จาก มติชนออนไลน์

เมื่อเวลา 20.30 น. วันที่ 17 พฤษภาคม ที่กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร. 11 รอ.) นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ตามที่แกนนำกลุ่มแนวร่วมร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลกลับเข้าสู่กระบวนการเจรจาอีกครั้งหนึ่ง โดยพยายามดึงองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เข้ามาเป็นตัวกลางนั้น ทางรัฐบาลได้ยืนยันไปแล้วว่าเราไม่เอาและไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ ยังมีการกล่าวอ้างว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ออกข่าวไปทั่วโลกว่าพร้อมจะเข้ามาเป็นตัวกลางในการไกล่เกลี่ย ซึ่งได้สอบถามไปแล้วพบว่าไม่มี โดยวันที่ 18 พฤษภาคม สถานทูตสหรัฐฯ จะได้ชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบ ส่วนที่มีข่าวออกมาว่าตนโทรศัพท์ไปหานายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เพื่อติดต่อขอเจรจานั้น ข้อเท็จจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะนายณัฐวุฒิเป็นฝ่ายโทรมาหาตนในเวลา 15.16 น. ของวันที่ 17 พฤษภาคม เสนอให้ทหารหยุดยิง หากทำได้ประชาชนที่ออกไปอยู่ตามจุดต่างๆ ในรอบนอกกลับมาร่วมชุมนุมที่ราชประสงค์
 

“สิ่งที่น่าสนใจคือทหารไม่ได้เป็นคนเริ่มยิ่ง สิ่งที่ทำได้ง่ายที่สุดก็คือในเมื่อนายณัฐวุฒิสั่งให้กลับมาได้ก็แสดงว่า เป็นคนสั่งให้ออกไป ดังนั้น คนที่กำลังเผายาง มีอาวุธสงคราม ใช้เด็กเป็นเครื่องมืออยู่ในขณะนี้ คุณณัฐวุฒิสั่งได้หมด” นายกอร์ปศักดิ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ปฏิบัติการกระชับวงล้อมของทหารต้องชะลอลงเพื่อรอการเจรจาใช่หรือ ไม่ นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า ไม่ใช่ การเจรจาหยุดมาหลายวันแล้ว

เมื่อถามว่า ในการพูดคุยกับนายณัฐวุฒิ 5 นาทีได้บอกหรือไม่ว่าพร้อมยุติการชุมนุม เลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า ประเด็นที่พูดแล้วอาจจะตรงกันคือไม่อยากให้เกิดความสูญเสียมากไปกว่านี้ ความจริงจะว่าไก่กับไข่ก็พูดได้ ซึ่งนายณัฐวุฒิก็บอกว่าเห็นด้วย ทำได้ แต่พอคุยเสร็จกลับไปบอกอีกอย่าง ตนจึงจำเป็นต้องออกมาเล่าข้อเท็จจริงให้ฟัง
 

เมื่อถามว่า หากจะมีการเจรจาในครั้งต่อไปจะเกิดประโยชน์หรือไม่ เพราะคำพูดของแกนนำ นปช. ไม่ตรงกับการกระทำเลย นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า “ก็ต้องลองคิดดู”

เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าการเจรจาจะเกิดขึ้นอีกก็ต่อเมื่อกลุ่ม นปช. ยุติการชุมนุม และยุติการก่อจลาจล นายกอร์ปศักดิ์กล่าวว่า “น่าจะพูดอย่างนั้นได้ แต่ดีที่สุดคือขอให้ยุติการชุมนุม ทุกคนเข้ามอบตัว แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็เรียกผู้ชุมนุมรอบนอกกลับมา" 
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้นลง นายกอร์ปศักดิ์ได้โชว์โทรศัพท์มือถือของตนเพื่อให้ช่าง ภาพได้ถ่ายรูป โดยปรากฏชื่อ Natawut red shirt ในโหมด Income คือเป็นการโทรเข้ามา

กอร์ปศักดิ์อัด'ณัฐวุฒิ'โกหก ยันรัฐเจรจามาตลอด

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

กอร์ปศักดิ์ อัด'ณัฐวุฒิ'โกหกเรื่องการเจรจา ยันทำมาตลอดบอก ต้องสั่งคนของตัวเองหยุดยิง

นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรุงเทพธุรกิจ ในฐานะเป็นตัวแทนเจรจากับแกนนำนปช.เพื่อให้ยุติสถานการณ์รุนแรง ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช.ออกมาแถลงเรียกร้องให้นายกฯเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ โดยยืนยันว่าตนเองได้เจรจากับนปช.อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับนายณัฐวุฒิแต่กลับออกมาแถลงข่าวทำนองว่ารัฐบาลไม่ยอมเจรจา

