สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

พาร์กินสันแมน กับ แบตเตอรี่ ก้อนละ 5 แสน

จากประชาชาติธุรกิจ

    เกือบ 3 ปีแล้วที่ ผมรู้จัก ผู้ชายวัย 50 กว่าคนหนึ่ง ในสโมสรว่ายน้ำแห่งหนึ่งกลางกรุง เขาจะมาว่ายน้ำในเวลาเช้า ทุกวัน ไม่เคยขาด

    ใน สระน้ำ เขาว่ายน้ำและกระโดดน้ำเหมือนปลา แต่เมื่อเขาขึ้นมาจากสระน้ำ เขาดูคล้ายมนุษย์หุ่นยนต์ เดินช้า  พูดเหมือนคนติด อ่าง

   แต่ สิ่งที่ คนในสระว่ายน้ำ สนใจในตัวเขาเป็นพิเศษ กล่องสี่เหลี่ยม ที่ฝังอยู่ในหน้าอก 

   ผม ถามว่า มันคือกล่องอะไร ?

    เขา ตอบว่า มันคือ ก้อนแบตเตอรี่ ก้อนละ 8 แสนบาท มีอายุใช้งาน 5 ปีแบตเตอรี่ก้อนนี้ เชื่อมต่อกับสายไฟ( สายอิเลคโทรด) ที่เจาะเข้าไปในก้อนสมอง เพื่อควบคุมการเคลื่อนไหวของร่างกายให้เป็นไปอย่างปกติ

  ถ้า ไม่มีก้อนแบตเตอรี่และสายไฟที่เจาะผ่านกระโหลก เข้าไปในสมอง เขาจะตัวแข็ง เกิดอาการสั่นเกร็ง จนเดินไม่ได้

ใช่แล้ว … เขา คือ ′พา ร์กินสันแมน′ นั่นเอง

เขา เล่าว่า ได้ป่วยเป็นพาร์กินสันมานานเกือบ 10 ปี ตั้งแต่อายุ 40 ปีต้นๆ ต้องกินยาบรรเทา อาการสั่น และอาการตัวแข็งเกร็ง วันละ 4-5 เม็ด มายาวนานหลายปี

   จากแชมป์ว่ายน้ำมอดินแดง ( มหาวิทยาลัยขอนแก่น) จากหนุ่มวิศวกรรุ่น 13 ที่มีอนาคต เคยทำงานธนาคารออมสิน เคยทำงานแบงก์ชาติ ก่อนจะลาออกมาเป็นเจ้าของบริษัทก่อสร้าง

และ จากที่เคยเป็นหัวหน้าครอบครัวที่ขับรถไปทำงาน คุมไซด์งานรับเหมาก่อสร้างได้ ก็ต้องหยุด นอนอยู่กับบ้าน เพราะฝืนสังขารตัวเองไม่ไหว

    เพราะเมื่อเครียดขึ้นมาเมื่อใด ยารักษาพาร์กินสันก็เอาไม่อยู่ อารมณ์จะปรวนแปรอย่างรุนแรง เรียกว่า Hot ขึ้น มา เมื่อใด เป็นได้เรื่อง...  อารมณ์จะร้อนแบบสุดๆ มีอาการพูดไม่หยุด หรือ ไม่ก็หัวเราะไม่หยุด อาการคล้ายคน ผีเข้า

  หลายคนที่ป่วยเป็น พาร์กินสัน มักถูกคู่ชีวิต หย่าขาด เพราะทนอาการฮอตของผู้ปวยไม่ไหว บางคนก็ฆ่าตัวตาย เพราะทนรับสภาพตัวเองไม่ไหว

   เขาเล่าว่า  เคยพยายามฆ่าตัวตาย มาแล้ว 3 ครั้ง  

 “อย่าทิ้งคนป่วย โรคพาร์กินสันไว้คนเดียวอย่างเด็ดขาด เพราะทุกคนมีสิทธิ …ฆ่า ตัวตาย”

    ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เขาป่วยหนัก จนไปทำงานไม่ได้ ต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน โดยมีภริยา ลูก และ คุณป้า คอยดูแล เป็นกำลังใจ

… คุณ เชื่อไหม ผมนอนมา 3 ปี …

จน เดือน พฤศจิกายน 2547 วิทยาการสมัยใหม่ในการรักษาพาร์กินสัน โดยการผ่าตัด ถูกนำมาทดลองในประเทศไทยครั้งแรก

   ทันทีที่รู้ข่าว เขาลั่นวาจาว่า ′ต้อง ผ่าตัดให้ได้ ถึงผ่าตัดแล้วตายก็ยอม′

   ความตั้งใจอย่างแน่วแน่น ทำให้เขายอมเป็น ′หนู ทดลอง′ เข้า รับการผ่าตัด ฝังสายอิเลคโทรด หรือ การผ่าตัดแบบ Deep Brain Stimulation คน ที่ 17 ของเมืองไทย วันนั้น ตัวเครื่องบวกแบตเตอรี่ ราคารวมกันกว่า 1 ล้านบาท

