สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

เกม ใหม่ LPN เจ้าพ่อคอนโดฯ

เกม ใหม่ LPN เจ้าพ่อคอนโดฯ

จากประชาชาติธุรกิจ

สัมภาษณ์


21 ปี "แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์" บริษัทพัฒนาที่ดินมหาชนที่ถูกยกให้เป็นเจ้าตลาดคอนโดมิเนียมระดับกลาง พัฒนาคอนโดฯมาแล้วกว่า 50 โครงการ จำนวนกว่า 3 หมื่นยูนิต กำลังสร้างปรากฏการณ์ครั้งใหม่ด้วยการเปิดขายคอนโดฯไซซ์เล็ก 20 ตร.ม.ต้น ๆ ถือเป็นยูนิตขนาดเล็กที่สุดตั้งแต่บริษัทเคยทำมา

ล่าสุดในการเปิดขาย โครงการลุมพินีคอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์ เฟสสุดท้าย อาคาร D จำนวนกว่า 600 ยูนิต แอล.พี.เอ็น.พัฒนาแบบห้องชุดใหม่ (ห้องสตูดิโอ) ปรับลดไซซ์ลงมาเหลือ 22 ตร.ม. เคาะขายราคา 678,000 บาท จากเดิมอาคาร A-C ที่เปิดขายเป็นขนาด 1 ห้องนอน 25 ตร.ม. ขายราคาเริ่มต้น 699,000 บาท

อาจกล่าว ได้ว่านี่คือการส่งสัญญาณ อีกครั้งของบิ๊กแบรนด์ตลาดคอนโดฯ "ประชาชาติธุรกิจ" จึงนัดสัมภาษณ์พิเศษ "โอภาส ศรีพยัคฆ์" กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ เพื่อให้รายละเอียดในประเด็นดังกล่าว

"โอภาส" อธิบายว่า เมื่อปี 2544 เป็นครั้งแรกที่ แอล.พี.เอ็น.เปิดตัวห้องชุดแบบสตูดิโอขนาด 30 ตร.ม. แต่ระยะหลังก็ ค่อย ๆ ลดไซซ์ลงมา ล่าสุดที่คอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์คือ 22 ตร.ม. ถ้าพูดแค่ตัวเลขอาจจะตกใจ ทำไมถึงเล็กได้ขนาดนั้น แต่จริง ๆ แล้วกว่าจะได้แบบออกมา ทีมงานต้องเวิร์กกันนาน ไม่ใช่แค่จับห้องน้ำ ครัว มาใส่ในพื้นที่ 22 ตร.ม. แต่บวกอะไรเข้าไปเยอะ

อาจเป็นเพราะวันนี้ แอล.พี.เอ็น.ไม่ได้มองธุรกิจที่ทำว่าเป็นแค่การขายคอนโดฯ แต่สิ่งที่ขายให้ลูกค้าจริง ๆ คือ "คุณค่าสินค้า" และ "บริการ"

ต่าง จากดีเวลอปเปอร์ทั่วไปที่เมื่อจะพัฒนาโครงการก็เริ่มต้นจากการดูที่ดิน ก็มักให้มาร์เก็ตติ้งไปศึกษาว่าจะขายใคร โปรดักต์ต้องออกมาเป็นแบบไหน ต้นทุนเท่าไหร่ คุ้มหรือไม่ จากนั้นก็ให้สถาปนิกออกแบบ แล้วตั้งชื่อเท่ ๆ ที่คนนิยม แต่สำหรับ แอล.พี.เอ็น.จะทำมากกว่านั้น

"สำหรับเรากว่าจะ ออกโปรดักต์มาแต่ละตัว เน้นตั้งแต่เซอร์เวย์ลูกค้า สำรวจจุดอ่อนโปรดักต์ กำหนดแนวทาง ทำห้องตัวอย่างจริงขึ้นมาเลย วางเฟอร์นิเจอร์แล้วเป็นยังไง ปาดมุมตรงนี้ ขยายหน้าต่าง ขยับประตู และไม่ได้ให้มือใหม่มาทำ แต่เป็นมืออาชีพที่ประสบการณ์ลงไปดูเอง เบ็ดเสร็จกว่าจะเคาะแบบห้อง 22 ตร.ม. ต้องใช้เวลาตกผลึกนาน 5-6 เดือน"

"โอภาส" บอกว่า การออกแบบห้องชุดที่ตอบโจทย์ลูกค้าถือเป็น "โนว์ฮาว" เฉพาะของ แอล.พี.เอ็น. ซึ่งกลั่นมาจากประสบการณ์ที่เรียกว่า "แอล.พี.เอ็น. ดีไซน์" ที่ผ่านมาบริษัทจึงมีการพัฒนาแบบอยู่ตลอดเวลา ปรับเปลี่ยนไปตามเจเนอเรชั่นลูกค้า

และไม่เฉพาะการออกแบบห้อง ส่วนที่สำคัญไม่แพ้กันคือ "พื้นที่ส่วนกลาง" อย่างที่คอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์ ที่มีให้ตั้งแต่ห้องสมุด ฟิตเนส สนามฟุตซอล สนามบาส สวนรวมใจ เพราะอยากให้เด็กได้ออกกำลังกาย

"โอภาส" อธิบายว่า เหตุผลที่ แอล.พี.เอ็น.กลับมาพัฒนาห้องสตูดิโออีกครั้งมาจาก 2 เหตุผล 1) เป็นเรียลดีมานด์ ก่อนเปิดขายก็มีรายชื่อเวตติ้งลิสต์ที่สนใจแล้วร่วม 1,000 ราย 2) ต้นทุนเพิ่มขึ้นตลอด อย่าง 2 ปีที่ผ่านมาราคาน้ำมัน ขยับขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีผลกระทบโดยตรง ดังนั้นถ้าบริษัทโฟกัสลูกค้ากลุ่มนี้ก็ต้องพัฒนาโปรดักต์ที่ตอบสนองลูกค้า ให้ได้ โจทย์คือไม่ขึ้นราคา ไม่ลดสเป็กวัสดุ อย่างคอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์ ขาย 678,000 บาท ผ่อนเดือนละ 4,000-5,000 บาท มีเงินเดือน 15,000 บาท ก็ซื้อคอนโดฯได้แล้ว

คำตอบจึงมาจบที่การ ปรับขนาดห้อง (รีไซซ์) คือลดพื้นที่ลงเล็กน้อยเพื่อให้ยืนราคาได้เท่าเดิม แต่เรื่องนี้เชื่อว่าถ้าไม่บอกลูกค้าก็อาจไม่รู้สึกว่าห้องเล็กลง

โดย เซ็กเมนต์แบรนด์ "คอนโดทาวน์" ทีมบริการมองว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจที่สุด ลูกค้ามีไม่จำกัดทุกทำเล มีอุปสรรคบ้างในเรื่องโพสต์ไฟแนนซ์ (สินเชื่อรายย่อย) ดังนั้น แอล.พี.เอ็น.จึงสนใจจะลงไปเล่นตลาดคอนโดฯ 3-4 แสนบาทต่อยูนิต เป็นตลาดเดียวกับหอพัก ผ่อนแค่เดือนละ 1,000-2,000 บาท เรื่องโพสต์ไฟแนนซ์ก็ตัดปัญาหาไปได้เลย แต่คงต้องใช้เวลาอีกพอสมควร

ส่วน แผนพัฒนาโครงการในช่วงเวลาที่เหลืออีก 6 เดือนเศษ "โอภาส" สรุปว่า วางแผนเปิดตัวอีก 4 โครงการ โดยเร็ว ๆ นี้จะเปิดตัว "ลุมพินีเพลส พระราม 9" (เฟส 2) เป็นคอนเซ็ปต์กรีนโปรเจ็กต์

อีกโครงการเพิ่งซื้อที่ดินได้ ไม่นานอยู่ระหว่างการออกแบบ เป็นที่ดิน 14 ไร่ ติดแม่น้ำในย่านสาธุประดิษฐ์ ราคาเกือบ 1,000 ล้านบาท กำลังอยู่ระหว่างวิเคราะห์ว่าจะพัฒนาเป็นคอนโดฯทั้งหมด หรือมีที่อยู่อาศัยรูปแบบอื่นด้วย

และถ้าโครงการต่าง ๆ ทำยอดขายได้ตามแผนที่วางไว้ ก็มีโอกาสที่จะทำยอดขายทั้งปีทะลุ 13,000 ล้านบาท หลังจากครึ่งปีแรกตุนยอดขายไว้แล้วกว่า 6,000 ล้านบาท

แอล.พี.เอ็น.เปิดศึกคอนโดฯรอบใหม่ ดันห้องชุดไซซ์เล็กแบบสตูดิโอเคาะราคาเริ่มต้น6.7แสนบาท

จากประชาชาติธุรกิจ

ตลาดคอนโดฯเดือด เจ้าตลาด "แอล.พี.เอ็น.ฯ" ส่งสัญญาณเปิดศึกรอบใหม่ ดันห้องชุดไซซ์เล็ก 22 ตร.ม.บุกทำเลรอบเมือง ดีเดย์ 26 มิถุนายนนี้ รองรับกลุ่มเป้าหมายที่มีรายได้ 15,000บาท/เดือน ผ่อนชำระ 4-5พันบาท/เดือน เผยเซ็กเมนต์คอนโดฯราคาต่ำล้าน, คอนโดฯบีโอไอสุดฮิต บิ๊กแบรนด์-รายกลางแห่ชิงดำ

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอป เม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากบริษัทประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ "ลุมพินีคอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์" (เฟสแรก) อาคาร A B C เป็นห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 699,000 บาท จำนวน 1,000 ยูนิต เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา   ล่าสุด26 มิถุนายนนี้บริษัทเตรียมเปิดขายโครงการในเฟสสุดท้าย อาคาร D อีก 690 ยูนิต โดยครั้งนี้ทีมออกแบบได้ปรับขนาดห้องใหม่เป็นแบบสตูดิโอเหลือ 22 ตารางเมตร ขายในราคาเริ่มต้น 678,000 บาท แต่ยังคงตอบสนองทุกประโยชน์การใช้สอยและไม่รู้สึกว่าอึดอัด เนื่องจากเป็นการออกแบบขึ้นใหม่โดยอาศัยประสบการณ์พัฒนาคอนโดฯตลอดระยะเวลา 21 ปี ภายใต้โมเดลการออกแบบที่เรียกว่า แอล.พี.เอ็น.ดีไซน์   โดยห้องชุดขนาด 22 ตารางเมตร ถือว่ามีพื้นที่เล็กที่สุดตั้งแต่ แอล.พี.เอ็น.เคยทำมา ซึ่งเหตุผลที่บริษัทหันมาพัฒนาห้องชุด 22 ตารางเมตร เพราะเป็นเรียลดีมานด์ในตลาด รองรับกลุ่มเป้าหมายเดิมที่มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 15,000 บาท มีความสามารถผ่อนชำระ 4,000-5,000 บาท   นายโอภาสกล่าวด้วยว่า แบรนด์ "ลุมพินีคอนโดทาวน์" ราคาเฉลี่ย 30,000 บาท/ ตารางเมตร ถือเป็นเซ็กเมนต์ที่ทีมบริหารให้น้ำหนักในการพัฒนามากที่สุด เพราะสามารถพัฒนาได้ทุกทำเล มีตลาดรองรับอยู่แล้ว โดยเชื่อว่าอนาคตจะสามารถพัฒนาห้องชุดที่มีขนาดเล็กลงได้อีก เป็นตลาดเดียวกับกลุ่มที่เช่าหอพักอยู่ เบื้องต้นสิ่งที่คิดไว้คือเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งแต่ละชิ้นจะต้องปรับเปลี่ยนการ ใช้สอยได้ อนาคตห้องนอนอาจลดขนาดเหลือ 1.5x2 เมตร แต่มีเตียงนอนสามารถพับเก็บขึ้นใช้ประโยชน์เป็นโต๊ะทำงานได้   "ถามว่าขนาดห้องชุดที่เล็กที่สุดที่ตลาดจะรับได้ คำตอบจริง ๆ อยู่ที่ความสามารถในการซื้อของลูกค้ามากกว่า อย่าง แอล.พี.เอ็น.มองไปถึงตลาดคอนโดฯราคา 300,000-400,000 บาทด้วยซ้ำ เป็นตลาดเดียวกับคนที่อยู่หอพัก ลูกค้าได้บ้านอยู่ไม่ต้องจ่ายค่าเช่า ทุกอย่างวิน-วิน"     ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ตลาดคอนโดฯราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท แม้ไม่ใช่โปรดักต์หลักของผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยทั่วไป แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงหลัง หลาย ๆ รายต่างหันมาให้ความสนใจกับตลาดเซ็กเมนต์นี้มากขึ้น เนื่องจากต้องการขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจโดยรวมและตลาดอสังหาฯยังมีแนวโน้มไม่ดี ขึ้น   ทั้งนี้ นอกจาก แอล.พี.เอ็น.ฯแล้วยังพบว่า บริษัทพัฒนาที่ดินรายกลาง รายใหญ่ที่หันมาพัฒนาคอนโดฯราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท และคอนโดฯบีโอไอ อาทิ เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ พัฒนาคอนโดฯแบรนด์ "เดอะแคช ลำลูกกา คลอง 2" จำนวน 8 ตึก สูง 5 ชั้น ขนาด 1 ห้องนอน 28 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 600,000-650,000 บาท/ยูนิต "เดอะคิทท์" แจ้งวัฒนะ จำนวน 3 อาคาร ขนาดห้อง 28-46 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 850,000 บาท/ยูนิต   ค่ายพฤกษา เรียลเอสเตทฯ มีแบรนด์ "คอนโดเลต" ถนนเสรีไทย สูง 8 ชั้น ห้อง สตูดิโอ 28.1 ตารางเมตร เริ่มต้น 789,000 บาท/ยูนิต วังทอง กรุ๊ป มีแบรนด์เดอะเซ็นเตอร์ ใกล้ห้างสรรพสินค้าเซียร์รังสิต 7 ชั้น 4 อาคาร อาคารละ 72 ยูนิต ขนาดห้อง 29.6-30.5 ตารางเมตร เริ่มต้น 990,000 บาท/ยูนิต ค่ายศุภาลัย มีโครงการซิตี้โฮม รัชดา, ซิตี้โฮม สุขุมวิท บมจ.ปริญสิริ มีโครงการสมาร์ท คอนโด พระราม 2 แม้แต่แสนสิริ ซึ่งให้น้ำหนักกับการพัฒนาคอนโดฯหรูก็มีแผนพัฒนาคอนโดฯบีโอไอเช่นเดียวกัน   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันยอดจดทะเบียนอาคารชุดอยู่ที่ 17,319 ยูนิต หรือกว่า 61% ของยอดจดทะเบียนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จทั้งหมดที่ 28,005 ยูนิต ส่งผลให้ ผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินโดยเฉพาะรายใหญ่ ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯให้น้ำหนักลงทุนคอนโดฯ หลายรายสามารถสร้างสถิตินิวไฮต์ทั้งด้านยอดขายและยอดรับรู้รายได้


LPNถล่ม คอนโดไซซ์เล็ก 22ตร.ม.แค่6แสน-เล็งขายเกลี้ยง690ยูนิต

จากประชาชาติธุรกิจ

ตลาดคอนโดฯไตรมาสสอง แข่งขันรุนแรงอีกครั้ง เมื่อเจ้าตลาด "แอล.พี.เอ็น.ฯ" ส่งสัญญาณเปิดศึกรอบใหม่ ดันห้องชุดไซซ์เล็ก 22 ตร.ม.บุกทำเลรอบเมือง ดีเดย์ 26 มิถุนายนนี้ ตั้งเป้าขาย "ลุมพินีคอนโดทาวน์ รามอินทรา- นวมินทร์" อาคาร D จำนวน 690 ยูนิตเกลี้ยง มั่นใจเวตติ้งลิสต์ร่วม 1,000 ราย เผยเซ็กเมนต์คอนโดฯราคาต่ำล้าน, คอนโดฯบีโอไอสุดฮิต บิ๊กแบรนด์-รายกลางแห่ชิงดำ

