จากประชาชาติธุรกิจ
รายงานข่าวจากก.ล.ต.แจ้งว่า คณะกรรมการกำกับตลาดทุนในการประชุมครั้งที่ 6/2553 ประจำเดือนกรกฎาคม 2553 มีมติกำหนดหลักเกณฑ์การจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมทองคำ ปรับปรุงหลักเกณฑ์การตั้งตัวแทนขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุน และปรับปรุงการลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงิน ดังนี้
1. หลักเกณฑ์การจัดตั้งและจัดการกองทุนรวมทองคำ ก.ล.ต. กำหนดหลักเกณฑ์รองรับการจัดตั้งและการจัดการกองทุนรวมทองคำ (gold fund) โดยอนุญาตให้กองทุนรวมดังกล่าวสามารถลงทุนในทองคำแท่งได้โดยตรงหรือทางอ้อม จากเดิมที่ต้องลงทุนทางอ้อมผ่านกองทุนรวมทองคำต่างประเทศหรือลงทุนในตราสาร ที่จ่ายผลตอบแทนโดยอ้างอิงกับราคาทองคำเท่านั้น โดยสามารถจัดตั้งได้ 3 รูปแบบ ได้แก่ (1) กองทุนรวมทองคำแบบทั่วไป (simple gold fund) ซึ่งเน้นลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนอ้างอิงโดยตรงกับราคาทองคำแท่ง (2) กองทุนรวมอีทีเอฟทองคำ (gold ETF) เป็นกองทุน ETF ที่เน้นลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนอ้างอิงโดยตรงกับราคาทองคำแท่ง และ (3) กองทุนรวมทองคำแบบซับซ้อน ซึ่งเน้นลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนที่อ้างอิงกับราคาทองคำแท่งภายใต้เงื่อนไข ที่กำหนด ทั้งนี้ ทองคำแท่งที่ gold fund ลงทุนได้ต้องมีคุณภาพได้มาตรฐานและเป็นชนิดที่มีราคาเป็นที่ยอมรับ อย่างกว้างขวางและเปิดเผยทั่วไป สำหรับผู้ดูแลผลประโยชน์ของ gold fund จะต้องมีระบบงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บรักษาทองคำแท่งที่ปลอดภัย และเนื่องจากทองคำแท่งเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง จึงกำหนดให้มีการเปิดเผยเรื่องการทำประกันภัยทองคำแท่งที่ gold fund ลงทุน และความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นต่อกองทุนในกรณีที่ไม่ได้ทำประกันภัยหรือทำ ประกันภัยในวงเงินคุ้มครองที่ไม่ครอบคลุมมูลค่า
2. หลักเกณฑ์การตั้งตัวแทนขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอีทีเอ ฟทองคำ ก.ล.ต. ได้เปิดโอกาสให้ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่จำกัดเฉพาะสัญญาซื้อ ขายล่วงหน้าที่เกี่ยวกับทองคำ (gold futures broker) ซึ่งเป็นผู้ค้าทองอยู่เดิม สามารถขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนายหน้า ค้าและจัดจำหน่ายหน่วยลงทุน (Limited Broker Dealer Underwriter: LBDU) ได้นั้น ในครั้งนี้ ก.ล.ต. ได้แก้ไขหลักเกณฑ์ให้บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) และสถาบันการเงินที่มีใบอนุญาต LBDU สามารถตั้งผู้ประกอบธุรกิจค้าทองที่เป็นสมาชิกชมรมผู้ค้าปลีกทองคำแห่ง ประเทศไทย เป็นตัวแทน (selling agent) ที่เป็นนิติบุคคลสำหรับขายหน่วยลงทุนของกองทุนรวมอีทีเอฟทองคำได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ค้าทองสามารถทำธุรกิจเป็นตัวแทนขายหน่วยลงทุนได้อีกรูปแบบ หนึ่ง
นอกจากนี้ ก.ล.ต. ยังได้กำหนดหลักเกณฑ์เพิ่มเติมให้ผู้ค้าทองที่มีใบอนุญาต LBDU และเป็นสมาชิกสมทบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยสามารถส่งคำสั่งซื้อขาย gold ETF ไปที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่าน บล. โดยต้องมีระบบงานรองรับการส่งคำสั่งซื้อขาย gold ETF ไปที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์เดียวกับนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ด้วย
3. หลักเกณฑ์การลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงิน ก.ล.ต. แก้ไขหลักเกณฑ์การลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงินเพื่อให้มีระดับความเสี่ยงและ สภาพคล่องที่สอดคล้องกับความคาดหวังของผู้ลงทุนและเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยกำหนดให้กองทุนรวมตลาดเงินต้องดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องสูงไม่น้อยกว่าร้อย ละ 10 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิตลอดอายุของกอง พอร์ตการลงทุนจะต้องมีอายุเฉลี่ยกองไม่เกิน 3 เดือนจากเดิมที่ไม่กำหนด รวมทั้งต้องลงทุนเฉพาะในตราสารหนี้ที่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ระยะสั้น 2 อันดับแรกขึ้นไปและระยะยาว 3 อันดับแรกขึ้นไปเท่านั้น เว้นแต่เป็นตราสารหนี้ภาครัฐไทย เป็นต้น นอกจากนี้ ได้แบ่งกองทุนรวมตลาดเงินเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ลงทุนเฉพาะในประเทศ ซึ่งจัดเป็นกองทุนรวมที่มีความเสี่ยงต่ำที่สุดและมีสภาพคล่องสูง และประเภทที่มีการลงทุนในต่างประเทศบางส่วน โดยลงทุนในต่างประเทศได้ไม่เกินร้อยละ 50 ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) และต้องป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนไว้เต็มจำนวน อย่างไรก็ดี กองทุนรวมนี้ยังมีความเสี่ยงด้านข้อจำกัดจากการนำเงินลงทุนกลับประเทศ (repatriation risk) และความเสี่ยงจากการลงทุนในต่างประเทศ (country and political risk)
พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้กำหนดให้เฉพาะกองทุนรวมตลาดเงินประเภทที่ลงทุนเฉพาะในประเทศเท่านั้นที่ สามารถแสดงผลตอบแทนเทียบเคียงกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากได้ และห้ามกองทุนรวมประเภทอื่น เช่น กองทุนรวมตราสารหนี้ที่มีนโยบายรับซื้อคืนหน่วยลงทุนทุกวันทำการ (“กองตราสารหนี้ daily”) เปรียบเทียบผลตอบแทนกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ทั้งนี้ ก.ล.ต. ขอย้ำว่าการลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมไม่ใช่การฝากเงินกับธนาคารแต่ อย่างใด นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. และประธานคณะกรรมการกำกับตลาดทุน กล่าวว่า การออกและแก้ไขหลักเกณฑ์ให้มี gold fund และการตั้งตัวแทนขายหรือรับซื้อคืนหน่วยลงทุนของกองทุนรวมดังกล่าวเป็นการ ส่งเสริมให้มีผลิตภัณฑ์ใหม่เพื่อเป็นทางเลือกของผู้ลงทุนในตลาดทุน และเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ค้าทองได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาธุรกิจนี้
"สำหรับการแก้ไขหลักเกณฑ์กองทุนรวมตลาดเงินนั้น ก.ล.ต. จึงได้ปรับปรุงการเปิดเผยข้อมูลของกองทุนรวมทั้งสองประเภทนี้ให้ชัดเจนขึ้น และหลักเกณฑ์การลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงินเองก็ควรมีการปรับปรุงให้รัดกุม ยิ่งขึ้น เพื่อจำกัดความเสี่ยงด้านราคา ด้านเครดิต และด้านสภาพคล่อง โดยการปรับปรุงในครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกซึ่งจะมีการปรับปรุงอีกใน 2 ปีข้างหน้า เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ดังนั้น บลจ. จึงควรเตรียมพร้อมให้กองทุนรวมตลาดเงินมีการกระจายการลงทุนเพื่อลดความ เสี่ยงในเรื่องการขาดสภาพคล่องเพื่อให้สอดคล้องกับความคาดหวังของผู้ลงทุน ที่เลือกลงทุนในกองทุนรวมประเภทนี้” นายธีระชัย กล่าว