จากประชาชาติธุรกิจ

ธุรกิจประเมียหายหลังเหตุชุมนุม ส.อุตฯท่องเที่ยวคาดตัวเลขนักท่องเที่ยวหด20-25%ฉุดรายได้วูบ1.3แสนล้าน สอท.คาดกระทบศก. 6หมื่นล้าน เซ็นเตอร์วันคาดเสียหายกว่าพันล้าน ทำพนง.ตกงานพันคน บิ๊กซี-ส.ประกันภัยระบุยังประเมินความเสียหายไม่ได้ ต้องรอเข้าสำรวจพื้นที่ก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้เหตุการณ์การชุมนุมที่แยกราชประสงค์จะสิ้นสุดลงแล้ว แต่ความเสียหายหลังการชุมนุมจากการวางเพลิงของผู้ไม่หวังดีตั้งแต่ช่วงบ่าย วานนี้กำลังสร้างความเสียหายต่อผู้ประกอบการจนยากจะประเมินความเสียหายได้ เนื่องจากมีการวางเพลิงทั้งห้างสรรพสินค้า โรงแรม โรงภาพยนต์ สาขาของธนาคารพาณิชญื ร้านสะดวกซื้อ ตามมาอีกมาก และอาจต้องใช้เวลานานกว่าจะซ่อมแซมซากปรักหักพังให้กลับมาเหมือนปกติได้
โดยนายถนอม อ่อนเกตุพล โฆษกกรุงเทพมหานคร(กทม.) สรุปเหตุการณ์เพลิงไหม้ จากการลอบวางเพลิงจนถึงเช้าวันนี้ ว่ามี 35 แห่งที่ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหาย  ในส่วนห้างขนาดใหญ่นอกจากเซน แล้วมีห้างบิ๊กซี ราชดำริ  รวมถึงที่เซ็นเตอร์วัน ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และธนาคารกสิกรไทย สาขาอนุสาวรีย์ชัยฯซึ่งเสียหายหมด 100%

@ส.อุตฯท่องเที่ยวคาดฉุดนักท่องเที่ยวลด20-25% รายได้หายวูบ1.3แสนล้าน  นายกงกฤช หิรัญกิจ ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(สทท.) ให้สัมภาษณ์ผ่านสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส โดยประเมินความเสียหายจากเหตุชุมนุมทางการเมืองว่า คาดว่าในไตรมาสที่2และ3นี้จำนวนนักท่องเที่ยวน่าจะลดลงประมาณ 20-25% ซึ่งก่อนหน้าประเมินว่าจะกระทบแค่10%เท่านั้น และคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะลดลงเหลือประมาณ13ล้านคน ลดจากเป้าเดิม 16ล้านคน หรือลดลงไป 2.7ล้านคน คิดเป็นเม็ดเงินที่หายไปประมาณ 1.3แสนล้านบาท   ด้านนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.)ระบุว่าผลกระทบหลังการชุมนุมคาดว่า จะกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมประมาณ 5-6หมื่นล้านบาท  

@"เซ็นเตอร์วัน"คาดเสียหายพันล้าน พนง.ตกงานพันคน
นายรัฐพล ไกรจิรโชติ กรรมการผู้จัดการศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เปิดเผยว่า หลังจากการวางเพลิงตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขณะยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ และลามไปถึงอาคาร 4 ชั้น บริเวณด้านหลัง ซึ่งเป็นอาคารของ มูลนิธิผู้บริโภค โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับอาคาร ประเมินความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท จากร้านค้าภายในส่วนของศูนย์การค้าประมาณ 300 ร้านค้า และคาดว่าจะมีพนักงานตกงานไม่ต่ำกว่า 1,000 คน
นายรัฐพล กล่าวต่อว่า ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์วัน กำลังประสานกับตัวแทนประกันภัย ในการตรวจสอบความเสียหายและการจ่ายสินไหมทดแทน ว่าจะครอบคลุมความเสียหายในส่วนใดบ้าง ขณะที่ชุมชนใกล้เคียงภายในราชวิถี ซอย 7 ได้ทยอยขนของออกจากพื้นที่แล้ว

 @ส.ประกันภัยเผยรอเข้าสำรวจพื้นที่ ยังประเมินความเสียหายไม่ได้
ด้านนายจีรพันธ์ อัศวะธนกุล นายกสมาคมสมาคมประกันวินาศภัย กล่าวถึงการตรวจสอบความเสียหายอาคารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟไหม้ว่า ล่าสุดทางสมาชิกสมาคมฯยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ เนื่องจากหลายอาคารเจ้าหน้าที่ของกทม.กำลังดำเนินดารดับไฟอยู่ คาดว่าต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง แต่ก็ได้เตรียมรวบรวมข้อมูลในเบื้องต้นไว้บ้างแล้วหากกรมธรรม์ของผู้เอา ประกันถูกไฟไหม้ไปด้วย คาดว่าต้นสัปดาห์หน้าน่าจะได้ข้อมูลทั้งหมด และคงไม่มีผลกระทบต่อการรับประกันภัย เนื่องจากในกาประกันภัยขนาดใหญ่จะมีการส่งประกันภัยต่อ(รีอินชัวรันส์)ไป ต่างประเทศอยู่แล้ว ส่วนกรณีที่ระบุว่าบริษัทประกันภัยต่างประเทศจะปฏิเสธการรับประกันนั้นเชื่อ ว่าคงไม่มี ส่วนการปรับเบี้ยประกันภัยจากกาจราจลอาจมีการปรับขึ้นบ้าง แต่คงไม่มาก

@ส.โรงแรมไทยเตรียมยื่นมาตรการเยียวยา5ข้อให้ รัฐบาลช่วยเหลือ
 นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ว่า เป็นเรื่องดีที่ผู้ชุมนุมนปช.ประกาศยุติการชุมนุมบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เพราะเศรษฐกิจของประเทศเสียหายมากแล้ว ในส่วนของสมาคมฯ จะมีการประชุมกับสมาชิกในวันที่ 25 พฤษภาคมนี้ คงได้มีโอกาสสอบถามถึงความเดือดร้อนของโรงแรมสมาชิก รวมถึงชี้แจงมาตรการเยียวยา 5 ข้อ ที่จะยื่นต่อรัฐบาลให้ทำการช่วยเหลือผู้ประกอบการโรงแรม  

@สศค.ชี้เหตุเผากระทบศก.รุนแรง จี้รบ.เยียวยาผู้รับผลกระทบด่วน
นายสาธิต รังคสิริ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า จากเหตุการณ์รุนแรงที่เกิดขึ้นในการเผาอาคารต่าง ๆในกรุงเทพฯทั้งเมืองหลังจบเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่ม นปช. ทำให้กระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง เพราะจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง กระทรวงการคลังคาดการณ์ว่า หากมีการชุมนุมยืดเยื้อกระทบไปยังส่วนต่าง ๆ เป็นเวลา 3 เดือน จะกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจร้อยละ 2 หากยืดเยื้อเป็นเวลา 6 เดือน จะกระทบต่อเศรษฐกิจร้อยละ 3 หากมีการปิดสนามบิน ปิดท่าเรือกระทบต่อเศรษฐกิจร้อยละ 8  แม้ยังไม่ประเมินได้ชัดเจนนักต่อการกระทบทางเศรษฐกิจทั้งหมด  
อย่างไรก็ตาม  ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง  มองว่า เมื่อเหตุการณ์ความรุนแรงได้จบลงเร็วแต่มีความรุนแรงเกิดขึ้นมากเพราะมีการ เผาอาคารต่าง ๆ ไปหลายจุด เมื่อเหตุการณ์ได้ยุติได้แล้ว คาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขณะนี้จะกระทบต่อเศรษฐกิจร้อยละ 2-5 เมื่อเหตุการณ์ไม่ยืดเยื้อจะทำให้ไทยกลับมาทำการค้าขาย การลงทุนกับนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งต้องเร่งทำความเข้าใจให้กับนักลงทุนต่างชาติได้รับทราบข้อเท็จจริง ซึ่งยังพอทำให้นักลงทุนต่างชาติกลับมามีความเชื่อมั่นในการลงทุนค้าขายกับ ไทยได้ เพราะเศรษฐกิจของไทยยังพอเดินหน้าต่อไปได้  ที่สำคัญรัฐบาลโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเร่งเยียวยาวผู้ได้รับผลกระทบ อย่างเร่งด่วนและคลอบคลุมทุกพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายไม่ได้เจาะจงเฉพาะ ในพื้นที่แยกราชประสงค์  

@ ศอฉ.ประกาศ"เคอร์ฟิว"ต่ออีก3วัน ขยับเวลา3ทุ่มถึงตี5 เมื่อเวลา 11.00 น. พ.อ. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แถลงเมื่อวันที่ 20 พ.ค. ว่า ศอฉ.ขอประกาศห้ามออกนอกเคหะสถานในยามวิกาลในพื้นที่เดิมที่ประกาศพ.ร.ก.ฉุก เฉิน 24 จังหวัด ต่ออีก 3 วัน จากเดิมในเวลา 20.00-06.00 น. เป็น 21.00-05.00 น. เชื่อว่าขยับเวลาจะช่วยให้ประชาชนดำรงชีวิตตามปกติ   นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากการปฏิบัติของศอฉ.จะให้ความสำคัญเป็นกรณีพิเศษกับการดูแลพื้นที่ที่ มีปัญหาและเน้นจนท.ให้กระชับรอบพื้นที่ เพราะยังมีปัญหาในการทำหน้าที่ของจนท.สาธารณูปโภคและการนำคนเจ็บในหลาย พื้นที่เนื่องจากยังมีกลุ่มคนก่อเหตุและมีการปะทะกับจนท.พร้อมกันนี้ศอฉ.จะ ต้องติดตามกองกำลังติดอาวุธและยังไม่มีการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวซึ่งก็ต้อง ใช้เวลาและให้เจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งการก่อเหตุความสงบดังกล่าวจนท.ได้พยายามสื่อสารกับประชาชนในการเข้าไป ควบคุมพื้นที่และขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปในบริเวณเกิดเหตุ   ส่วนการตั้งด่านของจนท.และการตรวจสอบเหตุไม่สงบหรือความปกติต่างๆ นั้น นายปณิธาน กล่าวว่า  ขณะนี้กำลังทยอยสรุปผลการดำเนินการเข้ามายังศอฉ.ไม่ว่าจะเป็นการจับกุม การยึดของกลาง สำหรับการดำเนินการจัดส่งผู้ชุมนุมกลับภูมิลำเนาในช่วงแรกได้มีปัญหาเนื่อง จากยังคงมีการปะทะแต่ขณะนี้เริ่มคลี่คลายม็อบในพื้นที่ราชประสงค์เหลือน้อย โดยเฉพาะมีคนก่อการอยู่จนท.ก็ต้องเข้าไปกระชับพื้นที่  

@"บิ๊ก ซี"ยันสาขาอื่นเปิดปกติ แต่ปรับเวลาตามประกาศเคอร์ฟิวของศอฉ.

 นางสาวฤดี เอื้อจงประสิทธิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ล่าสุดทราบจากเจ้าหน้าที่ว่าอยู่ระหว่างการดับเพลิงและควบคุมเหตุ ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ ที่สำคัญคือดีใจที่พนักงานในสาขาราชดำริและสำนักงานใหญ่ปลอดภัย เนื่องจากได้เคลื่อนย้ายพนักงานทั้งหมดไปก่อนหน้านี้แล้ว
 "สำหรับสถานการณ์ของสาขาที่เหลือยังเปิดดำเนินการปกติ และพร้อมปฏิบัติตามประกาศเคอร์ฟิวของภาครัฐ โดยจะมีการปรับเวลาเปิด-ปิด สาขาที่เหมาะสม ซึ่งในส่วนของสินค้าในแต่ละสาขานั้นยังมีครบ ยืนยันว่าสามารถรองรับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เพื่อให้ลูกค้าจับจ่ายได้ตามปกติ เช่นเดียวกับการทำโปรโมชั่นที่รันต่อไป" นางสาวฤดีกล่าว