สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com
Cart รายการสินค้า (0)

คนดีต้องไม่สยบต่อคนชั่ว

จาก โพสต์ทูเดย์

บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อให้กำลังใจแก่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (ศาล รธน.) ทุกท่าน ให้มั่นคง หนักแน่น ต่อการกดดัน ข่มขู่จากคนกลุ่มหนึ่ง ที่ใช้วิธีการสกปรกเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันศาล รธน.

โดย...ภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ

บทความนี้เขียนขึ้นเพื่อให้กำลังใจแก่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ (ศาล รธน.) ทุกท่าน ให้มั่นคง หนักแน่น ต่อการกดดัน ข่มขู่จากคนกลุ่มหนึ่ง ที่ใช้วิธีการสกปรกเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของสถาบันศาล รธน. อย่างน้อยขอให้ถือว่าวิธีการดังกล่าวเป็นการทดสอบจิตใจของตุลาการทุกท่าน บารมีจะเกิดขึ้นก็เมื่อมีมารผจญ ส่วนข้อบกพร่องใดๆ ภายในองค์กรหากมีก็หาทางแก้ไขกันไป

การกระทำของคนกลุ่มนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจ เพราะเป็นเพียงมาตรการหนึ่งภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ต้องการทำลายความน่าเชื่อถือ ของฝ่ายตุลาการซึ่งเหลือเพียงสถาบันเดียวที่เป็นหลักของประเทศ และเป็นสถาบันเดียวที่กลุ่มคนผู้สูญเสียอำนาจไม่สามารถเข้ามามีอิทธิพลชี้ นิ้วสั่งการได้ ตรงกันข้าม สถาบันศาลได้ตัดสินพิพากษาหลายคดีที่ไม่ถูกใจของคนกลุ่มนี้ จึงกล่าวหาว่าศาลมีสองมาตรฐาน และหาทางลดความน่าเชื่อถือของศาลไม่ว่าจะเป็นศาลยุติธรรมหรือศาล รธน.

ในช่วงแรกคนไทยซึ่งชอบฟังเรื่องราวแปลกประหลาด สิ่งลับๆ ล่อๆ และข่าวที่มีลักษณะเปิดโปงก็อาจหลงเชื่อไปกับคลิปบ้าง แต่เมื่อเกิดสติรู้ตัว ปัญญารู้คิด ทบทวนหาเหตุหาผล ก็น่าจะเริ่มตระหนักรู้ว่า อะไรคือความจริงหรือน่าจะเป็นจริง ความจริงเป็นไปตามที่ได้ดูได้เห็นในคลิปหรือไม่ เพราะเรื่องนี้ต้องดูแบบหนังเรื่อง อย่าดูเพียงหนังแผ่น

หลายคนคงเคยได้ยินคำพูดที่ว่า “หากซื้อไม่ได้ก็ทำลายเสีย” ที่นักการเมืองบางคนเชื่อมั่นในพลังอำนาจของเงินว่าสามารถซื้อคนทุกคนได้ แม้แต่ตุลาการศาล รธน. ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่กองอยู่ตรงหน้า และเขาเคยทำสำเร็จมาแล้ว แต่หากเป้าหมายยังไม่ยอมสงบต่ออำนาจเงินของเขา เขาก็ต้องทำลาย

เกมนี้ทำอย่างเป็นขบวนการ มีผู้จ้างวาน คนวางแผน และผู้ปฏิบัติการ มีการซื้อคนใกล้ชิดเป้าหมายได้ เหมือนกับที่เคยทำสำเร็จมาแล้วกับกรณีของประธาน สตง. คนคนนี้นอกจากทำตัว|เป็นสายลับคอยรายงานข่าว และเป็นตัวกลางในการติดต่อเสนอค่าตัวแล้ว เมื่อไม่สำเร็จ ก็จำเป็นต้องใช้มาตรการสุดท้ายที่พวกเขาคิดว่าจะสามารถทำลายความน่าเชื่อถือ ของสถาบันศาล รธน.ได้ เพราะค่าจ้างน่าจะมีจำนวนมากพอจนใครคนนั้นพร้อมที่จะฮาราคีรีตัวเองและหนี คุกไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างประเทศได้อย่างสบาย

วิธีการแอบดักฟังการสนทนากับคู่สนทนาหรือการแอบถ่ายระหว่างการพบปะกัน ไม่ใช่เรื่องยากเลยในยุคปัจจุบันที่เครื่องมือเทคนิคเหล่านี้หาซื้อได้ไม่ ยากนัก ไมโครโฟนดักฟังและกล้องถ่ายรูปขนาดจิ๋วที่ซ่อนไว้ในอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ปากกา นาฬิกากระดุมเสื้อ โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าถือ ฯลฯ หรือเครื่องดักฟังโทรศัพท์ กล้องวิดีโอที่มีเลนส์ที่เป็นเครื่องส่ง แยกจากตัวกล้องซึ่งเป็นเครื่องรับ มีขายมากมาย โดยเฉพาะในฮ่องกง จะเอาแบบไหนก็ได้ คนใช้ก็ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางเทคนิคเป็นพิเศษ

