จาก โพสต์ทูเดย์
หน่วยจัดอันดับมหาวิทยาลัยโลกเมืองผู้ดีเผยผลจัดอันดับพบ จุฬาฯถูกเบียดร่วง42 อันดับจาก 138 มาอยู่ที่ 180 ขณะที่ "เคมบริดจ์" เบียด "ฮาร์วาร์ด" ขึ้นแท่นอันดับ 1
เว็บไซต์ของ "คิวเอส" ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดอันดับมหาวิทยาลัยจาก ประเทศอังกฤษ เปิด เผยผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลก 200 แห่ง ว่า มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งครองแชมป์อันดับ 1 มาตลอดนับตั้งแต่การจัดอันดับเมื่อปี 2547 ถูกมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ จากสหราชอาณาจักร แซงเป็นที่ 1 และเบียดมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดตกไปอยู่อันดับ 2 ขณะที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยของไทยร่วงจากอันดับที่ 138 ปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 180 ในปีนี้และเป็นมหาวิทยาลัยจากไทยเพียงแห่งเดียวที่ติดอันดับในครั้งนี้
สำหรับมหาวิทยาลัยที่ติด 10 อันดับแรก ทั้งหมด เป็นมหาวิทยาลัยในอังกฤษและสหรัฐอเมริกาท ซึ่งอันดับ 3 คือ มหาวิทยาลัยเยล (สหรัฐอเมริกา) อันดับ 4 มหาวิทยาลัยยูซีแอล (สหราชอาณาจักร)อันดับ 5 สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์(สหรัฐอเมริกา) อันดับ 6 มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (สหราชอาณาจักร) อันดับ 7 อิมพีเรียล คอลเลจ ลอนดอน (สหราชอาณาจักร) อันดับ 8 มหาวิทยาลัยชิคาโก(สหรัฐอเมริกา) อันดับ 9 สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย (สหรัฐอเมริกา) และอันดับ10 มหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน (สหรัฐอเมริกา)
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ยังคงเป็นสถาบันการศึกษาที่ติดอันดับมากที่สุดในการจัดอันดับ ติดอันดับถึง 53 มหาวิทยาลัย ส่วนสหราชอาณาจักร ติดอันดับ 30 มหาวิทยาลัย
อย่างไรก็ตาม มหาวิทยาลัยของเอชีย ติดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดเพิ่มมากขึ้นกว่ามหาวิทยาลัยจากชาติตะวันตก โดยมหาวิทยาลัยในเอเชียที่ได้อันดับสูงสุดคือมหาวิทยาลัยฮ่องกง อยู่ที่อันดับที่ 23 และมีอีก 4 แห่งที่ติดอันดับ นอกจากนี้ ยังมีมหาวิทยาลัยจากจีนติดอันดับ 6 แห่ง, ญี่ปุ่น10 แห่ง, เกาหลีใต้ 5 แห่ง (เพิ่มจากปีที่แล้ว1 แห่ง) และสิงคโปร์ 2 แห่ง ส่วนไทยมีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยติดเพียงแห่งเดียว
ทั้งนี้ คิวเอสเป็นเครือข่ายองค์กรด้านการศึกษา ที่จัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดมาหลายปี เช่นเดียวกับ ยูเอส นิวส์ แอนด์ เวิลด์รีพอร์ต แต่การจัดอันดับจะใช้บรรทัดฐานที่ต่างกัน อย่างเช่น หากเป็นการจัดอันดับโดยยูเอสนิวส์ มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันจะอยู่อันดับ 2 แต่ของคิวเอสจะอยู่อันดับ 6 โดยเกณฑ์การตัดสินของคิวเอสจะเป็นการสำรวจเกี่ยวกับ ชื่อเสียงในแวดวงวิชาการ(40%) คณะผู้บริหาร (10%) สัดส่วนของนักศึกษาต่อผู้สอน (20%) จำนวนเจ้าหน้าที่และนักศึกษาต่างชาติ (อย่างละ 5%)และการอ้างอิงถึงผลงานศึกษาวิจัยของคณาจารย์มหาวิทยาลัย (20%)
สำหรับประเทศในอาเซียนที่ติดอันดับนั้น มีเพียงสิงคโปร์และไทยเท่านั้นโดยมหาวิทยาลัยในสิงคโปร์ติด 2 อันดับ คือมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (เอ็นยูเอส)ได้อันดับที่ 31 และมหาวิทยาลัยนันยางเทคโนโลยี (เอ็นทียู) ได้อันดับที่ 74
คลิ๊กชมอันดับมหาวิทยาลัยทั้งหมดได้ที่นี่
http://www.topuniversities.com/university-rankings/world-university-rankings/2010/results