 "คุณณัฐวุฒิ รู้ดีว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา เราได้มีการคุยกันกี่ครั้งกี่หน รวมทั้งวันนี้  แต่ผมจะไม่ขอพูดเรื่องรายละเอียดในวันนี้ เพราะฉะนั้นที่ณัฐวุฒิ สั่งสอนนายกฯ และเรียกร้องให้รัฐบาลเจรจานั้น คุณณัฐวุฒิควรเลิกพูดโกหก เพราะแท้ที่จริงแล้วคุณย่อมรู้ดีว่าใครกันแน่ที่พูดโกหก คุณณัฐวุฒิ พยายามบอกว่านายกฯไม่อยากเจรจาและยังสั่งสอนอีกว่า การเจรจาครั้งที่ 1 ครั้งที่ 2 ไม่สำเร็จ ควรจะมีครั้งที่ 3-4-5 คงหมายถีงการเจรจาทางทีวี ซึ่งคุณณัฐวุฒิย่อมรู้แก่ใจตัวเองว่า รัฐบาลได้พยายามอย่างไรที่จะพูดให้เกิดความเข้าใจ ในเรื่องแผนปรองดอง ที่คุณออกมายอมรับในหลักการเพื่อให้เกิดผลในทางปฏิบัติ แต่ท้ายที่สุดก็ยังไม่สำเร็จ "

นอกจากนี้ นายกอร์ปศักดิ์ ยังชี้แจงประเด็นต่างๆ ที่นายณัฐวุฒิแถลงด้วยว่า "มีอยู่ 2-3 ประเด็น ที่น่าสนใจ ที่การแถลงระบุถึงเรื่องเร่งด่วนคือ 1. เรียกร้องให้มีการหยุดยิงแล้วจะเหตุการณ์จะสงบ  2. ถ้าหากรัฐบาลหยุดยิงแล้วจะเอาพี่น้องผู้ชุมนุมกลับเข้าราชประสงค์ แล้วเริ่มต้นการเจรจา ผมก็มีคำถามกลับต่อสิ่งที่นายณัฐวุฒิแถลง คือแสดงว่าพี่น้อง นปช.ที่ออกไปเคลื่อนไหวข้างนอกที่ชุมนุม เผายาง และถืออาวุธ ใช้เด็ก และผู้หญิงเป็นโล่ นั้น คุณณัฐวุฒิเป็นคนให้ไปหรืออย่างไร

"เพราะฉะนั้น ผมอยากขอให้คุณณัฐวุฒิอย่ากล่าวหาแต่รัฐบาล แล้วเรียกร้องให้ฝ่ายรัฐบาลหยุดยิง เพราะหลักฐานอย่างในวันนี้ คือการยิงเอ็ม 79 กว่า 20 ลูกนั้น ก็ขอให้คุณณัฐวุฒิสั่งพี่น้องให้หยุด หากหยุดยิงเอ็ม 79 หยุดเผายาง แล้วก็จะไม่ได้ยิงเสียงจากรัฐบาลแม้แต่นัดเดียว ถ้าคุณณัฐวุฒิเรียกมวลชนกลับไปที่ราชประสงค์ได้ มีใครไม่อยากเจรจาต่อบ้าง"

กอร์ปศักดิ์เผย"ณัฐวุฒิ"เป็นฝ่ายโทรหาขอเจรจา

จาก โพสต์ทูเดย์   

“กอร์ปศักดิ์” แฉ “ณัฐวุฒิ”โทรมาหาขอเจรจาก่อนระบุ การเจรจาเกิดขึ้นต้องยุติการชุมนุม-แกนนำมอบตัว จี้ให้แกนนำแดงสั่งยุติการก่อจลาจลก่อน

นายกอร์ปศักดิ์  สภาวสุ  เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า    ตามที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ระบุว่า  ตนโทรหานายณัฐวุฒินั้น  ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง  เพราะตนเองไม่ได้โทรไปหาเนื่องจากได้ยุติการเจรจาไป 4-5วันแล้ว แต่ความจริงนายณัฐวุฒิเป็นคนโทรมาหาตนเองเมื่อเวลา 15.16 น.  โดยใช้เวลาคุยกัน 5 นาที   ดังนั้นอยากให้พูดความจริง โดยเบื้องต้นเห็นตรงกันว่าไม่ควรให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้

