เปิดจม.คณิตถึงมาร์ค เหตุลึกสอบแดงเผาเมืองสะดุด
โดย ธรรมสถิตย์ ผลแก้ว
“กระผมจึงมีความจำเป็นต้องปรึกษาหารือ กับหลายฝ่าย เพราะเป็นเรื่องที่มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย( Stake Holders ) เป็นจำนวนมาก อีกทั้งประเด็นที่จะพิจารณาตรวจสอบยังมีความสลับซับซ้อน มีความเกี่ยวเนื่องยึดโยงถึงกันในห้วงระยะเวลาต่างๆ จึงเป็นการยากที่ตัวกระผมเองในฐานะประธานฯ จะกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่และประเด็นที่จะตรวจสอบได้โดยลำพังเว้นแต่จะได้ รับฟังข้อคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสังคมโดยรวม"
หมายเหตุ นายคณิต ณ นคร ประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ ได้ทำหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ขออนุมัติขยายเวลาในการสรรหาคณะกรรมการอิสระฯ โดยนายกฯนำเข้าที่ประชุมครม.เป็นวาระพิจารณาจรเรื่องที่2ซึ่งมีเนื้อหาน่า สนใจดังนี้
กระผมขอกราบเรียนว่ากระผมรู้สึกเป็นเกียรติที่คณะรัฐมนตรีได้กรุณาให้ ความไว้วางใจมอบหมายภารกิจให้ทำหน้าที่ประธานกรรมการดังกล่าวข้างต้น และกระผมรับที่จะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเต็มกำลังความสามารถ แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและสลับซับซ้อนเพียงใดก็ตาม ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของชาติและพี่น้องประชาชนชาวไทย
คณิต ณ นคร
แต่อย่างไรก็ตาม กระผมใคร่ขอกราบเรียนว่า ภารกิจ 2 ประการที่ได้รับมอบหมายคือ ประการที่หนึ่งการกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่และประการที่สองการสรรหาคณะ กรรมการที่คณะรัฐมนตรีกำหนดแล้วเสร็จภายใน 15 วัน นั้น เป็นเรื่องที่ไม่สามารถดำเนนการได้ภายในห้วงเวลาที่กำหนด
ในภารกิจประการแรกเนื่องจากกระผมเข้าใจว่าขอบเขตอำนาจหน้าที่คณะกรรมการ ตามที่คณะรัฐมมนตรีมอบหมาย มิใช่เพียงเพื่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงเฉพาะเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง ในพื้นที่กรุงเทพมหานครระหว่างเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 25532 เท่านั้น เพราะการดำเนินการในกรอบดังกล่าวย่อมไม่เพียงพอที่จะนำมาสรุปและแสวงหา ทางออกในการปรองดองของชาติตามที่มติคณะรัฐมนตรีกำหนดได้ แต่เป็นการดำเนินการในการตรวจสอบและค้นหาความจริงของเหตุการณ์อันเป็นสาเหตุ ที่นำมาสู่ความขัดแย้งเพื่อนำบ้านเมืองไปสู่ความปรองดองและสมานฉันท์ ซึ่งเป็นแนวทางในรูปแบบของ Truth and Reconciliation ( TRC ) ที่มีการใช้ในหลายประเทศที่เคยมีความขัดแย้งจนนำไปสู่ความรุนแรงทางการ เมือง ซึ่งกรรมการในลักษณะนี้มีขั้นตอนการดำเนินการกว้างขวาง เริ่มตั้งแต่การแสวงหาความจริงในกรอบที่กว้างขึ้นไปจนถึงกระบวนการเยียวยา เพื่อการปรองดอง
จากกรอบอำนาจหน้าที่ที่กว้างขวางดังกล่าวกระผมจึงมีความจำเป็น ต้องปรึกษาหารือกับหลายฝ่าย เพราะเป็นเรื่องที่มีผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย( Stake Holders ) เป็นจำนวนมาก อีกทั้งประเด็นที่จะพิจารณาตรวจสอบยังมีความสลับซับซ้อน มีความเกี่ยวเนื่องยึดโยงถึงกันในห้วงระยะเวลาต่างๆ จึงเป็นการยากที่ตัวกระผมเองในฐานะประธานฯ จะกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่และประเด็นที่จะตรวจสอบได้โดยลำพัง เว้นแต่จะได้รับฟังข้อคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและสังคมโดยรวม เพื่อนำไปสู่แนวทางการทำงานที่คนส่วนใหญ่ยอมรับ ซึ่งจะส่งผลให้คณะกรรมการชุดนี้สามรรถดำเนินการตามภารกิจได้ตามวัตถุประสงค์ ต่อไป
สำหรับภารกิจประการที่สองในการเสนอชื่อกรรมการที่เหมาะสมเพื่อดำเนินการ ตารมกรอบอำนาจหน้าที่ดังกล่าวก็เป็นเรื่องมีความสำคัญอย่างยิ่งและส่งผลโดย ตรงต่อความสำเร็จของภารกิจโดยรวม จึงจำเป็นต้องพิจารณาโดยรอบคอบและปรึกษาหารือกับหลายฝ่าย โดยเฉพาะในเรื่ององค์ประกอบของคณะกรรมการที่ยังไม่ได้ข้อยุติในขณะนี้ เนื่องจากการกำหนดองค์ประกอบมีแนวทางในการพิจารณาหลายแบบ อาทิ การให้คู่ขัดแย้งเข้ามาร่วมในคณะกรรมการ หรือการให้แต่ละฝ่ายเสนอชื่อบุคคลที่เห็นสมควรเข้ามาร่วมเป็นองค์คณะหรือจะ ใช้กรรมการที่มาจากนักวืชาการหรือผู้ทรงคุณวุฒิที่สังคมยอมรับ เป็นต้น ซึ่งในแต่ละแบบที่กล่าวไปนั้น ต่างก็มีผลดีและผลเสียแตกต่างกัน ซึ่งเมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนแล้ว กระผมก็จะได้พิจารณานำเสนอรายชื่อคณะกรรมการที่เหมาะสมต่อไป
ด้วยเหตุผลที่กราบเรียนไปแล้วข้างต้น กระผมจึงขอให้คณะรัฐมนตรีได้โปรดพิจารณาขยายระยะเวลาในการดำเนินการเรื่อง นี้ออกไปอีก15วัน และขอกราบเรียนว่า กระผมตระหนักดีถึงความจำเป็นเร่งด่วนและความต้องการของสาธารณชนที่จะได้ทราบ ความคืบหน้าของคณะกรรมการ ขอเรียนยืนยันว่าจะเร่งรัดการดำเนินการในเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด.