สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

ทองที่อ่างทอง

จาก โพสต์ทูเดย์

ก็เพราะวันเข้าพรรษาตรงกับวันจันทร์พอดีที่ทีมผมหยุดทำงานกันพร้อมเพรียง 

เรื่อง / ภาพ สุธน สุขพิศิษฐ์

ก็เพราะวันเข้าพรรษาตรงกับวันจันทร์พอดีที่ทีมผมหยุดทำงานกันพร้อม เพรียง  เลยตั้งใจไปกินอาหารชายทุ่งที่สวรรค์บ้านไร่ที่ อ.นครหลวง พระนครศรีอยุธยา ที่จริงอยากจะไปตั้งแต่วันอาทิตย์แล้ว ติดขัดตรงที่ร้านเขาปิดวันอาทิตย์ เมื่อเป็นวันจันทร์ก็พอดีกะว่าจะไปกินก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกหน้าวัดพนมยงค์มื้อ เที่ยงก่อน แล้วหาที่เที่ยวฆ่าเวลา ไปกินมื้อเย็นที่สวรรค์บ้านไร่

พอ เข้าเขตพระนครศรีอยุธยาเท่านั้นรถติดหนึบ นึกไม่ถึงว่าคนกรุงเทพฯ มีใจตรงกันที่ไปไหว้พระวันเข้าพรรษาที่นั่น นอกจากรถจะไปกันมากแล้วยังมีอุบัติเหตุชนกันหลายคู่ นี่ถ้าไม่คิดมากก็ดีเหมือนได้รู้จักคนใหม่ๆ บนถนน

กว่า จะไปถึงวัดพนมยงค์เอาก็เหงื่อตก พอไปถึงร้านปิดสนิท ตอนนี้เคว้งแล้ว เลยตัดสินใจเดินหน้าหนีรถติด หวังไปกินผัดไทยวัดท้องคุ้งที่อ่างทองเอาดาบหน้า โชคดีเปิดขาย และตอนนี้ขายดีมีคนจากกรุงเทพฯ ไปกินกันเยอะ ก็ดูจากรถกรุงเทพฯ ที่จอดอยู่ ผัดไทยยังรสชาติอร่อยเหมือนเดิม และยังใส่มะเฟืองสับไม่เปลี่ยนแปลง ผัดไทยที่ใส่ผลไม้เปรี้ยวสับนี้เป็นผัดไทยของแท้แต่ดั้งเดิม ผลไม้เปรี้ยวอะไรก็ได้ที่มีออกตามฤดูกาล มะม่วง มะดัน มะเฟือง เอามาใช้ได้ทั้งนั้น ในกรุงเทพฯ ไม่มีทางจะหากินได้ จะมีเจ้าใต้สะพานปทุมธานีอีกเจ้าหนึ่งที่ใส่มะม่วงสับ

สำหรับผัดไทย วัดท้องคุ้งนี้ตอนนี้มีก๋วยเตี๋ยวหมูขายทุกวันด้วย เมื่อก่อนจะขายเฉพาะวันอาทิตย์เท่านั้น ก๋วยเตี๋ยวหมูของเขานั้นอร่อยทั้งอย่างต้มยำและอย่างแห้ง

ไหนๆ ก็ไปนั่นแล้ว ก็วิ่งเรียบริมแม่น้ำไปถึงตัว จ.อ่างทอง ตอนนี้มีเขื่อนกันน้ำท่วมสูงขนาดนั่งบนรถมองไม่เห็นแม่น้ำ อ่างทองระยะหลังก็เจอภาวะน้ำท่วมบ่อย เลยต้องมีเขื่อน เข้ามาวิ่งอยู่ในตัวเมืองดูดีครับ เล็กๆ ไม่ใหญ่ รอบๆ เห็นบ้านเรือนน่าอยู่มีต้นไม้เยอะ

วิ่งวนๆ ท่าไหนก็ไม่รู้ออกไปนอกเมือง ดูไปไกลหน่อย เห็นป้ายริมทางถึงรู้ว่า เข้าเขต อ.โพธิ์ทอง เข้าไปแล้ว ไม่ได้ตกใจแต่กลับดีใจ เรื่องดีที่ว่าคือที่ได้เห็นอำเภอนอกๆ เผอิญน้องในทีมผมเมื่อครั้งเป็นนักเรียนมัธยม เป็นลูกเสือเคยมาเข้าค่ายพักแรมแถวโพธิ์ทอง โดยมาเข้าค่ายที่วัดขุนอินทประมูล ซึ่งมีพระนอนองค์ใหญ่ที่สุดองค์หนึ่ง