ทั้งนี้การที่แกนนำนปช.แถลงว่าขอให้รัฐบาลสั่งให้ทหารหยุดยิง โดยแกนนำนปช.จะเรียกพี่น้องเสื้อแดงที่ชุมนุมรุนแรงอยู่ด้านนอกกลับมาชุมนุม ที่ราขประสงค์นั้นเห็นว่า ทหารไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มยิงก่อน เป็นแต่เพียงกระชับวงล้อมไม่ให้มีการชุมนุมที่ผิดกฎหมายในพื้นที่ราชประสงค์ เท่านั้น ดังนั้นการที่นายณัฐวุฒิสั่งให้มวลชนออกไปได้ก็ควรเรียกกลับมาตอนนี้  แกนนำคนเสิ้อแดงต้องสั่งให้มีการยุติการก่อจลาจลก่อน  หากเป็นแบบนี้รับรองว่าจะไม่มีกระสุนออกไปจากทหารแน่นอน

“เบื้องต้นการเจรจาจะเกิดขึ้นได้ถ้ามีการยุติการชุมนุมและแกนนำมอบตัว แต่หากยังทำไม่ได้ก็ควรสั่งให้มวลชนยุติการก่อจลาจลเผาเมือง เผายางรถยนต์ก่อน  เมื่อนายณัฐวุฒิบอกเองว่าสั่งได้ แปลว่าเป็นคนสั่งให้มวลชนไปสร้างความรุนแรงใช่หรือไม่ ดังนั้น  แกนนำนปช.ต้องเรียกมวลชนกลับมาอยู่ในความสงบก่อน  ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น” นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว

นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า  ส่วนที่แกนนำเสื้อแดงออกมาให้สัมภาษณ์ว่า  โดยเรียกร้องให้ รัฐบาลเจรจาโดยให้สหประชาชาติเป็นตัวกลางนั้น   เรื่องนี้รัฐบาลประกาศไปแล้วว่าไม่เห็นด้วย   ส่วนที่แกนนำเสื้อแดงระบุว่าสหรัฐพร้อมเป็นตัวกลางในเรื่องนี้และออกข่าวไป ทั่วโลกนั้นได้สอบถามกับทางสหรัฐไปแล้ว พบว่าสหรัฐปฏิเสธและไม่ได้มีการออกข่าวไปทั่วโลกว่าจะเป็นตัวกลางอย่างที่ แกนนำคนเสื้อแดงกล่าวอ้าง  ซึ่งทางสหรัฐน่าจะออกมาแถลงในวันที่18 พ.ค.

จี้ทหารหยุดยิง 'ณัฐวุฒิ'ดอด เคลียร์เลขานายก

จาก ไทยรัฐออนไลน์

"กอร์ปศักดิ์"แฉ"ณัฐวุฒิ"โทรศัพท์หาขอเจรจาราว 5 นาที ให้รัฐบาลหยุดยิง และจะเรียกคนเสื้อแดงกลับที่มั่นเวทีราชประสงค์ ระบุสิ่งที่เห็นตรงกันคือไม่ต้องการสูญเสีย จวกแกนนำไม่ต้องมาเรียกร้องให้ทหารหยุดยิง...

เมื่อวันที่ 17 พ.ค.นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ  เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวระบุโทรศัพท์ไปหานายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช.โดยยืนยันว่า ไม่ได้โทรศัพท์ไป เป็นฝ่ายนายณัฐวุฒิ ที่โทรศัพท์เข้ามา ซึ่งได้มีการพูดคุยกันประมาณ 5 นาที โดยนายณัฐวุฒิ เสนอว่า วันนี้ควรมีการหยุดยิง และพวกเขาเองก็จะเรียกพี่น้องคนเสื้อแดงที่อยู่ตามจุดต่างๆ ให้กลับมารวมตัวกันที่เวทีแยกราชประสงค์ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ ทหารไม่ได้เป็นคนเริ่มต้นยิง จึงบอกไปว่าสิ่งที่นายณัฐวุฒิบอกว่าสามารถสั่งให้พี่น้องคนเสื้อแดงกลับไป ได้ ก็แสดงว่าเป็นคนสั่งให้เขาเหล่านี้ไป ทั้งที่เผายางและการเอาเด็กไปเป็นโล่กำบัง

สำหรับสิ่งที่ขอเรื่อง สันติหรือยุติชั่วคราวนั้น นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า จะไม่มีกระสุนของทหารออกไปแม้แต่นัดเดียว หากนายณัฐวุฒิ สั่งพี่น้องคนเสื้อแดงกลับไปยังเวทีแยกราชประสงค์ได้ ส่วนประเด็นที่เห็นตรงกันคือ ไม่อยากเห็นการสูญเสีย และขอยืนยันว่า ทหารบุกเข้าไปที่ราชประสงค์เป็นการกระชับวงล้อม ทั้งนี้รัฐบาลจริงใจในการเจรจากับกลุ่ม นปช. และได้พยายามมาโดยตลอด แต่ขณะนี้การเจรจาหยุดมาหลายวันแล้ว จนกระทั่งมีโทรศัพท์ของนายณัฐวุฒิ เข้ามาหาตนในวันนี้ อย่างไรก็ตามไม่จำเป็นต้องออกมาเรียกร้องให้ทหารหยุดยิงก่อน เพราะหากแกนนำ นปช.เรียกผู้ชุมนุมกลับ ก็จะไม่มีการยิงกันอย่างที่เป็นอยู่ ทั้งนี้ยืนยันทหารไม่ได้ยิงประชาชน เป็นการยิงป้องปรามเพียงเท่านั้น.

กอร์ปศักดิ์อัดณัฐวุฒิตู่รัฐไม่ยอมเจรจา

จาก คมชัดลึกออนไลน์

คมชัดลึก :  "กอร์ปศักดิ์" ชี้สหรัฐฯไม่ได้เสนอเป็นตัวกลางเคลียร์ปัญหา อัด "ณัฐวุฒิ" บิดเบือนโทรมาคุยเองด้วยซ้ำ สั่งม็อบกลับราชประสงค์ได้ ก็แสดงว่าเป็นคนสั่งป่วนได้

 เมื่อเวลา 20.15 น.วันที่ 17 พ.ค. นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฐานะตัวแทนรัฐบาลในการประสานงานกับแกนนำ นปช. แถลงที่แหล่งสมาคมนายทหารกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์(ร.11 รอ.) 3 ประเด็นจากการที่แกนนำเสื้อแดงให้สัมภาษณ์เอาไว้ว่า 1.ที่เรียกร้องให้รัฐบาลเข้าสู่การเจรจาอีกครั้งหนึ่ง โดยพยายามที่จะให้องค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น)เข้ามาเป็นคนกลาง ซึ่งประเด็นนี้โฆษกรัฐบาลตอบไปแล้วว่าเราไม่เห็นด้วย และในการแถลงมีการใช้คำพูดว่า “แต่ก็ยังดีที่รัฐบาลสหรัฐฯออกไปทั่วโลกว่าพร้อมเข้ามาเป็นตัวกลาง” ซึ่งเท่าที่ตนสอบถามดูนั้นไม่มี เพราะฉะนั้นขอให้ลองไปสอบถามทางสถานทูตสหรัฐฯ ที่อาจมีการชี้แจงเรื่องนี้ในวันพรุ่งนี้ว่าสหรัฐฯเองไม่ได้ออกไปทั่วโลก อย่างที่นายณัฐวุฒิกล่าว

 นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวอีกว่า 2.นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ไม่ได้แถลงเองแต่เป็น sms ออกไปทั่วหมดว่า ตนโทรศัพท์ไปหานายณัฐวุฒิในวันนี้ ที่ตนทราบเรื่องนี้เมื่อมีนักข่าวโทรมาสัมภาษณ์ ซึ่งมันไม่ใช่  ตนจะเปิดโทรศัพท์ให้ดูว่านายณัฐวุฒิโทรมาหาตน ตนไม่ได้โทรไปหา

 “มันไม่ใช่เป็นประเด็นที่ต้องมาเกี่ยงกันว่าใครโทรไปหาใคร แต่อยากจะบอกว่าเวลาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนต้องพูดความจริง โทรศัพท์มาคุยกับผม 5 นาทีครับ”นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวและโชว์เวลาที่นายณัฐวุฒิ โทรศัพท์หา ในเวลา 15.16 น.โดยใช้เวลาในการพูดคุย 5 นาที ระบุวันที่ 17 พ.ค. เพื่อเป็นการยืนยันว่านายณัฐวุฒิเป็นผู้โทรเข้ามาหา ตนเองไม่ได้เป็นผู้โทรไปหา

 เลขาธิการนายกฯ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้มีประเด็นที่ไม่ตรงนักกับที่นายณัฐวุฒิแถลงข่าว แต่เป็นสิ่งที่ตนให้ความสนใจใน สิ่งที่เขาเสนอตนมา 1.เขาบอกตรงกับที่เขาแถลงข่าวว่าวันนี้ควรจะมีการหยุดยิง อยากให้ฝ่ายทหารหยุดยิง แล้วก็เขาเองจะเรียกพี่น้องของเขาที่อยู่จุดต่างๆข้างนอกกลับมารวมชุมนุมที่ แยกราชประสงค์ใหม่ ที่ตนคิดว่าน่าสนใจ คือ ทหารไมได้เป็นคนเริ่มต้นยิง เพราะฉะนั้นสิ่งที่นายณัฐวุฒิทำได้ง่ายที่สุด เมื่อนายณัฐวุฒิสั่งให้เขากลับมาได้ก็แสดงว่าเป็นคนสั่งให้เขาออกไป เพราะฉะนั้นคนกำลังเผายางอยู่ คนที่กำลังมีอาวุธสงคราม คนที่กำลังใช้เด็กเป็นเครื่องมือนั้นนายณัฐวุฒิสั่งได้ทั้งหมด

