จาก กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
โดย : เอื้อพันธุ์
คุณมีแนวโน้ม สุขภาพเสื่อมหรือแก่ก่อนวัยอันควรหรือไม่...มีเคล็ดลับการป้องกันอาการแก่ ก่อนวัยมาแนะนำ
แต่ละวัน นั่งหลังแข็งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ บางทีไม่ได้ทำงาน แต่แชทกระหน่ำ เขียน facebook มากกว่าบันทึกไดอารี่ เวลากินก็รีบเร่ง เวลานอนก็น้อยนิด เรื่องออกกำลังกายหรือ... เมินเสียเถอะ !!
ถ้ามีไลฟ์สไตล์อย่างที่ว่า คุณก็มีแนวโน้มสุขภาพเสื่อมหรือแก่ก่อนวัยอันควร ความเสื่อมอาจไม่ทันเห็นในวันพรุ่ง แต่ร่างกาย-จิตใจ จะค่อย ๆ ทรุดโทรมลง เป็นความเสื่อมสะสม พอถึงขีดก็เกินรับ ถึงตอนนั้นจะรับประทานอะไรก็ไม่ได้ ต้องนอนหยอดน้ำข้าวต้ม ถ้าคิดว่าอนาคตตัวเองมีความเสี่ยงอย่างนี้แล้ว วันนี้ต้องเริ่มปฏิวัติตัวเองเสียใหม่ จัดระเบียบ กระชับพื้นที่ การกิน-อยู่ นอนหลับ การออกกำลังกาย แล้วจะเริ่มจากจุดไหนดี... นักโภชนาการ ซูซาน โบเวอร์แมน ที่ปรึกษาของ "เฮอร์บาไลฟ์ อินเตอร์เนชั่นแนล ลิมิเต็ด" แนะนำ 8 กลยุทธ์ การกินอย่างถูกหลักโภชนาการ เพราะมองว่า "การกิน" เป็นหนทางแรกที่ทำได้ เร็วและน่าจะง่ายที่สุด (ที่จริงยากสุด) อาจจะค่อย ๆ เริ่มวันละนิดแล้วขยับ
ดีกรีปฏิบัติตามกลยุทธ์ 8 ประการ ตั้งแต่.-
1. อาหารเช้าเพิ่มพลัง และเป็นอาหารสมองด้วย การงดอาหารเช้าไม่ได้ช่วยอะไรเลย กลับทำให้ร่างกายอ่อนเพลียตอนสาย ๆ แล้วก็สวาปามอาหารปริมาณมากในตอนเที่ยง พอบ่ายก็เริ่มง่วง มีรายงานว่าคนที่กินอาหารเช้าเป็นประจำจะสามารถรักษาน้ำหนักไว้ได้ง่ายคนอด อาหารเช้า คนไหนรีบเร่งมากนักก็ใช้เครื่องดื่มประเภทโปรตีน เชค หรือโยเกิร์ตกับผลไม้สด ขนมปังโฮลวีท เนยไขมันต่ำ นมอุ่น ๆ สักแก้ว ผลไม้อีกสักชิ้นสองชิ้น แค่นี้ก็พร้อมสำหรับเปิดเช้าวันใหม่อย่างสดใส
2. เลือกโฮลเกรน เคยกินขนมปังนุ่ม ๆ ขาว ๆ ต้องคิดใหม่ กินใหม่ ด้วยขนมปังธัญพืช แป้งไม่ขัดสี ข้าวกล้อง ถ้าอยู่ในสถานที่หรือร้านอาหารที่เลือกไม่ได้ บางทีต้องนึกถึงงาขาว-งาดำ วีทเจิร์ม ที่หลายคนใช้เป็นทางเลือกเมื่อต้องกินข้าวขาว โรยธัญพืชลงไป ช่วยเพิ่มรสชาติได้ด้วย
3. กินผลไม้แทนขนมหวาน หลายคนติดของหวานหลังอาหาร ทุกครั้งต้องมีของหวาน ๆ มา "ล้างปาก" ถ้าติดขนาดนั้นต้องใช้ผลไม้สด แทนขนมเค้ก คุกกี้ ของหวานน้ำตาลสูง ผลไม้มีรสหวานธรรมชาติ แช่เย็น ๆ กินแล้วสดชื่น มีวิตามินและไฟเบอร์ รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระที่ตอนนี้เป็นสารจำเป็นสำหรับร่างกายไปแล้ว