หากคนที่ดำเนินการสามารถควบคุมพื้นที่ได้ ก็ยิ่งเป็นการง่ายในการอัดเสียงการสนทนา บันทึกวิดีโอการพบปะ การจัดฉาก การนำการสนทนาให้เข้าสู่เป้าหมายที่ตนต้องการ ฯลฯ จากนั้นก็ตัดต่อคลิปเอาเฉพาะภาพและข้อมูลที่ตนต้องการที่อาจต้องใช้ผู้ เชี่ยวชาญการตัดต่อเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดดังที่เคยทำคลิปคำพูดนายก รัฐมนตรีมาแล้วและถูกสังคมจับได้เพราะตัดต่อไม่เนียน

จากนั้นขบวนการก็วางแผนถึงจังหวะเวลาที่จะปล่อยคลิปเพื่อให้เกิดผลกระทบ มากที่สุด วิธีการทำก็ใช้การปล่อยข่าวมาก่อน ดังจะเห็นได้ว่ามีนักการเมืองฝ่ายค้านบางคนโหมโรงออกมาก่อนในทำนองข่มขู่ ตุลาการศาล รธน.ให้ตัดสินใจเป็นครั้งสุดท้ายว่าจะร่วมมือในการตัดสินคดีความให้เป็นไป ตามที่พวกตนต้องการหรือไม่ หากไม่ร่วมมือก็ใช้วิธีเปิดเผยคลิปดังกล่าว
การ เอาไปปล่อยในต่างประเทศผ่านยูทูบเสียก่อนแล้วค่อยดึงออกมาทีหลัง เพื่อปกปิดแหล่งที่มา เป็นวิธีการแบบเด็กๆ แต่เจ้าหน้าที่ก็สามารถสืบหาต้นตอได้ว่าทำมาจากฮ่องกง ในขณะที่ผู้ต้องสงสัยเดินทางไปฮ่องกงก่อนมีการเผยแพร่คลิปนี้ผ่านสื่อ อิเล็กทรอนิกส์

หลักพิจารณาว่าสิ่งที่ปล่อยออกมานั้น “น่าจะเป็นความจริง” หรือไม่ ประชาชนควรพิจารณาสองส่วน ส่วนหนึ่งคือ คนที่ทำคลิปและปล่อยคลิปน่าเชื่อถือหรือไม่ กับเนื้อหาของคลิปน่าจะเป็นความจริงหรือไม่ ในคลิปชุดแรกที่มีห้าตอนนั้น เพียงดูตอนที่หนึ่งที่เอาภาพของประธานองคมนตรีกับประธานศาล รธน. ในโอกาสอื่นมาแสดงเพื่อให้คนดูเข้าใจผิด เท่ากับเริ่มต้นก็หลอกคนดูแล้ว

หากจะดู “ความน่าเชื่อถือ” ของคนที่ปล่อยคลิปออกมาก็ต้องไปถามเจ้าหน้าที่ในศาล รธน. ซึ่งรู้ประวัติพฤติกรรมของผู้ต้องสงสัยคนนี้ดี นอกจากนั้นคนที่ต้องสงสัยหนีไปกบดานอยู่ต่างประเทศ ยิ่งมีพิรุธมากขึ้นไป

ขบวนการที่ทำคลิปครั้งนี้น่าจะเป็นขบวนการเดียวกับที่เคยทำคลิปตัดต่อ เสียงนายกรัฐมนตรีเพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่า นายกรัฐมนตรีสั่งให้ฆ่าประชาชน เมื่อประชาชนรู้เช่นนี้แล้ว ก็ย่อมตอบตัวเองได้ว่าควรให้ความเชื่อถือแก่คลิปนี้มากน้อยเพียงใด

สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ได้คำตอบสองประการ คือ (1) ตุลาการศาล รธน.ชุดนี้ซื้อไม่ได้ เพราะถ้าซื้อได้ คลิปพวกนี้ก็คงไม่ออกมา (2) มี “หนอนบ่อนไส้” ในศาล รธน. ศาลควรถือโอกาสนี้ปัดกวาดบ้านของตัวเองเสียเลย แต่ตุลาการทุกท่านไม่จำเป็นต้องลาออกมิฉะนั้นจะเข้าทางของขบวนการตรงกันข้าม

การที่ศาล รธน.ใช้กระบวนการของศาลยุติธรรมในการฟ้องร้อง กล่าวหาคนที่เผยแพร่คลิปในข้อหาดูหมิ่น หมิ่นประมาท ข่มขู่ศาล เปิดเผยความลับทางราชการนั้นเป็นสิ่งที่เหมาะสมแล้ว เพื่อเป็นเวทีในการ “แสดงความจริงให้ปรากฏ” แก่ประชาชน คนดีต้องไม่ยอมสยบต่อคนชั่ว สังคมต้องช่วยปกป้องคนดี และอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล

Tags : คนดี ไม่สยบ คนชั่ว

view