  “เรื่องของการสันติหรือที่เรียกว่าหยุดชั่วคราว จะไม่มีกระสุนออกจากทหารแม้แต่หนึ่งนัดเดียว ถ้าคุณณัฐวุฒิสั่งคนของณัฐวุฒิกลับไปรวมที่ราชประสงค์ แล้วก็ทำได้ทันทีเพราะนายณัฐวุฒิแถลงเองว่าจะเอาพี่น้องของผมที่ราชประสงค์ แล้วเริ่มต้นเจรจา” นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว

 นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า คำว่าเริ่มต้นเจรจาก็ผิดอีกเพราะว่านายณัฐวุฒิรู้อยู่แก่ใจ ว่าการเจรจามันเริ่มตั้งแต่วันที่คนเสื้อแดงตอบรับ หลักการ 5 ข้อที่นายกรัฐมนตรีเสนอเพราะวันนั้นเป็นวันที่ตนเริ่มทำงานอย่างจริงจัง เพื่ออธิบายว่า 5 ข้อนั้นมีอะไรบ้าง เพราะคนเสื้อแดงเขาตอบรับหลักการแต่ไม่ยุติการชุมนุม ตนก็มีหน้าที่ไปชี้แจงรายละเอียดใน 5 ข้อ เพราะฉะนั้นการที่มาแถลงว่านายกฯเห็นว่าการเจรจาครั้งสองครั้งแล้วก็คิดว่าไม่ไหวแล้วล้ม เหลวแล้วไม่เจรจาต่อนั้นไม่ใช่ ซึ่งนายณัฐวุฒิรู้อยู่แก่ใจว่าพวกเราพยายามกันแค่ไหนอย่างไร

 “ยืนยันว่ารัฐบาลมีความจริงใจในการหาทางออกที่ไม่ต้องเสียเลือดเสีย เนื้อ แต่ต้องทำในลักษณะที่เปิดไพ่ ไม่ใช่พูดอย่างหนึ่งทำอย่างหนึ่ง ในการสนทนาทาง ศัพท์กับผมนั้นนายณัฐวุฒิก็เห็นด้วยกับสิ่งที่ผมได้พูดไปตามนี้ต่อนายณัฐ วุฒิ แต่เมื่อนายณัฐวุฒิออกมาให้ข่าว กลับพูดอีกอย่างหนึ่ง”นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว

  เมื่อถามต่อว่า กระบวนการทางทหารที่ได้กระชับวงล้อมเพราะรอการเจรจา   นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่หรอกครับ การเจรจาหยุดมาหลายวันแล้ว คุณณัฐวุฒิก็เห็นด้วย และทำได้ แต่พอคุยเสร็จแล้วไปบอกอีกอย่าง ตนได้รับมอบหมายให้เจรจาเสร็จสิ้นภายใน 4-5 วัน แล้วก็ไม่ได้มีการเจรจา จนมาถึงวันนี้ก็มีการโทรศัพท์

 เมื่อ ถามต่อว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ก็เดินไปทีละขั้น เรียกผู้ชุมนุมที่อยู่ข้างนอกกลับมาทั้งหมด

 นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวถึงเหตุที่ยุติบทบาทการเจรจาระหว่างรัฐบาลและแกนนำ นปช.ว่า มันมีหลายเงื่อนไข มีเวลาจะเล่าให้ฟัง เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ยังเชื่อใจแกนนำ นปช.ได้หรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ก็อย่างที่เห็นกันอยู่ เมื่อถามว่า ขณะนี้มีข่าวทางรัฐบาลติดต่อสหรัฐฯเพื่อขอกำลังทหารมาสนับสนุนข้อเท็จจริง เป็นอย่างไร นายกอร์ปศักดิ์ ปฏิเสธว่า ไม่มีหรอก

 เมื่อถาม ว่า ขณะนี้กำลังของเรายังดูแลได้อยู่ใช่หรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ครับ

 เมื่อถามว่า หากถอยกันคนละก้าวการที่ นปช.ยอมเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไขให้ยูเอ็นมาเป็นคนกลาง การเจรจาน่าจะเดินหน้า ต่อได้หรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ลำบาก อีกวันสองวันจะเล่าให้ฟัง

 เมื่อถามว่า ถ้าเป็นเช่นนี้คงจะไม่สามารถหาจุดลงตัวกันได้ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องพยายามต่อไป แต่ตนคิดว่ามันไม่ใช่ประเด็น ประเด็นขณะนี้ที่สำคัญที่สุดคือเอาคนออกมาเสีย กลับมาที่ราชประสงค์ เราจะไม่ได้ยินแม้แต่ 1 นัด ถ้าแกนนำบอกว่าสามารถเรียกกลับมาได้แสดงว่าเขาเป็นคนส่งไป