ก็ เข้าไปตามทางที่เข้าวัดขุนอินทประมูล บรรยา กาศริมทางน่าดู ท้องทุ่งและต้นไม้หย่อมกลางทุ่งที่มีต้นมะพร้าว ต้นตาล ต้นไผ่สวยดี ยิ่งหน้านี้เขียวสดชื่นสบายตาดี พอเข้าเขตวัดยิ่งแปลกใจว่ารถจอดกันเยอะมาก แสดงว่ามีคนรู้จักกันทั่วถึง มีแต่ผมเท่านั้นที่ไม่รู้เรื่อง

พระนอน องค์ใหญ่นั้นเด่นอยู่บนเนินสูงพอประมาณและร่มด้วยต้นไม้ใหญ่ๆ ผมชอบการจัดแลนด์สเคป โดยเฉพาะตรงวิหารพระนอน เนินที่สูงพอประมาณนั้นก่อขอบอิฐเหมือนให้เป็นกำแพงแก้วเตี้ยๆ เป็นการก่อใหม่แต่ล้อให้เหมือนกำแพงเก่าๆ น่าจะมีซากเก่าเหลืออยู่บ้างก็ก่อทับไป ตรงทางเดินนั้นปูด้วยอิฐก้อนใหญ่เผาแกร่งปูเป็นแนวก้างปลา มีบันไดและทางลาดขึ้นเนินสำหรับคนพิการหรือคนแก่ที่ขึ้นบันไดไม่สะดวก อันนี้ถือว่ามีความปรารถนาดี เพราะศาสนสถานรุ่นโบราณๆ นั้นมีคนหลายวัยที่เข้าไปเที่ยว คนหนุ่มสาวนั้นไม่มีปัญหาการเดินเหินขึ้นบันไดอยู่แล้ว แต่ก็ไม่ลืมคนพิการและคนแก่ด้วย

บริเวณลานองค์พระนอน มีต้นไม้ใหญ่หลายต้น ยิ่งทางด้านหลังองค์พระจะร่มรื่นมาก

ตัว วิหารพระนอนนั้นอาจจะสูงกว่าระดับองค์พระนิดเดียว และเนื่องจากความที่องค์พระยาวมาก จึงมีเสาค้ำหลังคาเยอะเรียงเป็นแถวส่วนใหญ่ แต่หักพังไปเยอะแล้ว จากหลังคาก็เป็นชายคาปีก นกที่ยื่นออกมาและกดลงต่ำพอสมควร ซึ่งดูระดับการกดต่ำจากบัวหัวเสาบางเสาที่ยังเหลืออยู่ ลักษณะแบบนี้เป็นสมัยอยุธยาตอนปลายงามครับ

การจัดแลนด์สเคปบ นวิหารองค์พระนั้นพอดีๆ มีโคมไฟทางเดินพอเพียง เห็นตั้งสปอตไลต์ไว้สำหรับส่ององค์พระในตอนกลางคืนหรือไว้ใช้ในโอกาสสำคัญ ด้วย สำหรับตัวพระอุโบสถก็เป็นเนินเหมือนกัน ตัวพระอุโบสถเป็นแบบมหาอุดคือไม่มีหน้าต่าง มีประตูเข้าออกด้านหน้าประตูเดียว เจดีย์ข้างพระอุโบสถเป็นเจดีย์กึ่งย่อมุมไม้สิบสอง ผมว่าเจดีย์รุ่นนี้สวยอีกแบบครับ สำหรับเครื่องอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว เช่นห้องน้ำก็สร้างกลมกลืนไม่ขัดเขิน และมีต้นไม้บัง แต่ก็มีอีกอย่างที่ผมอยากให้ทำ เป็นศาลาการเปรียญที่อยู่ด้านหน้าซึ่งมีอยู่แล้ว เดี๋ยวนี้หาศาลาการเปรียญใหญ่ๆ อย่างนี้ยาก ผมอยากให้ซ่อม และรื้อผนังออกให้เป็นศาลาโล่ง มีแค่ลูกกรงเหล็กซี่ๆ ก็พอ ทำมุขบันไดขึ้นให้สวยหน่อย เท่านั้นก็โก้แล้ว มีศาลาการเปรียญที่ซ่อมและทำได้สวยคือศาลาการเปรียญที่วัดธรรมิกราช ในตัวเมืองโบราณพระนครศรีอยุธยา แต่ที่ไม่ค่อยชอบในขณะนี้คือไปก่อผนังทึบใต้ถุนศาลาการเปรียญอันนั้นไม่น่า ทำ ถ้าอยากใช้งานก็ไปสร้างอาคารใช้งานที่อื่น ทำผนังทึบผิดรูปผิดแผน

ทั้ง หมดนั่นเป็นเรื่องของตัววัด แต่ที่ผมถูกใจมากที่สุดคือ แผงที่ชาวบ้านเอาผักสดมาขายครับ ชาวบ้านบอกว่าไม่มียาฆ่าแมลง เป็นผักธรรมดาๆ เช่น ดอกแค แตงโมก่อน น้ำเต้า ดอกขจร กระถิน ผักบุ้ง พริกขี้หนู ซึ่งสดจริงๆ ก้านพริกขี้หนูนั้นเพิ่งเด็ดจากต้นมาแท้ๆ แถมถูกอีกต่างหาก ทุกอย่างถุงละ 10 บาทเท่านั้น ซื้อมาก่อนเดี๋ยวก็ได้ใช้เอง

อีกอย่างหนึ่งคือ แผงขายปลาร้าสับผัดพริกสุก มี 2 แผง เป็นปลาร้าสับผัดใส่เครื่องจำพวก ตะไคร้ข่า ผิวมะกรูด หอม กระเทียม พริก ผมชิมของป้าพริ้ง ที่ใส่ถ้วยแล้วมีถั่วพู แตงกวา เป็นเครื่องจิ้มให้ชิมอร่อยจริงๆ ป้าพริ้งมีทั้งอย่างใส่ตลับพลาสติกและใส่ถุงพลาสติก จับดูยังอุ่นๆ อยู่ ป้าบอกเพิ่งทำเสร็จก็เอามาขายนี่แหละ ซื้ออย่างใส่ถุงพลาสติกมาเมื่อวิ่งออกมาจากวัดมาไกลโขแล้ว ก็เจ็บใจที่ซื้อมาน้อยไป น่าจะซื้อมาฝากคนที่รู้จักหรืออย่างน้อยเอาใส่บาตรพระตอนเช้าก็ยังได้ ก็ถุงละ 20 บาท ทั้งพระและคนคงต้องชอบถูกใจ ของไม่ใช่หากินง่ายๆ อีกอย่างที่ผมเห็นว่าสำคัญคือคุณค่าทางฝีมือ คุณป้า คุณยาย ซึ่งทำอาหารมาตลอดชีวิตรู้แจ้งเห็นจริง ยิ่งเป็นอาหารประจำถิ่นก็ยิ่งเชี่ยวชาญ เมื่อคุณป้า คุณยาย ทำขายนั้นกำรี้กำไรน่ะไม่เท่าไหร่ ท่านอยากฝากฝีมือมากกว่า แล้วกะแค่ 20 บาทที่ซื้อมานั้นก็เกินค่ามหาศาล

กลับออกมาวิ่งทางที่จะไปออกถนนสาย เอเชีย เพื่อวิ่งกลับมาที่ อ.นครหลวง ไปกินสวรรค์บ้านไร่ตามแผนที่ตั้งใจไว้ ก่อนที่จะถึงสายเอเชีย ถนนจะวิ่งเลียบกับคลองชลประทาน ตอนนี้น้ำเริ่มเต็มแล้ว ต้นไม้ ไร่นา น่าชมมาก ชาวบ้านชาวช่องเขาก็อยู่กันง่ายๆ เงียบ สงบ รู้สึกที่เห็นในตอนนั้นเชื่อว่าเมืองไทยนี้สุดวิเศษ ยังมีที่น่าอยู่น่ากินอีกเยอะ อยู่ง่ายๆ สนใจเฉพาะของใกล้ๆ ตัวก็มีความสุข มีความสุขกับสีสันของธรรมชาติ เรื่องสีต่างๆ ที่จะฆ่ากันตายในกรุงเทพฯ นั้นช่างแม่ง ไอ้พวกนั้นมันกัดกันแทบเป็นแทบตายเดี๋ยวมันก็กอดคอกัน พวกเราชาวบ้านอย่าไปสนมัน หนักเฮดเปล่าๆ

ออกไปเที่ยวครับ ดูโบราณสถาน กินอาหารพื้นบ้านอร่อย ซื้อของชาวบ้านกลับมากิน ดูเรือกสวน ไร่นาน้ำใสในคลอง สบายใจกว่าเยอะเลย ออกไปเถอะครับ และอย่าลืมไปทั้งครอบครัวครับจะได้สุขถ้วนหน้า

Tags : ทองที่อ่างทอง

view