จาก ASTVผู้จัดการออนไลน์
แต่ในความเป็นจริงคนทั่วไปรับรู้กันมาช้านานว่า “เขตทหาร ห้ามเข้า”!!! แต่นั่นก็ไม่ใช่เขตทหารจะห้ามเข้าไปเสียทุกแห่ง เพราะปัจจุบันนโยบายทหารยุคใหม่เขาหันมาเป็นมิตรกับประชาชนมากขึ้น ดังนั้นเขตทหารหลายแห่งจึงปรับเปลี่ยนจากเขตทหารห้ามเข้ามาเป็น “เขต ทหารยินดีต้อนรับ” ด้วยการเปิดพื้นที่ในเขตค่ายทหาร ให้ประชาชนภายนอกได้เข้าไปท่องเที่ยวทำกิจกรรมผจญภัยอันตื่นเต้นเร้าใจ พร้อมรับรู้ถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของทหารหาญผู้สละชีวิต เลือดเนื้อ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และนั่นจึงเป็นที่มาของการเดินทางไปผจญภัย ท้าทายความหวาดเสียวในค่ายทหารของ“ตะลอนเที่ยว”ในทริปนี้ ซึ่งมีจุดหมายปลายทางหลักอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการปูพื้น ทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) และสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวทหารบก ผู้เป็นโตโผหลักในการเดินทางครั้งนี้ ได้พาเราไปเที่ยวชม พิพิธภัณฑ์ กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ(ทบ.) กันก่อน |
||||
ภายในพิพิธภัณฑ์กองทัพบกแบ่งส่วนจัดแสดงเป็นห้องต่างๆ มีห้องน่าสนใจ อาทิ ห้องธงและเครื่องมือเครื่องใช้ทางทหาร จัดแสดงธงชัยเฉลิมพลและเครื่องมือเครื่องใช้ทางการทหารต่างๆ ห้องพระบารมีปกเกล้า ประดิษฐานพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 พร้อมด้วยภาพผบ.ทบ.ในแต่ละยุคสมัย ห้องอาวุธ มีอาวุธสงครามตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยามาจนถึงสมัยสงครามเวียดนามให้ชมกัน ห้องจำลองเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ เป็นการจำลองวีรกรรมการรบตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน พร้อมด้วยการจัดแสดงอาวุธในสมัยโบราณ ห้องเครื่องแบบและเครื่องหมายทหาร จัดแสดงเครื่องแบบที่ใช้ในกองทัพบกตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน |
||||
ค่ายสุรสีห์เดิมชื่อค่ายกาญจนบุรี ต่อมาในวันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ.2533กองทัพบกได้มีประกาศขอพระราชทานเปลี่ยนนามค่ายใหม่มาเป็น "ค่ายสุรสีห์" อันเนื่องมาจากสถานที่ตั้งเคยเป็นสมรภูมิสงครามทุ่งลาดหญ้าในสงครามเก้า ทัพ(พ.ศ.2328)มาก่อน โดยสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ในรัชกาลที่ 1(เจ้าพระยาสุรสีห์)เป็นแม่ทัพ นำการรบแตกหักมีชัยชนะแก่ข้าศึกอย่างสมบูรณ์ ณ พื้นที่แห่งนี้ ด้วยเหตุนี้ทางค่ายจึงได้สร้างอนุสาวรีย์ของเจ้าพระยาสุรสีห์ขึ้น เพื่อสดุดีวีรกรรมของท่านและเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ทหารในค่ายแห่งนี้ |
||||
สำหรับวิธีการกระโดดหอที่ดีคือต้องเก็บคอแล้วกระโดดลงมา แล้ววินาทีวัดใจก็มาถึงเมื่อเราต้องกระโดดลงมา ที่หลังจากตั้งตัวได้มันให้ความรู้สึกเหมือนเรากำลังบินได้ ซึ่งก็ทำให้เราสามารถฆ่าความกลัวในหัวใจ ชนะใจตัวเองและกล้าที่จะตัดสินใจที่จะโดดลงมาจากหอได้ ต่อจากนั้นก็เป็นการข้ามลำน้ำด้วยเลื่อน ซึ่งให้ความสนุกสนานตื่นเต้นไม่แพ้กัน |
||||
|
||||
โดยวิธีการประกอบอาหารด้วยกระบอกไม้ไผ่เราสามารถทำได้ทั้งต้ม ทั้งหุง ถ้าเป็นการหุงข้าวให้ใส่ข้าว 1 ส่วน น้ำ 3 ส่วน แล้วเอนกระบอกให้ข้าวกระจายไปทั่วๆ กระบอกจะทำให้ข้าวสุกอย่างทั่วถึง และข้าวจากกระบอกไม้ไผ่นี้จะมีความหอมกว่าข้าวที่หุงแบบปกติ และที่สำคัญคนทำจะรู้สึกภูมิใจว่าเราทำได้ |
||||
|
||||
และนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมการท่องเที่ยวในค่ายสุรสีห์ที่นอก เหนือไปจากที่เล่ามา ค่ายสุรสีห์ยังมีกิจกรรมน่าสนใจ อาทิ การขี่จักรยานเสือภูเขา การยิงเป้าหุ่นล้มลุก การยิงปืน การยิงปืน การเที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ทหารผ่านศึกเวียดนาม |
||||
กองถ่ายหนังแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่าง มาก ในกองถ่ายมีฉากต่างๆที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์ให้เลือกเที่ยวกัน โดยมีเจ้าหน้าที่กองถ่ายนำชม ซึ่งสถานที่เด่นๆก็มี วัดมหาเถรคันฉ่อง เมืองหงสาวดี เมืองอโยธยา และท้องพระโรงหงสาวดี |
||||
|
||||
พิพิธภัณฑ์กองทัพบกเฉลิมพระเกียรติ ตั้งอยู่ในกองบัญชาการกองทัพบก ถ.ราชดำเนินนอก เขตพระนคร กทม. เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้าชมเป็นหมู่คณะทุกวันเวลาราชการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งผู้สนใจสามารถหนังสือผ่านกรมยุทธการทหารบก ล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน โดยประสานรายละเอียดที่ โทร.0-2297-7380 ค่ายสุรสีห์ กองพลทหารราบที่ 9 ตั้งอยู่ที่ ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ผู้สนใจกิจกรรมท่องเที่ยวในค่ายทหาร สามารถติดต่อเข้าชมเป็นหมู่คณะได้ที่ สำนักงานการท่องเที่ยวกองทัพบก โทร.0-2297-5904,0-2282-6835,0-2297-5831 กองถ่ายทำภาพยนตร์“ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช”ตั้งอยู่ในค่ายสุ รสีห์ ผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-3453-2057-8 |