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

“กอร์ปศักดิ์” เหลืออด!! ตอก ”ไอ้เต้น” หน้าหงาย คุยอย่างลับหลังอย่าง ทั้งที่รู้ดีแก่ใจ ยังมีหน้าแสร้งยกหูโทรหาให้ทหารหยุดยิงเสื้อแดง ลั่นถ้าจริงใจเจรจาต้องเปิดใจหงายไพ่ในมือ ไม่เช่นนั้นบ้านเมืองวุ่นวายไม่จบ รับลำบากเลือกแนวทางเจรจา พร้อมปัดไม่เคยขอร้องให้เมกาฯ ต่อกำลังทหารมาหนุน

       วันนี้ (17 พ.ค.) นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวกรณีที่แกนนำ นปช.เรียกร้องให้ทหารหยุดยิงและเปิดให้มีการเจรจาว่า จากการที่ทางแกนนำของกลุ่มคนเสื้อแดงออกมาให้สัมภาษณ์มีอยู่ 2-3 ประเด็นด้วยกัน สำหรับประเด็นที่ 1 ที่เรียกร้องให้รัฐบาลเข้าสู่การเจรจาอีกครั้งหนึ่ง โดยพยายามที่จะให้สหประชาชาติเป็นตัวกลาง ซึ่งประเด็นนี้ทางโฆษกรัฐบาลแถลงแล้วไม่เห็นด้วย ในการแถลงนั้นแต่ก็ยังดีบอกว่า รัฐบาลสหรัฐฯออกไปทั่วโลกว่า พร้อมที่จะเข้ามาเป็นตัวกลาง แต่จากการที่ตนสอบถามมาไม่มี โดยทางสหรัฐฯจะมีการชี้แจงในวันอังคารที่ 18 พ.ค.นี้ ว่าสหรัฐฯเองไม่ได้ออกไปทั่วโลกตามที่นายณัฐวุฒิกล่าว
       
       นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นต่อมารจากนั้นคุณณัฐวุฒิไม่ได้แถลงเอง แต่เป็นเอสเอ็มเอสออกไปทั่วหมดว่า ตนโทรไปหาคุณณัฐวุฒิ แต่มันไม่ใช่ เดี๋ยวลงไปข้างล่างจะเปิดโทรศัพท์ให้ดูว่า คุณณัฐวุฒิโทรมาหาตน 5 นาที ประเด็นมันไม่ใช่เป็นประเด็นที่ว่า ใครโทรมาหาใคร แต่อยากจะบอกว่า เวลาแถลงข่าวกับสื่อมวลชนต้องพูดความจริง ส่วนประเด็นที่น่าสนใจคือ สิ่งไม่ตรงนักกับสิ่งที่คุณณัฐวุฒิแถลงข่าว แต่ว่าเป็นสิ่งซึ่งที่ตนให้ความสนใจ เป็นสิ่งที่เขาเสนอให้ตนมา ประเด็นที่ 1 คือ วันนี้ควรมีการหยุดยิง ให้ฝ่ายทหารหยุดยิง และเขาเองก็จะเรียกพี่น้องของเขาที่อยู่ในจุดต่างๆ ข้างนอกกลับมาชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ใหม่ ที่ตนคิดว่าน่าสนใจ เพราะทหารไม่ได้เป็นคนเริ่มยิง
       
