จากประชาชาติธุรกิจ
มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโภชนาการที่น่าตื่นตาตื่นใจหลายเรื่อง เช่นว่า การดื่มเครื่องดื่มมึนเมาเพียงวันละ หนึ่งแก้ว ทำให้ร่างกายต้องสูญเสียวิตามิน บี 1 บี 6 และกรดโฟลิก ! ผู้หญิงที่ดื่มสุราแม้เพียงวันละแก้วจะมีความเสี่ยงต่อมะเร็งลำไส้ใหญ่และ มะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น เพราะแอลกอฮอล์ทำให้กรดโฟลิกถูกดูดซึมได้น้อยลง
ในงานวิจัยเรื่องมะเร็งพบว่า วิตามินซี อี และสารที่มีชื่อว่าอินโดลซึ่งพบในกะหล่ำปลี กะหล่ำดาว และผักในตระกูลกะหล่ำ ล้วนเป็นสารต้านมะเร็งที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ! หัวหอม กระเทียม หัวไช้เท้า และกระเทียมต้น ต่างก็มีสารอัลลิซินที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งสามารถทำลายเชื้อที่ก่อให้เกิดโรค โดยไม่ทำอันตรายต่อเชื้อแบคทีเรียที่ดีภายในร่างกาย หอมใหญ่แบบพันธุ์สีเหลืองและสีแดง องุ่นแดง และบร็อกโคลีมีสารเควอร์ซิทินสูง ซึ่งสารนี้เป็นสารต้านมะเร็งที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียพบว่าช่วยยับยั้ง เซลล์มะเร็งในระยะเริ่มแรก ก่อนที่จะรวมตัวกันเป็น มะเร็งจริง ๆ น้ำมันมะกอกและน้ำมันคาโนลามีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูง จัดเป็นอาหารต้านโรคหัวใจที่ดีที่สุด
การสูบบุหรี่มีผลเสียมากกว่าการที่ผู้สูบจะมีอายุสั้นลงโดยเฉลี่ย 7 ปี ตามที่สมาคมโรคมะเร็งแห่งสหรัฐอเมริการะบุไว้ แต่ต้องบวกเพิ่มอีก 11 ปี เพราะการศึกษาใหม่ ๆ พบว่าอายุขัยโดยเฉลี่ยของผู้ที่สูบบุหรี่ต่างจากผู้ที่ไม่สูบถึง 18 ปี ! การหลีกเลี่ยงกาแฟดำอาจช่วยป้องกันการเป็นมะเร็งหลอดอาหารได้ สารเทนนิน ที่พบในชาและกาแฟเป็นหนึ่งในสารที่อาจก่อให้เกิดมะเร็ง อย่างไรก็ตามโปรตีนจากนมช่วยลดผลของเทนนินได้ โดยการขัดขวางไม่ให้มันถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย
คุณสามารถลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารลงได้ถึงร้อยละ 50 โดยการรับประทานหอมใหญ่ครึ่งหัวทุกวัน จากการศึกษาเป็นเวลาสี่ปีในเนเธอร์แลนด์พบว่าสารอัลลีลิกซัลไฟด์ในหัวหอม ช่วยกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ที่ไปยับยั้งสารก่อมะเร็ง
การรับประทานซอสมะเขือเทศ 2-4 หน่วยบริโภคต่อสัปดาห์ ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากในผู้ชายได้ เพราะมะเขือเทศมีสารต้านอนุมูลอิสระชื่อไลโคปีนปริมาณสูง นี่เป็นบางแง่มุมจากหนังสือ ′วิตามินไบเบิล′ ที่เขียนโดย ดร.เอิร์ล มินเดลล์ แปลโดย พ.ญ.ธิดากานต์ รุจิพัฒนกุล ใครที่รักและห่วงใยสุขภาพไม่ควรพลาดหนังสือเล่มนี้