้ลิ้นรับรสได้ดีขึ้นจึงรู้สึกว่าอาหารรสชาติดีกว่าปกติ ผงปรุงอาหารชนิดนี้มีใช้กันตั้งแต่ในครัวเรือน ร้านข้าวแกงข้างถนน ไปจนถึงภัตตาคารหรู

ถ้าคุณคิดว่าเจ้าผงชูรสมีส่วนทำให้อ้วน เพราะกระตุ้นให้ผู้คนเจริญอาหารมากขึ้นละก็ ขอบอกว่าคิดผิดถนัด เพราะอาสาสมัครที่เข้าร่วมการวิจัยครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มที่ ′เซย์โน′ หรือ ′เซย์เยส′ กับผงชูรส ต่างได้รับแคลอรีในแต่ละวันเท่ากัน และมีพฤติกรรมการออกกำลังกายเหมือน ๆ กัน

นักวิจัยคิดว่าเป็นเพราะผงชูรสไปขัด ขวางกระบวนการทำงานของฮอร์โมนที่ชื่อว่าเล็ปทิน ซึ่งทำหน้าที่ส่งสัญญาณไปยังสมองว่า   ′อิ่มแล้วจ้ะ′

อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการศึกษาตามมาอีกเพื่อหากลไกที่ชัดเจนเพื่ออธิบายว่า อะไรทำให้ผงชูรสกระทบต่อเราจนต้องขยายห่วงยางรอบเอวเพิ่มขึ้น