จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
โดย : นพมา
หากย้อนเวลากลับ มาได้ คนไทยทั้งประเทศไม่ว่าใครคงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์โศกสลด ซึ่งทำความเสียหายและเสียชีวิตเหมือนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
ความรุนแรงที่เกิดจากการประท้วงของคนเสื้อแดงและการเข้ากระชับ พื้นที่ของทหารสะท้อนถึงความแตกแยกกันทางความคิดที่ยากจะประสานในสังคมไทย ได้เป็นอย่างดี
พวกเราต่างเสียใจที่ประเทศต้องประสบวิกฤติการเมืองและความรุนแรงเช่นนี้ เสียดายที่ประเทศกำลังที่ก้าวไปข้างหน้าต้องมาสะดุด แต่เมื่อเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่คนไทยทำได้ ณ เวลานี้คือช่วยกันเยียวยารักษาแผลใจและพยายามประสานความคิดว่าคนที่มีความ เห็นต่างกันจะสามารถอยู่ด้วยกันได้อย่างสงบสุขและสร้างสรรค์ได้อย่างไร
วิกฤติที่เกิดขึ้นกระทบประเทศอย่างมาก รวมทั้งนานาชาติที่รู้จักเมืองไทยในนาม “สยามเมืองยิ้ม” หรือ “Land of Smiles” พวกเขามองวิกฤติในไทยว่าร้ายแรงที่สุด ทุกประเทศออกคำเตือนประชาชนของเขาว่าให้หลีกเลี่ยงเดินทางมาไทยก่อนและ ระหว่างวิกฤติ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เข้าใจได้เพราะเมื่อมีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นใน ประเทศอื่น ทางการไทยเองก็ออกคำเตือนเหมือนกัน
คำเตือนเรื่องเดินทางมาไทยมีหลายประเภทจากเบาไปหาหนัก ก่อนเกิดวิกฤติ เกือบทุกประเทศเตือนให้คนของเขาหลีกเลี่ยงเดินทางมาเฉพาะกรุงเทพฯ และจังหวัดที่มีการประท้วงเท่านั้น รัสเซียเป็นประเทศหนึ่งที่ออกคำเตือนได้อย่างเข้าใจสถานการณ์ คำเตือนระบุว่าให้คนรัสเซียหลีกเลี่ยงที่จะเดินทางมาที่กรุงเทพฯ เพราะอาจได้รับผลกระทบจากการประท้วง “รัสเซียขอให้นักท่องเที่ยวรัสเซียใช้เวลาที่กรุงเทพฯ ให้น้อยที่สุดหากทำได้ เราแนะนำให้คนรัสเซียเดินทางตรงดิ่งไปดื่มด่ำกับบรรยากาศชายทะเลตามจังหวัด ต่างๆ ของไทย เช่น พัทยา ภูเก็ต พังงา เพราะทะเลและบรรยากาศที่นั่นสวยงามและสงบ
แต่เมื่อเหตุการณ์รุนแรงขึ้นคำเตือนก็แรงขึ้นตามเหตุการณ์ สหรัฐอเมริกาดูจะเป็นประเทศที่ปฏิกิริยาต่อเหตุการณ์รุนแรงที่สุดเพราะนอก จากจะออกคำเตือนให้หลีกเลี่ยงการเดินทางมาไทยแล้วยังอพยพเจ้าหน้าที่นักการ ทูตและครอบครัวที่ไม่เกี่ยวข้องออกนอกประเทศ ในขณะที่ประเทศอื่นเช่น อังกฤษ เพียงแต่ปิดทำการสถานทูตหรือการออกวีซ่าชั่วคราวเท่านั้น
แต่เมื่อวิกฤติการเมืองในกรุงเทพฯ คลี่คลายลง สหรัฐอเมริกาก็เป็นประเทศแรกๆ ที่ลดระดับคำเตือนจากให้หลีกเลี่ยงมาประเทศไทยเป็นเฉพาะกรุงเทพฯ เท่านั้น จะว่าไปสหรัฐก็เป็นประเทศเดียวที่ออกมาตำหนิการประท้วงของเหล่า นปช. ที่ยึดราชประสงค์และการเผาสถานที่ต่างๆ ในขณะที่หลายประเทศระบุเพียงว่าให้ทุกฝ่ายเปิดการเจรจาเพื่อยุติความแตกแยก ทางความคิดและการใช้ความรุนแรง
การท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นลูกค้ารายใหญ่เป็นธุรกิจที่ ได้รับผลกระทบมากที่สุด ว่ากันว่ามากกว่าเหตุการณ์สึนามิถล่มไทยเสียอีก
บริษัททัวร์หลายแห่งพยายามชี้แจงกับนักท่องเที่ยวว่าเหตุการณ์ความรุนแรง ผ่านพ้นไปแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ มีอีกมากมายที่สวยงามและปลอดภัย แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่มั่นใจเพราะภาพเหตุการณ์ที่ออกไปสู่สายตาต่างประเทศ ล้วนแล้วแต่น่ากลัวและรุนแรง
บริษัททัวร์หลายแห่งเสนอให้ลูกทัวร์ที่จองทริปมาที่ไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ สามารถเปลี่ยนไปเที่ยวที่จังหวัดอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องเสียค่าปรับและค่าธรรมเนียม
ธุรกิจท่องเที่ยวที่ภูเก็ตได้รับผลกระทบอย่างมากเพราะรายได้หลัก 70 เปอร์เซ็นต์ของจังหวัดมาจากการท่องเที่ยว แต่พวกเขาก็ต้องสู้กันต่อไป โรงแรมและรีสอร์ทหลายแห่งกระหน่ำลดราคาค่าห้องพัก เช่นที่ ไม้ขาว เจดับบลิวแมริออท ก็ลดราคาค่าห้องเหลือคืนละ 1,300 บาท ถ้าจองพัก 7 วัน ราคานี้เป็นราคาแค่หนึ่งในสี่ของราคาห้องปกติ
แต่นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งก็เข้าใจสถานการณ์ดี เคน บรุนตัน จากออสเตรเลีย กล่าวว่า “ผมไม่คิดว่าวิกฤติการเมืองในกรุงเทพฯ จะมีผลกระทบกับนักท่องเที่ยวที่ภูเก็ต ผมไม่กังวลหรอก แต่ผมก็ติดตามข่าวอยู่ตลอดเวลานะ”
เมื่อวิกฤติการเมืองและความรุนแรงผ่านพ้นไปก็ถึงเวลาที่จะต้องกลับมา ฟื้นฟูทั้งจิตใจและบ้านเมือง ความเศร้าโศกกับญาติพี่น้องที่จากไปไม่ว่าจะเป็นทหาร ผู้ชุมนุมหรือประชาชนผู้บริสุทธิ์ ความเศร้าที่บ้านเมืองโดนเผาโดยผู้ชุมนุมและกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายก็คง ยากที่จะลืมเลือนไม่ว่าเมื่อไหร่...
แต่ชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปโดยมีเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นบทเรียน