จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
โดย : เอื้อพันธุ์ ศรีสุนทร
สีสันร้านกาแฟ กับการแมทชิ่งทางธุรกิจ
กาแฟ เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนทุกเชื้อชาติมาเนิ่นนาน คนไทยยุคใหม่ดื่มกาแฟกันมากขึ้น ได้รสกาแฟสดคุณภาพดีกว่าเดิม ไปไหนก็เจอร้านกาแฟ หรือคาเฟ่ ตั้งแต่เล็กๆ จนถึงร้านใหญ่ระดับเรสทัวรองต์ หรือเมื่อจบมื้ออาหาร ต้องขอกาแฟสัก 1 แก้ว ถือเป็นตอนจบอันอิ่มเอม...
อาหารกับกาแฟ หรือเบเกอรี่จับคู่เข้ากันได้ ตอนนี้มีร้านกาแฟ ประกบคู่กับสปา นวดเสร็จหิวก็มีเครื่องดื่มกับอาหารอร่อย...ร้านกาแฟกับคาร์แคร์ จิบกาแฟหม่ำเบเกอรี่ระหว่างรอล้างรถ ร้านกาแฟที่ให้คนพาน้องหมาไป นั่งด้วยกันได้ ร้านกาแฟที่ขายต้นไม้ ร้านกาแฟที่ตกแต่งเหมือนห้อง สมุด เต็มไปด้วยหนังสือ หยิบอ่านได้หรือซื้อกลับบ้านก็ได้ ส่วน ร้านกาแฟกับงานศิลปะ หรือ Cafe and Gallery ให้จิบกาแฟสดหอมกรุ่นแล้วเสพงานศิลป์แบบไม่คิดสตางค์ ชมจนชื่นชอบแล้วหยิบฉวยกลับบ้านได้ แต่ต้องจ่ายสตางค์ค่าความคิดสร้างสรรค์
คาเฟ่ แอนด์ แกลเลอรี่ ยุคนี้ ต้องบวกอาหารอร่อยและเครื่องดื่มหลากรสเข้าไปด้วย ไหน ๆ ก็มีครัวเครื่องดื่มแล้ว เพิ่มครัวอิ่มเข้าไปด้วยก็ไม่ใช่เรื่องยาก เทรนด์ร้านกาแฟ-อาหารและงานศิลป์ ผสานเข้ากันอย่างกลมกลืน อย่างเช่น ร้าน ม็อดดี้ (Moddy) โดย คุณชลิต นาคพะวัน แต่งบ้านให้เป็นคาเฟ่เสพงานศิลป์ จัดแสดงนิทรรศการศิลปะ ตั้งแต่ภาพเขียน ภาพถ่าย เฟอร์นิเจอร์ เครื่องประดับ ฯลฯ คนก่อตั้งบอกว่า
"ม็อดดี้ เปิดได้ปีกว่า แรกเปิดนำเสนอผลงานของผมก่อน ต่อมาก็เป็นงานแสดงของศิลปินหลากหลาย ตอนเปิดตั้งใจจะมีแค่กาแฟ เครื่องดื่มนิดหน่อย เพื่อนชวนนะก็ปฏิเสธมาตลอด ไม่อยากเปิดร้านเพราะเหนื่อย อยากเป็นแกลเลอรี่อย่างเดียว พอเปิดแล้วมานั่งคิดว่าแกลเลอรี่อย่างเดียวจะสร้างรายได้จากอะไร พอมีกาแฟแต่ไม่มีอาหาร คนมาก็ต้องออกไปกินข้างนอกอยู่ดี ไหน ๆ เปิดแล้วก็ทำเป็นเรื่องเป็นราวไปเลย มีอาหารเครื่องดื่มเต็มรูปแบบ เราก็ดูว่าแถวนั้นมีอาหารอะไรอยู่บ้าง คิดเมนู หาแม่ครัว ได้เป็นอาหารไทย-ฝรั่ง ปน ๆ กัน มีรสจัด มีสลัด เมนูปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม คนย่านนั้นส่วนใหญ่คนจะมาช่วงเย็น ๆ เพราะกลางวันเขาจะรีบ กินกันแล้วไปทำงานต่อ จะมาแฮงค์เอ๊าช่วงเย็น ๆ มากกว่า แต่ไม่อยากเรียกว่าผับ เรากึ่งๆ ครอบครัวก็มากินข้าวกันได้ ตกดึกบรรยากาศบาร์หน่อยๆ เปิดเพลงเบาๆ ไม่เปิดดังนะ เป็นเพลงฝรั่งไม่เปิดเพลงไทย"
อาหารที่ "ม็อดดี้" มีแบบกินเล่นถึงกินอิ่ม ได้แก่ เฟรนช์ฟรายด์ เบคอนกับหมูทอด ตับทอดม็อดดี้ ปีกไก่ทอด ยำเนื้อย่าง ยำวุ้นเส้น ข้าวผัดเนื้อเค็ม ข้าวผัดปลาสลิด ผักโขมอบชีส สเต๊กเนื้อจิ้มแจ่ว สปาเกตตีปลาเค็ม, คาร์โบนารา, เบคอนกับพริกแห้ง, ไส้กรอกอีสาน ซีซาร์สลัด ของหวานมีสละลอยแก้ว ปลากริมไข่เต่า ลูกตาลหรือกระท้อนลอยแก้ว เครื่องดื่มชา-กาแฟ เบียร์ วิสกี้ ค็อกเทล ราคารับได้ ในบรรยากาศบ้าน นั่งสบาย เครื่องเรือนยุค 50 ตกแต่งโครเชต์ถักเป็นหมอนอิงและที่ครอบหลอดไฟ โบราณนิด ๆ แต่เท่
"สไตล์ตกแต่งให้ดูเป็นบ้าน เหมือนกินข้าวในบ้าน ดูอบอุ่น กึ่งเป็นแกลเลอรี่ในบ้าน อยู่ในทำเลที่หาง่ายไปมาสะดวก ภายในมีสเปซพอดี ๆ เรียบๆ ไม่รก ทิ้งผนังขาวๆ ไว้เพื่อจัดแสดงงาน งานแสดงเราเป็นคนคัดเลือกเอง ไม่จำเป็นต้องเป็นศิลปินมีชื่อเสียง อาจเป็นคนรุ่นใหม่ และไม่ใช่งานอาร์ตอย่างเดียว เรามีงานดีไซน์ งานออกแบบที่มีรูปแบบเฉพาะตัว สรรหาศิลปิน ดีไซเนอร์ หมุนเวียนกัน โดยเฉลี่ยเดือนละ 1 ราย เช่นเปิดครั้งแรกเป็นงานของตัวเองก่อน เดือนต่อมาเป็นดีไซเนอร์กระเป๋า เราก็จัดดิสเพลย์กระเป๋าทั้งร้าน ถัดมาเป็นโพรดัคท์ ดีไซน์ ของแต่งบ้าน ก็จัดดิสเพลย์เป็นแบบนั้น ใครจะซื้อก็ซื้อเลย แต่ปกติเรามีพวกของที่ระลึก เสื้อยืด โปสการ์ด วางจำหน่ายอยู่แล้ว มี
งานออกแบบเครื่องประดับเป็น Jewellry designer มาจัดแสดง ก็แปลกดี แต่ละงานมีลักษณะเฉพาะตัว เราคัดคุณภาพ มีกลุ่มเพนท์ติ้งจากศิลปากร มารวมกลุ่มกันจัดแสดง มีงานกราฟฟิกดีไซน์ งานของเด็กมี เราจัดนิทรรศการภาพวาดของเด็กอายุ 8 ขวบ กับ 10 ขวบ เป็นลูกศิษย์ ล่าสุดเพิ่งจัดไปเป็นงานของเด็ก 4 ขวบ สนุกมาก เวลาจัดงานของเด็กๆ จะมีเด็กมาเต็มเลย เหมือนงานวันเด็ก มีของเล่นแขวนเต็มไปหมด มีขนม น้ำหวาน คนมาดูกันเยอะ หลากหลาย ส่วนมากเป็นคนในวงการศิลปะ งานโฆษณา คนในวงการบันเทิงพวกผู้กำกับหนังก็มา บางทีมาหลังเลิกงาน หรือมานั่งคุยงานกัน"
เหนือสิ่งอื่นใด คุณชลิต บอกว่า การคัดเลือกเป็นจุดแรกที่ต้องเฟ้นกันพอสมควร
"มีหลายคนอยากแสดงงาน ปีที่แล้วเต็มตลอดทั้งปี เราพิจารณาจากพอร์ตงานของเขาก่อน ดูว่ามีจุดเด่นตรงไหน เช่น ดีไซเนอร์กระเป๋าเขาทำกระเป๋าเหมือนเครื่องประดับเลย เฟอร์นิเจอร์ก็สไตล์มันๆ มีชิ้นเดียว ไม่เป็นของแมส การตอบรับของคนก็โอเค ทุกเดือนคนก็จะลุ้นว่าจะเป็นงานอะไร แต่ตอนนี้ขอพักสักหน่อย"
พักแต่ไม่ ปิดร้าน เดือนมิถุนายนจะเป็นงานของใคร ต้องติดตาม...