       “สิ่งที่คุณณัฐวุฒิทำได้ง่ายที่สุดในเมื่อคุณณัฐวุฒิสั่งให้เขากลับ มาได้ แสดงว่าคุณณัฐวุฒิก็เป็นคนสั่งให้เขาออกไปเพราะฉะนั้นคนที่กำลังเผายาง คนที่มีอาวุธสงคราม คนที่กำลังใช้เด็กเป็นเครื่องมือ คุณณัฐวุฒิสั่งได้หมด ผมก็อยากบอกกลับไปว่า ในเรื่องการขอสันติ หรือหยุดยิงชั่วคราว จะไม่มีกระสุนออกจากทหารแม้แต่หนึ่งนัดเดียว ถ้าคุณณัฐวุฒิสั่งให้คนของคุณกลับไปร่วมที่สี่แยกราชประสงค์ ทำได้ทันที เพราะคุณณัฐวุฒิแถลงเองว่า ผมจะเอาพี่น้องของผมมาชุมนุมที่สี่แยกราชประสงค์ แล้วเริ่มต้นเจรจา คำว่าเริ่มต้นเจรจาก็ผิดอีกครับ เพราะคุณณัฐวุฒิรู้อยู่แก่ใจว่า การเริ่มต้นเจรจา มันเริ่มตั้งแต่วันที่คนเสื้อแดงตอบรับหลักการ 5 ข้อตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ เพราะวันนั้นเป็นวันที่ผมเริ่มทำงานอย่างจริงจัง เพื่ออธิบายว่า 5 ข้อนั้นมีอะไรบ้าง เพราะคนเสื้อแดงเขาตอบรับหลักการ แต่เขายังไม่ยุติการชุมนุม ผมก็มีหน้าที่ไปชี้แจงรายละเอียด 5 ข้อนั้น เพราะฉะนั้นคุณณัฐวุฒิมาแถลงว่า นายกฯ เห็นว่ามีการเจรจากันมา 2 ครั้ง แล้วคิดว่าไม่ไหวแล้วล้มเหลว แล้วไม่มีการเจรจาต่อ ไม่ใช่นะครับ คุณณัฐวุฒิรู้อยู่แก่ใจว่าพวกเราพยายามกันแค่ไหน ทั้งหมดก็เป็นประเด็นที่ตนอยากจะเรียนให้สื่อมวลชนได้ทราบว่า ประเด็น 2-3 ประเด็น ที่ผมคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ มันจะต้องพูดความจริง และทางรัฐบาลมีความจริงใจในการหาทางออก ที่ไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ แต่ต้องทำในลักษณะเปิดไพ่ ไม่ใช่พูดอย่างหนึ่งแล้วไปทำอย่างหนึ่ง” นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว
       
       เมื่อถามต่อว่า กระบวนการทางทหารที่ได้กระชับวงล้อมเพราะรอการเจรจา นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ใช่หรอกครับ การเจรจาหยุดมาหลายวันแล้ว คุณณัฐวุฒิก็เห็นด้วย และทำได้ แต่พอคุยเสร็จแล้วไปบอกอีกอย่าง ตนได้รับมอบหมายให้เจรจาเสร็จสิ้นภายใน 4-5 วัน แล้วก็ไม่ได้มีการเจรจา จนมาถึงวันนี้ก็มีการโทรศัพท์ เมื่อถามต่อว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ก็เดินไปทีละขั้น เรียกผู้ชุมนุมที่อยู่ข้างนอกกลับมาทั้งหมด
       
       นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวพร้อมกับโชว์เวลาที่นายณัฐวุฒิ โทรศัพท์หา ในเวลา 15.16 น.โดยใช้เวลาในการพูดคุย 5 นาที ระบุวันที่ 17 พ.ค. เพื่อเป็นการยืนยันว่านายณัฐวุฒิเป็นผู้โทรเข้ามาหา ตนเองไม่ได้เป็นผู้โทรไปหา ทั้งนี้นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวถึงเหตุที่ยุติบทบาทการเจรจาระหว่างรัฐบาลและแกนนำ นปช.ว่า มันมีหลายเงื่อนไข มีเวลาจะเล่าให้ฟัง
       
       เมื่อถามว่า จนถึงขณะนี้ยังเชื่อใจแกนนำ นปช.ได้หรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ก็อย่างที่เห็นกันอยู่ เมื่อถามว่า ขณะนี้มีข่าวทางรัฐบาลติดต่อสหรัฐฯเพื่อขอกำลังทหารมาสนับสนุนข้อเท็จจริง เป็นอย่างไร นายกอร์ปศักดิ์ ปฏิเสธว่า ไม่มีหรอก
       
       เมื่อถามว่า ขณะนี้กำลังของเรายังดูแลได้อยู่ใช่หรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ครับ เมื่อถามว่า หากถอยกันคนละก้าวการที่ นปช.ยอมเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไขให้ยูเอ็นมาเป็นคนกลางการเจรจาน่าจะเดินหน้า ต่อได้หรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ลำบาก อีกวันสองวันจะเล่าให้ฟัง
       
       เมื่อถามว่า ถ้าเป็นเช่นนี้คงจะไม่สามารถหาจุดลงตัวกันได้ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ก็ต้องพยายามต่อไป แต่ตนคิดว่ามันไม่ใช่ประเด็น ประเด็นขณะนี้ที่สำคัญที่สุดคือเอาคนออกมาเสีย กลับมาที่ราชประสงค์ เราจะไม่ได้ยินแม้แต่ 1 นัด ถ้าแกนนำบอกว่าสามารถเรียกกลับมาได้แสดงว่าเขาเป็นคนส่งไป
       
       เมื่อถามว่าขณะนี้น่าจะมีแนวโน้มที่ดีต่อการยุติสถานการณ์ได้หรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า มันคงเป็นไปอย่างนี้ตลอดชีวิตไม่ได้หรอก ตอนนี้ทุกคนอยากยุติ เครียด รัฐบาลก็อยากให้ยุติ ตนเองก็เครียดและอยากให้ยุติ เมื่อถามว่า ขณะนี้ติดที่ตรงไหนที่ทำให้ไม่สามารถหาจุดที่ลงตัวกันได้ นายกอร์ปศักดิ์ หยุดพูดสักพักก่อนจะกล่าวว่า ตอนนี้กำลังชอปปิ้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศษ ที่ร้านหลุยส์วิตตอง เมื่อถามว่า ไหนรัฐบาลเคยบอกว่ามองข้ามบุคคลคนนี้ไปแล้ว นากยอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า เขาไม่ค่อยให้ข้าม ตัวมันสูง ข้ามไปก็ติดๆ เอานะใจเย็นๆ ทุกวันนี้ตนเองพยายามมองโลกในแง่ดี
       
       เมื่อถามว่า การยุติจะต้องเป็นฝ่ายไหน ฝ่ายใดหยุดก่อน นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า มันเกิดพร้อมกันได้ในการยุติการชุมนุม โดยเฉพาะช่วงแรก ทำได้ทันที เพราะคนที่ออกไปตามจุดต่างๆ ถ้านายณัฐวุฒิ ระบุว่า สามารถเรียกกลับมาได้ ก็แสดงว่าเป็นคนสั่งออกไปเอง ก็เรียกกลับมาสิ เรียกกลับมากระสุนนัดเดียวก็ไม่มีออก เราต้องทำทีละขั้นตอน
       
       เมื่อถามว่า กระบวนการสกัดวงล้อมชะลอออกไปเพราะหยุดการเจรจา นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่าไม่ใช่เลย การเจรจาหยุดมาหลายวันแล้ว เมื่อถามว่า พูดกัน5นาทีคุยกันเรื่องยุติการชุมนุมหรือไม่ นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่าประเด็นที่อาจจะพูดแล้วตรงกัน คือ ไม่อยากให้เกิดความสูญเสียไปมากกว่านี้ จริงแล้วจะว่าไก่กับไข่ก็พูดได้ เพราะเราไม่ได้บุกในพื้นที่ราชประสงค์ เราเพียงแต่ตั้งด่านเพื่อควบคุมไม่ให้มีคนเข้าไปเพิ่มอีก เพราะการชุมนุมผิดกฎหมาย แล้วนายณัฐวุฒิ ส่งคนของเขาออกไปที่ด่านและเห็นกันตามคลิปว่ามีอาวุธอะไรบ้าง แล้วนายณัฐวุฒิก็บอกว่า “ผมพร้อมที่จะเรียกคนกลับมาถ้าหากว่าเราหยุดยิง” ง่ายนิดเดียวถ้าหยุดเผายาง หยุดทุกอย่างก็กลับมาไม่มียิงกันอยู่แล้ว
       
       เมื่อบอกไปอย่างนี้นายณัฐวุฒิมีแนวคิดตอบรับอย่างไร นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวว่า ก็ทำได้แล้วมันก็จะไม่เกิดขึ้นแต่พอคุยกันเสร็จแล้วนายณัฐวุฒิไปพูดอีกอย่าง นี่คือประเด็นที่ตนต้องออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชน
       
       “ผมรับมอบหมายให้เจรจาเสร็จสิ้นไปตั้งแต่ 4-5วันคงจะจำกันได้ตามที่นายกฯออกมาแถลง แล้วตนก็ไม่ได้เจรจาเลยจนกระทั่งมีโทรศัพท์เข้ามา ประเด็นสำคัญที่สุดที่ทำได้ แต่ผมเห็นสคิปที่เขาแถลง ว่าพร้อมที่จะเรียกทุกคนกลับได้ จึงเชิญชวนว่า ควรจะรีบกลับเดี๋ยวนี้เลย ผมก็พร้อมที่จะไปบอกผบ.ทบ. ว่าเขายินดีกลับ เราสบายใจกระสุนก็จะไม่ออกสักหนึ่งนัด เพราะไม่มีใครยิงเอ็ม 79 หรือเผายางแล้วไม่มีการให้ยุติการใช้กระสุน ไม่มีการเผายางพกอาวุธแล้ว” นายกอร์ปศักดิ์ กล่าว
       
       นายกอร์ปศักดิ์ กล่าวอีกว่า ถ้าทำได้วันนี้ต้องยุติการชุมนุม ทุกคนเข้ามอบตัวนั่นดีที่สุด แต่ถ้าทำไม่ได้ ต้องเรียกผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านนอกทั้งหมดกลับมาก็ทำได้ ขณะเดียวกันทางฝ่ายความมั่นคงนายสุเทพ ก็คงยินดีมาก