ห้องชุดจดทะเบียนส่วนแบ่งพุ่ง 61%จากสถิติล่าสุดไตรมาส 1 ปีนี้ ยอดจดทะเบียนอาคารชุดอยู่ที่ 17,319 ยูนิต หรือกว่า 61% ของยอดจดทะเบียนที่อยู่อาศัยสร้างเสร็จทั้งหมดที่ 28,005 ยูนิต ส่งผลให้ ผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินโดยเฉพาะรายใหญ่ ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯให้น้ำหนักลงทุนคอนโดฯ หลายรายสามารถสร้างสถิตินิวไฮต์ทั้งด้านยอดขายและยอดรับรู้รายได้

อย่าง ไรก็ตามสภาพการแข่งขันในตลาดที่นับวันยิ่งรุนแรงขึ้น ทำให้แต่ละค่ายต้องพลิกกลยุทธ์สู้ทุกรูปแบบ ที่น่าจับตามองคือความเคลื่อนไหวของ "แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเม้นท์" หรือ LPN เจ้าตลาดคอนโดฯ ที่แต่ละปีจะส่งมอบอาคารชุดให้กับลูกค้ากว่า 8,000 ยูนิต คิดเป็นสัดส่วน 30% ของตลาดรวม โดยอาศัยจุดเด่นเรื่องการพัฒนาโปรดักต์ การบริหารชุมชน และบริการหลังการขายภายใต้คอนเซ็ปต์ "ชุมชนน่าอยู่" (Vibrant Community) ซึ่งมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นโนว์ฮาวเฉพาะตัว

ล่าสุด บริษัทกำลังเปิดตัวโครงการใหม่ฉีกแนวตลาด ทั้งในเรื่องการดีไซน์ การจัดวางฟังก์ชั่นใช้สอย กลุ่มลูกค้าโฟกัสกรุ๊ป ตลอดราคาขาย ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่น่าจะชี้ให้เห็นเทรนด์ตลาดได้เป็นอย่างดี

ย้ำ แชมป์ "จองกระดาษ" เกลี้ยงโครงการ

26 มิถุนายนนี้ LPN ประกาศตัวอีกครั้งในการทำสถิติขายยกโครงการ ในโครงการลุมพินีคอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์ อาคาร D คอนโดฯสูง 25 ชั้น ยูนิตรวม 690 ยูนิต มาพร้อมกับการรีไซซ์ให้เหลือเป็นห้องชุดขนาด 22 ตารางเมตร ในรูปแบบสตูดิโอไทป์ โดยผู้บริหารมั่นใจว่าจะสามารถปิดการขายได้ในวันเดียวอีกเช่นเคย เนื่องจากทีมงานเซอร์เวย์ความต้องการตลาด พบว่ายังมีเวตติ้งลิสต์อยู่ร่วม 1,000 ราย

ก่อนหน้านี้ LPN ซึ่งได้รับฉายา "เจ้าพ่อคอนโดฯ" พัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ "ลุมพินี" ปัจจุบันมี 5 แบรนด์ คือ ลุมพินีคอนโดทาวน์ ลุมพินีวิลล์ ลุมพินีเพลส ลุมพินีสวีท และลุมพินีปาร์ค ราคาอยู่ระหว่าง 3-6 หมื่นบาท/ตารางเมตร

แม้ไม่ใช่ทุกโครงการที่จะ ปิดการขายหวือหวาแบบ "วันเดียวเกลี้ยง" แต่ถ้าประกาศตัวก่อนวันพรีเซลเมื่อไหร่ยังไม่เคยผิดหวังสักครั้ง พลิกกลับไปดูย้อนหลังไม่เกิน 1 ปีที่ผ่านมา ค่าย LPN ทำสถิติปิดการขายถล่มทลายอย่างน้อย 5 โครงการ เริ่มจากเช้าวันเสาร์ 6 มิถุนายน 2552 ปิดการขายโครงการลุมพินีคอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์ อาคาร A-B จำนวน 1,088 ยูนิต ภายใน 10 ชั่วโมง