"ผมว่าร้านอาหารกับศิลปะก็ไปด้วยกันได้ดี ตอนนี้เริ่มมีคนทำสไตล์นี้มากขึ้น การมีงานศิลปะจะดึงคนเข้ามา ดูน่าสนใจ แต่ผมก็ไม่ได้คาดหวังเรื่องรายได้ ได้ก็ดี แต่อยากทำให้เป็น Event เกิดการหมุนเวียนงานศิลปะในร้าน เป็น Activity ให้คนมา งานศิลปะช่วยทำให้มีสีสัน และส่งเสริมศิลปินหน้าใหม่ๆ ทำให้คนเสพงานศิลปะกันมากขึ้น อยากให้ศิลปะอบอวลไปทั่วเมือง เหมือนบาหลีเขามีแกลเลอรี่เป็นร้อยแห่งเลยนะ เป็นสีสัน ทำให้เมืองน่าอยู่ และยิ่งเปิดเยอะยิ่งดี ชักจูงให้คนสนใจศิลปะมากขึ้น"
ล่าสุด มีงานศิลป์เปิดพร้อมอาหาร-เครื่องดื่มน่านั่ง ในซอยสุขุมวิท 51 WTF Cafe & Gallery โดย คุณสมรักษ์ - คริสโตเฟอร์ ไวส์ สามีภรรยาที่อยู่ในแวดวงศิลปะ สร้างแกลเลอรี่แอนด์บาร์ สไตล์กึ่งๆ ยุโรป ผสมอาหารแนวโฮมเมด เน้นจานเล็กๆ เป็นทาปาส ผสมกลิ่นอายอาหารสเปนและโปรตุเกส คุณส้ม - สมรักษ์ บอกว่า
"ไม่เคยทำร้านอาหาร แต่ทำงานเกี่ยวกับอาร์ต จบ Art Manager & Cultural Policy จาก Goldsmiths College ในอังกฤษ ส่วนคริส เป็นช่างภาพฟรีแลนซ์ ถ่ายงานสารคดีท่องเที่ยวให้นิตยสารดัง ๆ หลายฉบับ เนื่องจากเดินทางบ่อย ไปเห็นบาร์แนวนี้ในบาร์เซโลนา นิวยอร์ก แล้วรู้สึกว่า แกลเลอรี่กับบาร์สไตล์นี้ยังไม่มีในกรุงเทพฯ จะเรียกว่าเป็น Gallery inside cafe ก็ได้ คล้ายสภากาแฟบ้านเรา แต่ในยุโรปเขาจะตกแต่งให้เป็นที่จัดแสดงงานศิลปะ มีอาหาร กาแฟ เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน ในรูปแบบแกลเลอรี่ที่ตกแต่งเหมือนบ้าน เสิร์ฟเครื่องดื่มดีๆ อาหารอร่อย เสียงไม่ดังและมีงานศิลปะ
การตกแต่งอาจเรียกว่าเป็นการาจ สไตล์ (Garage style) ดูเหมือนเก่าๆ เอาของเก่ามาตกแต่ง เช่น กระเบื้องเก่าเลือกสีและลายให้แมทช์กับผนัง เก้าอี้มือสอง คนขายบอกว่ามาจากประเทศสาธารณรัฐเช็ก ส่วนโต๊ะทำเองแบบง่าย ๆ ในบาร์เซโลนาจะมีแกลเลอรี่แนวนี้ บางแห่งอยู่ในแหล่งที่ดูโทรมๆ แต่มีศิลปินเข้าไปอยู่ นำศิลปะมาพัฒนา ทำให้ชุมชนนั้นๆ ดูน่าอยู่ขึ้น"
เช่นที่คริสกับเพื่อน ช่วยกันเพนท์สังกะสีหน้าร้าน ปิดผนังที่ดูเก่ากับท่อน้ำ และค่อยๆ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้ดูน่าอยู่ด้วยงานศิลปะ
"คริสดูแลเรื่องอาหารด้วย เน้นจานเล็กและทาปาส มีอาหารไทย ฝรั่ง สลัด สแน็ก เน้นเครื่องดื่ม เรามีค็อกเทลหลายอย่าง เบียร์ วิสกี้ และไวน์ อยากให้เป็นแหล่งที่คนมาพบปะพูดคุย ชั้นล่างเป็นบาร์ งานศิลปะจัดแสดงชั้น 2-3 ซึ่งงานแรก (เปิด 29 เม.ย.) ชื่อ Wonderful Thai Frienship รวมศิลปินหลากหลาย เพนท์ติ้ง ภาพพิมพ์ เพอร์ฟอร์แมนซ์ เราคิดว่างานหนึ่งน่าจะจัด 2-3 เดือน"
อาหารจานเล็กแต่ดูน่ากิน เช่น หมูปิ้ง หมักนมแนมผักพร้อมแจ่ว 90.- สลัดปวยเล้งกับเฟต้าชีส 150.- มะเขือเทศกับมอซซาเรลล่าชีส 150.- ไข่ตุ๋นแนวโปรตุกีส คือไข่อบกับเนื้อปูสดมีมะเขือเทศอยู่ข้างล่าง ใส่ปูสด 120.- ใส่แองโชวี่ 150.- สไปซี่ มีทบอลล์ ลูกชิ้นเนื้อบวกหมูในมะเขือเทศเข้มข้น สูตรนี้คุณคริสบอกว่า ใช้มะเขือเทศกับเครื่องเทศที่ใช้กันมากแถบแอฟริกาเหนือ เป็นอาหารโมร็อกโก ใส่ปาปริก้า เครื่องเทศกลิ่นแรงพอควร ราคา 170.- ข้าวห่อใบบัว 90.-
ค็อกเทล แบ่งเป็นหมวดต่างๆ คุณคริสแนะนำ Old School เป็นคลาสสิก ค็อกเทล สูตรดั้งเดิม ที่คนยุคใหม่บางคนอาจไม่รู้จัก เช่น Manhattan, Rob Roy, Old Fashioned, Horse's Neck หมวดพันช์ หมวด Aqua Hispania คำหลังหมายถึงชาวสเปนกับโปรตุกีส ดังนั้นค็อกเทลสูตรนี้มีส่วนผสมเหล้าเชอร์รี่ของสเปน และพอร์ตไวน์ของโปรตุเกส และเมนูค็อกเทลอื่น ๆ อีกมากมาย ราคาเริ่มต้นแก้วละ 130.-
"ความตั้งใจอีกอย่างที่เปิดแกลเลอรี่คือ ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจไม่ค่อยดี แล้วเราเพิ่งจบจากงานแม่น้ำโขง โพรเจ็คท์ ตอนนั้นเป็นโพรเจ็คท์ เมเนเจอร์ แล้วรู้สึกว่าคนไม่ค่อยเห็นคุณค่าของงานศิลปะ ทำไมเวลาจัดงานที่ไหนคนดูหายากจัง ก็รู้สึกหงุดหงิดว่าทำไมงานครีเอทีฟยุคนี้มันแย่ ไม่ไปถึงไหน ก็เลยร่วมกลุ่มกับเพื่อน ๆ เปิดมาก็ไม่ได้คาดหวังเป็นคอมเมอร์เชียล 100% เราหวังให้เป็นสถานที่คนมานัดพูดคุยกัน เป็นแหล่งข้อมูลและให้การศึกษาด้านศิลปะมากกว่า"
ลืมบอกว่า WTF ย่อมาจากคำย่อที่แชตกัน แปลเป็นไทยได้ว่า "เกิดอะไรขึ้น (วะ)" หรือ "อะไรกัน (วะ) นี่" อาจเป็นเรื่องตั้งใจที่ตรงกับชื่อนิทรรศการแรกที่เปิดพร้อมวันเปิดแกลเลอรี่
กินให้อิ่ม...ดื่มให้พอดี แล้วชมงานศิลปะให้รื่นรมย์กันดีกว่า...
** หมายเหตุ**
1. ม็อดดี้ ซอยอารีย์ 4 เหนือ สอบถามคุณชลิต นาคพะวัน โทร.081-498-5703
WTF Cafe & Gallery สุขุมวิท 51 โทร. 02-662-6246 แกลเลอรี่เปิดบ่าย 3 ร้านอาหารเปิด 18.00 น. ถึงดึกดื่น...
2. ร้านกาแฟและอื่น ๆ : บ้านก้ามปู ร้านกาแฟที่ขายต้นไม้ด้วย ซอยโยธินพัฒนา 3 โทร.02-946-6016 / กาแฟ + บริการล้างรถ ร้าน 66 Coffee Bar and Car Spa ถ.ราชพฤกษ์ โทร.086-990-0617 / ร้านกาแฟที่พาสุนัข เพื่อน 4 ขา เข้าไปด้วยได้ ที่ Yatata Bake & Beer สุขุมวิท 39 โทร.02-204-2802 / Tease Gallery เป็นแกลเลอรี่ แอนด์ บาร์ โดย โจอี้ บอย, กิ๊บซี่ Girly Berry และ กิ๊ก - อนิศ โอสถานุเคราะห์ จัดแสดงงานศิลปะหมุนเวียน และงานเอ็นเตอร์เทนเมนท์ต่างๆ พร้อมอาหารและเครื่องดื่ม ชั้น 4 เจ อเวนิว โทรศัพท์คุณฝ้าย 084-078-8910
