จากประชาชาติธุรกิจ
ความเปลี่ยนแปลงคือ สัจธรรม เมื่อสังคมเปลี่ยน ค่านิยมเปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยน ส่งผลให้วิธีการหาเลี้ยงชีพของผู้คนผันแปรตามไปด้วย อาชีพที่เคยรุ่งเรืองเมื่อหลายปีก่อน อาจไม่มีใครเต็มใจจะทำอีกต่อไป ส่วนงานที่เคยถูกเบือนหน้าหนี อาจกลายเป็นอาชีพที่ใคร ๆ แย่งกันทำ
แล้วในอีก 10 ปีข้างหน้า งานชนิดไหนที่จะขึ้นหม้อ หรือทำเงินได้ดี สำนักงานสิถิติแรงงานสหรัฐมีคำตอบ
1.พยาบาลวิชาชีพ เนื่องจากประชากรกลุ่มเบบี้บูมเมอร์ในสหรัฐ ล่วงเข้าสู่วัยหลังเกษียณกันเป็นจำนวนมาก ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจึงพลอยพุ่งตามไปด้วย ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์เป็นที่ต้องการมาก รวมถึงดีมานด์ต่อเวชภัณฑ์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และการดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดย่อมทวีขึ้น
สำนักงานสถิติฯประเมินว่า ในทศวรรษหน้า (ระหว่างปี 2551-2561) อาชีพพยาบาลมีแนวโน้มเติบโตขึ้น 22% และข้อดีอีกอย่าง คืออาชีพนี้ใช้เวลาศึกษาน้อยกว่าอาชีพแพทย์หลายปี
2.วิศกรชีวการแพทย์ (Biomedical engineering) ด้วยเหตุผลคล้ายคลึงกับที่ทำให้อาชีพพยาบาลเป็นที่ต้องการ อุตสาหกรรมสุขภาพต้องการคนมาทำหน้าที่ออกแบบคิดค้นอวัยวะเทียม ไปจนถึงอุปกรณ์ไฮเทคช่วยวินิจฉัยโรค คาดว่าอีก 10 ปี อาชีพนี้มีโอกาสขยายตัวถึง 72%
3.งานโรงแรมและบริการ เพราะเบบี้บูมเมอร์เป็นกลุ่มที่มีอำนาจซื้อสูง และเต็มใจจับจ่ายเพื่อความสุขความบันเทิงของตน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจภัตตาคารไปจนถึงรีสอร์ต ล้วนมีอัตราการเติบโตอย่างสม่ำเสมอในอีกหลายปีข้างหน้า แต่ข่าวร้าย คือบุคลากรในอุตสาหกรรมนี้มีอัตราการเปลี่ยนงานสูง และค่าตอบแทนไม่สูงมากนัก
4.ฝ่ายบริการลูกค้า นี่เป็นงานทดสอบความอดทนได้ดีที่สุดงานหนึ่ง แต่ก็รับประกันว่า รายได้จะมีเข้ามาไม่ขาดมือ แม้ปัจจุบันมีคนทำอาชีพนี้ในแดนลุงแซมมากกว่า 2.3 ล้านคน เมื่อนับถึงปี 2551 แต่อาชีพนี้ยังมีโอกาสขยายตัวได้อีก ประกอบกับการเอาต์ซอร์ซงานนี้ไปยังต่างประเทศเริ่มลดลง ขณะที่ดีมานด์ต่ออาชีพตัวแทนขายในภาคการเงินยังคงเติบโตต่อเนื่อง คาดว่าจะมีตำแหน่งงานเพิ่มอีก 4 แสนอัตรา
5.พนักงานขาย ซึ่งเป็นบุคลากรที่องค์กรธุรกิจต้องการเสมอมา เพราะเป็นตำแหน่งที่หารายได้เข้าบริษัท แนวโน้มดังกล่าวยังไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปในเร็ว ๆ นี้ แม้ในทศวรรษหน้า อาจขยายตัวไม่มากนัก โดยมีแนวโน้มจะขยายตัว 8% แต่ก็ยากที่อาชีพนี้จะสูญหายไป