ลอตต่อมา คราวนี้ขยับสถิติจากปิดการขาย 1 วัน 1 โครงการ มาเป็น 1 วัน 2 โครงการ โดยวันเสาร์ 21 พฤศจิกายน 2552 ปิดการขายโครงการลุมพินีวิลล์ ลาดพร้าว-โชคชัย 4 สูง 18 ชั้น 2 อาคาร รวม 1,020 ยูนิต และโครงการลุมพินีปาร์ค ปิ่นเกล้า สูง 30 ชั้น 2 อาคาร ยูนิตที่นำมาพรีเซลกว่า 1,500 ยูนิต ปรากฏว่าสามารถปิดการขาย 2 โครงการ ได้มากกว่า 3,000 ยูนิต มูลค่ากว่า 4,000 ล้านบาท ในวันเดียว

และ เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา บริษัทปิดการขายแบรนด์ลุมพินีเพลส 2 โครงการ ทำเลพระราม 4-กล้วยน้ำไท กับรัชโยธิน ยูนิตรวมกว่า 2,700 ยูนิต มูลค่ารวมกว่า 4,700 ล้านบาท ภายใน 3 ชั่วโมง ส่งผลให้ยอดรายได้ไตรมาสแรกปี 2553 บริษัททำสถิตินิวไฮต์ยอดขายรายไตรมาสในรอบ 20 ปีของการก่อตั้งบริษัท

ล่า สุด ลุมพินีคอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์ จะเป็นโครงการที่ 6 ที่บริษัท ตั้งเป้าจะปิดการขายเกลี้ยงพอร์ตอีกครั้ง แต่ที่ไม่ได้ป่าวประกาศออกไปก็คือ บริษัท รีไซซ์ห้องชุดให้เล็กลงไปอีก จากเดิม 25 ตารางเมตร 1 ห้องนอน มาเป็นห้องชุดสตูดิโอ ขนาด 22 ตารางเมตร

ห้องชุด LPN "...ยังเล็กได้อีก"

นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอป เม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ LPN เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากบริษัทประสบความสำเร็จจากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ "ลุมพินีคอนโดทาวน์ รามอินทรา-นวมินทร์" (เฟสแรก) อาคาร A B C เป็นห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 25 ตารางเมตร ราคาขายเริ่มต้น 699,000 บาท จำนวน 1,000 ยูนิต เมื่อเดือนมิถุนายนปีที่ผ่านมา

ล่าสุดบริษัท เตรียมเปิดขายโครงการในเฟสสุดท้าย อาคาร D อีก 690 ยูนิต โดยครั้งนี้ทีมออกแบบได้ปรับขนาดห้องใหม่เป็นแบบสตูดิโอเหลือ 22 ตารางเมตร ขายในราคาเริ่มต้น 678,000 บาท แต่ยังคงตอบสนองทุกประโยชน์การใช้สอยและไม่รู้สึกว่าอึดอัด เนื่องจากเป็นการออกแบบขึ้นใหม่โดยอาศัยประสบการณ์พัฒนาคอนโดฯตลอดระยะเวลา 21 ปี ภายใต้โมเดลการออกแบบที่เรียกว่า แอล.พี.เอ็น.ดีไซน์

โดยห้อง ชุดขนาด 22 ตารางเมตร ถือว่ามีพื้นที่เล็กที่สุดตั้งแต่ แอล.พี.เอ็น.เคยทำมา ซึ่งเหตุผลที่บริษัทหันมาพัฒนาห้องชุด 22 ตารางเมตร เพราะเป็นเรียลดีมานด์ในตลาด รองรับกลุ่มเป้าหมายเดิมที่มีรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 15,000 บาท มีความสามารถผ่อนชำระ 4,000-5,000 บาท

นายโอภาสกล่าวด้วยว่า แบรนด์ "ลุมพินีคอนโดทาวน์" ราคาเฉลี่ย 30,000 บาท/ ตารางเมตร ถือเป็นเซ็กเมนต์ที่ทีมบริหารให้น้ำหนักในการพัฒนามากที่สุด เพราะสามารถพัฒนาได้ทุกทำเล มีตลาดรองรับอยู่แล้ว โดยเชื่อว่าอนาคตจะสามารถพัฒนาห้องชุดที่มีขนาดเล็กลงได้อีก เป็นตลาดเดียวกับกลุ่มที่เช่าหอพักอยู่ เบื้องต้นสิ่งที่คิดไว้คือเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งแต่ละชิ้นจะต้องปรับเปลี่ยนการ ใช้สอยได้ อนาคตห้องนอนอาจลดขนาดเหลือ 1.5x2 เมตร แต่มีเตียงนอนสามารถพับเก็บขึ้นใช้ประโยชน์เป็นโต๊ะทำงานได้

"ถาม ว่าขนาดห้องชุดที่เล็กที่สุดที่ตลาดจะรับได้ คำตอบจริง ๆ อยู่ที่ความสามารถในการซื้อของลูกค้ามากกว่า อย่าง แอล.พี.เอ็น.มองไปถึงตลาดคอนโดฯราคา 300,000-400,000 บาทด้วยซ้ำ เป็นตลาดเดียวกับคนที่อยู่หอพัก ลูกค้าได้บ้านอยู่ไม่ต้องจ่ายค่าเช่า ทุกอย่างวิน-วิน"

บิ๊กอสังหาฯแห่แจมคอนโดฯราคาถูก

ผู้ สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ตลาดคอนโดฯราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท แม้ไม่ใช่โปรดักต์หลักของผู้ประกอบการพัฒนาที่ดินรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยทั่วไป แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าในช่วงหลัง หลาย ๆ รายต่างหันมาให้ความสนใจกับตลาดเซ็กเมนต์นี้มากขึ้น เนื่องจากต้องการขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจโดยรวมและตลาดอสังหาฯยังมีแนวโน้มไม่ดี ขึ้น

ทั้งนี้ นอกจาก แอล.พี.เอ็น.ฯแล้วยังพบว่า บริษัทพัฒนาที่ดินรายกลาง รายใหญ่ที่หันมาพัฒนาคอนโดฯราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท และคอนโดฯบีโอไอ อาทิ เสนา ดีเวลลอปเม้นท์ พัฒนาคอนโดฯแบรนด์ "เดอะแคช ลำลูกกา คลอง 2" จำนวน 8 ตึก สูง 5 ชั้น ขนาด 1 ห้องนอน 28 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 600,000-650,000 บาท/ยูนิต "เดอะคิทท์" แจ้งวัฒนะ จำนวน 3 อาคาร ขนาดห้อง 28-46 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 850,000 บาท/ยูนิต

ค่าย พฤกษา เรียลเอสเตทฯ มีแบรนด์ "คอนโดเลต" ถนนเสรีไทย สูง 8 ชั้น ห้อง สตูดิโอ 28.1 ตารางเมตร เริ่มต้น 789,000 บาท/ยูนิต วังทอง กรุ๊ป มีแบรนด์เดอะเซ็นเตอร์ ใกล้ห้างสรรพสินค้าเซียร์รังสิต 7 ชั้น 4 อาคาร อาคารละ 72 ยูนิต ขนาดห้อง 29.6-30.5 ตารางเมตร เริ่มต้น 990,000 บาท/ยูนิต ค่ายศุภาลัย มีโครงการซิตี้โฮม รัชดา, ซิตี้โฮม สุขุมวิท บมจ.ปริญสิริ มีโครงการสมาร์ท คอนโด พระราม 2 แม้แต่แสนสิริ ซึ่งให้น้ำหนักกับการพัฒนาคอนโดฯหรูก็มีแผนพัฒนาคอนโดฯบีโอไอเช่นเดียวกัน

view