    ตอนแรก คุณหมอบอกว่า 2 หมื่นกว่า เขานึกว่า ทำไมถูกจัง แค่ 2 หมื่น แต่จริงๆ แล้ว มันไม่ใช่ 2 หมื่นบาท แต่มันคือ 2 หมื่นดอลล่าร์

   หลังผ่าตัด เขากลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติ สามารถขับรถยนต์ไปคุมไซด์งานรับเหมาก่อสร้างได้ตามปกติ   ธุรกิจ ของเขาคือ ปฎิบัติการยกตึกทรุดทั่วกรุง

    2 ปีมานี้ ผมเลิกว่ายน้ำ เปลี่ยนไปเดินในสวนสาธารณะแทน ผมจึงไม่ได้เจอ พาร์กินสันแมน อีกเลย

      สัปดาห์ก่อน เขา โทรศัพท์ มาบอกผมว่า.. เพิ่งผ่านความตายมาอีกครั้ง

เพราะ แบตเตอรี่หมดอายุ ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่ 

    เสียง ของเขาแผ่วเบา จนผมรู้ได้ถึงความไม่ปกติ

       วันเสาร์ ผมขับรถไปเยี่ยม พาร์กินสันแมน ถึงบ้าน เมืองนนทบุรี

       ผมเจอ พาร์กินสันแมน   ภริยาและลูกชายของเขา และคุณป้าที่คอยดูแลเขาตั้งแต่วิกฤตรอบที่แล้วจนถึงวิกฤตรอบล่าสุด

        เขาเล่าว่า ก่อนเปลี่ยน แบตเตอรี่ รอบใหม่ แทบเอาชีวิตไม่รอด ร่างกายทรุดโทรมหนัก น้ำหนัก 60 กิโล ลดเหลือ 30 กิโลกรัม  นอนเดี้ยงบนฟูกทั้งวัน  เป็น แผลกดทับ เน่า และเหม็นมาก

         จะไปไหนที ต้องให้ เมีย ลูก และคุณป้า แบกไป

         ทุกคนในบ้าน เตรียมใจว่า  ...ตายแน่

 หลังการผ่าตัด เปลี่ยนแบตเตอรี่ รอบสอง ก้อนละ 5 แสนบาท

         เขากลับมาดีขึ้นอีกครั้ง แม้จะไม่เหมือนเดิม

          เขา เล่าว่า แบตเตอรี่ ก้อนใหม่ ๆ ละ 5 แสน

  เมียที่เป็นข้าราชการ เบิกไม่ได้ เพราะก้อนแบตเตอรี่ ไม่อยู่ในบัญชีที่เบิกได้

         วันนั้น  พาร์กินสันแมน และครอบครัว ดีใจที่ผมแวะมาเยี่ยม

          แต่ผมสังเกตว่า พวกเขา พูดคุยกันเรื่องความตาย เสมือนเป็นเรื่องธรรมดา

          ข้างที่นอนของ พาร์กินสันแมน มีวิทยุที่ล็อกคลื่นธรรมะ

          ภริยาของเขาพูดเล่นๆ ว่า  ฟังธรรมะ ก่อนตาย จะได้ไปสวรรค์ (ฮา)

        ผมรู้จักครอบครัวนี้มานาน   ผม ยกย่องจิตใจของเมียของพาร์กินสันแมน มากๆ

        เธอเข้มแข็ง อดทน ทุกเช้าออกไปทำงาน ด้วยใบหน้าแจ่มใส จนไม่มีใครในที่ทำงาน รู้ว่า เธอมีสามีป่วยเป็นพาร์กินสัน มานานนับ 10 ปี

         เธอเป็น แม่พระของเพื่อนและน้องที่ทำงาน ในบ้านเธอเป็นแม่พระของคนป่วย

         เธอพูดเล่นกับผมว่า  ชาติ ที่แล้ว เธอกับเขา ก่อกรรมไว้ร่วมกัน

         พาร์กินสันแมน แอบอมยิ้ม  และ มีน้ำตามาคลอที่หัวตา

      ทุกวันนี้ เขาไม่ได้ออกไปว่ายน้ำ ไม่ได้ไปวิ่งที่พุทธมณฑล อีกแล้ว

          วันที่ ผมไปเยี่ยม เขาไม่ค่อยพูด โดยบอกว่า ยามันออกฤทธิ์แรงไปหน่อย ทำให้มึนหัว  ผมลากลับแล้ว บอกว่า... จะกลับมาอีก   

          ระหว่างขับรถออกมา ผมบอกตัวเองว่า ชีวิตของผมโชคดีที่สุด

          ผมจะ ใช้ชีวิต อย่างมีคุณค่า เผื่อว่า พรุ่งนี้ ผมอาจไม่ตื่นนอน !!!

 

 

                                                           ขุนสำราญภักดี

                                                           ppolitic@hotmail.com

view