4. โปรตีนจากถั่ว ตามด้วยผักใบเขียว ถั่วทุกชนิดให้โปรตีน ระวังไขมันสูงจากถั่วอบเนยและเกลือ เลือกถั่วเป็นอาหารได้แต่ต้องเลือกให้ถูก ถั่วและธัญพืชประเภทต้ม ๆ นึ่ง ๆ ให้คุณค่าโปรตีนดีกว่าถั่วกรุบกรอบในถุงขนมสำเร็จรูป คนไทยโชคดีที่เรามีอาหารถั่วและธัญพืชมากมาย บางทีกินแค่ฟักทองต้ม ถั่วต้ม ข้าวโพดต้ม ก็อร่อยได้ ดีต่อสุขภาพด้วย
5. ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอ น้ำเปล่าอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนไม่เย็นเกินไปเหมาะสมที่สุด เครื่องดื่มรสหวาน น้ำอัดลม ที่ดื่มตอนร้อน ๆ ชื่นใจแต่ให้ปริมาณแคลอรีถึง 150 กิโลแคลอรี ลองคิดว่าถ้าเลิกดื่มน้ำอัดลม 1 มื้อ ทำให้ลดปริมาณแคลอรีได้ขนาดนั้น และลดน้ำตาลได้ถึง 10 ช้อนชา ส่วนกาแฟ ควรละเว้นหรือใช้ความพยายามมากหน่อยที่จะดื่มพอประมาณ เช่นกาแฟวันละ 1 แก้ว ก็พอแล้ว หรือชาเขียวในปริมาณเหมาะสม เลือกน้ำเปล่าดีที่สุด
6. มื้อเย็นเน้นผัก อย่างที่รู้กันอยู่ (แต่ทำกันไม่ค่อยได้) คือพอถึงมื้อเย็นให้กินเหมือนยาจก มื้อเช้าเป็นพระราชา แต่หลายคนมักจะหนักอาหารเย็น กินกันฟูลคอร์ส แล้วก็นอน เลิกพฤติกรรมเช่นนั้นแล้วหันมากินผักเยอะ ๆ ตอนมื้อเย็น หรือกินผักเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า เมื่อเทียบกับมื้อปกติ คิดง่าย ๆ ว่า เน้นผักในปริมาณอย่างน้อยครึ่งหนึ่งของมื้ออาหารเย็นทั้งหมด ถ้าต้องกินข้าวนอกบ้านก็เลือกเมนูผักแทนอาหารจำพวกแป้ง หรือเพิ่มผักในแซนด์วิช เป็นต้น
7. เสริมแคลเซียม นมพร่องมันเนย 1 แก้ว เนยเหลว 1 ช้อน โยเกิร์ต 1 ถ้วย หรือเนยแข็ง 1 ชิ้น ผลิตภัณฑ์นมดังกล่าวเป็นแหล่งของแคลเซียม เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก บางคนกินนมไม่ได้ให้เลือกผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลืองและเต้าหู้แทน
8. เสริมสวยด้วยโอเมก้า-3 อย่าลืมกินปลาและอาหารทะเลบ้าง อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะปลา เป็นโปรตีนไร้ไขมัน (ยกเว้นปลาทอด) เมนูอย่างง่ายที่สุดได้แก่ ปลาทูน่ากระป๋อง ที่นำมาปรุงได้หลากหลาย เช่น ผสมกับอโวคาโดบดทำเป็นไส้แซนด์วิช กินกับสลัดผัก ปลาทูน่ายำแบบไทย ๆ ก็ได้ หรือเมื่อไปกินอาหารตามที่ต่าง ๆ เลือกเมนูปลาแทนเนื้อสัตว์
หมายเหตุ : ภาพและข้อมูลบางส่วนจาก Herbalife