6.วิศวกรหรือผู้เชี่ยวชาญด้านการประหยัด พลังงาน กระแสรักษ์สิ่งแวดล้อมและลดโลกร้อนกำลังมาแรง ผู้บริโภคต่างพยายามหาวิธีประหยัดเงินจากสิทธิพิเศษทางภาษี ด้วยการใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพที่สุด ดังนั้น ผู้พัฒนาวิธีใหม่ ๆ ในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือให้คำแนะนำเรื่องการประหยัดพลังงาน ย่อมเนื้อหอมอย่างไม่ต้องสงสัย
7.เชฟหรือผู้เตรียมอาหาร ด้วยสภาวะสังคมที่เร่งรีบ และต้องทำงานแข่งกับเวลา ดีมานด์ต่อร้านอาหารจึงเพิ่มขึ้นมาก ส่งผลให้อาชีพพ่อครัว-แม่ครัวเป็นที่ต้องการสูงตามไปด้วย คาดการณ์ว่าอีก 10 ปี อาชีพนี้จะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 ล้านตำแหน่ง แต่อาชีพนี้ก็เผชิญกับปัญหาในเรื่องของการเปลี่ยนงานบ่อย และได้ค่าตอบแทนไม่มาก
8.พนักงานโรงงานไฮเทค โรงงานในสหรัฐส่วนใหญ่มีแนวโน้มลดขนาดลง แต่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งควบคุมโดยคนงานที่มีทักษะเฉพาะทาง บริษัทเหล่านี้จ้างแรงงานลดลง แต่คนที่รับเข้ามานั้นต้องทำได้ทั้งควบคุม ซ่อมแซม และเปลี่ยนเครื่องจักร
9.ฝ่ายรักษาความปลอดภัย นับจากเหตุการณ์โจมตีตึกเวิลด์เทรดในนิวยอร์ก ความหวาดกลัวต่อภัยก่อการร้ายก็พุ่งขึ้นแบบฉุดไม่อยู่ บุคลากรด้านนี้ครอบคลุมตั้งแต่ผู้ติดตามไปจนถึงผู้ควบคุมระบบสอดส่องความ เป็นไปในพื้นที่เป้าหมาย ซึ่งสำนักงานสถิติฯประเมินว่า แค่ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงอย่างเดียว ก็มีแนวโน้มเติบโตถึง 10% ยังไม่รวมผู้ดูแลความปลอดภัยส่วนบุคคล ผู้วางระบบ หรือผู้ประสานงานอื่น ๆ
10.ผู้ประกอบพิธีศพ ไม่น่าเชื่อว่าอาชีพนี้จะขยายตัวถึง 12% ในทศวรรษหน้า และโอกาสยังเปิดกว้าง โดยเฉพาะผู้มีความรู้ด้านการตกแต่งและรักษาสภาพศพ
11.ผู้ประกอบการ ทำไมต้องเสียเวลาตระเวนหางานที่ใช่ โดยที่เราต้องเสียเวลา เสียเงิน เสียความรู้สึกไปโดยเปล่าประโยชน์ครั้งแล้วครั้งเล่า ในเมื่อคุณสามารถจ้างตัวเองทำงาน และสร้างธุรกิจของตัวเองได้ งานฟรีแลนซ์ก็น่าสนใจไม่น้อย เพราะในปัจจุบันสามารถโฆษณาตัวเอง หรือหางานอิสระจากอินเทอร์เน็ตได้ไม่ยาก แต่ด้านลบของอาชีพนี้ คือธุรกิจขนาดเล็ก มีความเสี่ยงที่จะล้มเหลวสูง
12.ที่ปรึกษาด้านอาชีพ แม้ว่าการประกาศรับพนักงานทางอินเทอร์เน็ตจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้องค์กร ต่าง ๆ แต่วิธีการหางานที่ตรงใจ กลับยุ่งยากซับซ้อนขึ้น จนต้องมีคนกลางมาคอยให้คำแนะนำปรึกษา
เล็งงานไหนไว้ ก็รีบฝึกฝนทักษะ และมองหาโอกาสไว้เสมอ ไม่เช่นนั้นอาจเป็นคุณ ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง