ธปท.คลอดเกณฑ์คุมเข้มปล่อยกู้ที่อยู่อาศัย บีบกลุ่มซื้อคอนโดฯวางดาวน์เพิ่ม บังคับใช้ 1ม.ค. 54

จากประชาชาติธุรกิจ

แบงก์ชาติออกมาตรการสกัด ฟองสบู่อสังหาฯ ประเดิมคลอดเกณฑ์คุมสินเชื่อบ้าน-คอนโดฯ ระดับราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาทนำร่อง เริ่ม1ม.ค.54 บีบเพิ่มวางเงินดาวน์กลุ่มซื้อคอนโด วงการชี้กระทบกลุ่มเริ่มทำงาน-หนุ่มสาวออฟฟิศ ขณะที่ข้าราชการ พนง.รัฐวิสาหกิจไม่ต้องเข้าเกณฑ์ เหตุหน้าที่การงานมั่นคง ความเสี่ยงต่ำ

นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการ สายเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ได้ปรับเกณฑ์น้ำหนักความเสี่ยงในการคำนวณเงินกองทุนของธนาคารพาณิชย์ สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย ที่ปัจจุบันไม่ว่าจะให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (Loan to Value : LTV ratio) ที่ระดับเท่าไรจะใช้น้ำหนักความเสี่ยงเท่ากันหมด คือ 35% แต่หลักเกณฑ์ใหม่ คือในกรณีสินเชื่อที่อยู่อาศัยราคาเกิน 10 ล้านบาท ถ้าปล่อยกู้ LTV ไม่เกิน 80% ให้คงน้ำหนักความเสี่ยงเท่าเดิม 35% แต่ถ้าปล่อยกู้ LTV มากกว่า 80% จะต้องคำนวณน้ำหนักความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็น 75% นั่นคือต้นทุนของธนาคารจะเพิ่มขึ้น  
นอกจากนี้ ในกรณีสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยต่ำกว่า 10 ล้านบาท จะแบ่งเป็นคอนโดมิเนียม หรือแนวสูง โดยหากปล่อยกู้ LTV ไม่เกิน 90% หรือมีเงินดาวน์ 10% ของราคาซื้อขายจริง จะให้คำนวณน้ำหนักความเสี่ยง  35% แต่ถ้าปล่อยกู้ LTV มากกว่า 90% หรือมีเงินดาวน์น้อยกว่า 10% จะต้องคำนวณน้ำหนักความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเป็น 75% โดยจะมีผลใช้เฉพาะสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำตั้งแต่ 1 ม.ค. 2554
  สำหรับกรณีปล่อยกู้บ้าน ทาวน์เฮาส์ หรือแนวราบ ถ้าปล่อยกู้ LTV ไม่เกิน 95% หรือมีเงินดาวน์ 5% ให้คำนวณน้ำหนักความเสี่ยง 35% แต่ถ้าปล่อยกู้ LTV ต่ำกว่า 95% หรือมีเงินดาวน์ไม่ถึง 5% จะต้องคำนวณน้ำหนักความเสี่ยง 75% ในส่วนนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2555
  ทั้งนี้ จะยกเว้นไม่ต้องคำนวณน้ำหนักความเสี่ยงสำหรับกรณีปล่อยกู้คอนโดฯและที่อยู่ ศัยที่มูลค่าต่ำกว่า 10 ล้านบาท ให้กับข้าราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ เพราะมีการหักเงินเดือน มีความมั่นคงของตำแหน่งหน้าที่การงาน ความเสี่ยงจึงต่ำกว่า
  นายเกริกกล่าวว่า ธปท.ไม่ได้แก้ไขหลักเกณฑ์เรื่อง LTV สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นไปตามภาวะตลาดที่มีการปล่อยกู้ LTV ในระดับ 90% และ 95% สำหรับคอนโดฯและบ้านอยู่แล้ว ที่สำคัญ ธปท.เห็นตรงกับผู้ประกอบการ คือในปัจจุบันยังไม่มีภาวะฟองสบู่ทั้งด้านดีมานด์และซัพพลาย แต่เป็นมาตรการที่ออกมาเพื่อป้องกัน ไม่ใช่เพื่อแก้ปัญหา โดยเหตุผลที่ทำ เพราะช่วง 4 ไตรมาสที่ผ่านมา เริ่มเห็นธนาคารพาณิชย์แข่งขันปล่อยสินเชื่อบ้านเพิ่มสูงขึ้น โดยมีการลด แลก แจก แถม ปล่อยกู้ LTV ต่ำกว่า 90% เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3 ปีี52 มีสัดส่วน 26% ของสินเชื่อที่อยู่อาศัย ได้ปรับเพิ่มเป็น 30% ในไตรมาส 2 ปีนี้
  "มาตรการที่ทำ เพื่อป้องกันปัญหา ซึ่งจะทำให้ธนาคารพาณิชย์มีความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย มากขึ้น เพราะจะมีต้นทุนเพิ่มขึ้น หากปล่อย LTV ต่ำเกินไป และสิ่งที่ทำ เปรียบเสมือนการฉีดวัคซีน คือในยามปกติควรจะฉีดยาไว้เล็กน้อย ก็ไม่เสียหายอะไร ถ้าไปฉีดยาตอนไม่สบาย หรือมีปัญหาแล้วออกมาตรการ ตลาดอาจพังได้ เหมือนกรณีซับไพรม" นายเกริกกล่าว   ทั้งนี้ ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2553 สินเชื่อคอนโดฯขยายตัว 44% ขณะที่สินเชื่อบ้านขยายตัวกว่า 10%   ด้านนางสาวพิกุล เกตุงาม ผู้จัดการผลิตภัณฑ์สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวไม่น่าจะมีผลกระทบกับลูกค้าที่ขอสินเชื่อบ้านเดี่ยว เนื่องจากปัจจุบันมีการขอกู้และอนุมัติในวงเงินประมาณ 95% อยู่แล้ว แต่สำหรับลูกค้าสินเชื่อคอนโดมิเนียมอาจจะมีผลกระทบมากกว่า โดยเฉพาะในตลาดระดับกลางที่มูลค่าคอนโดมิเนียมไม่เกิน 3 ล้านบาท จำเป็นที่จะต้องมีเงินดาวน์ รวมถึงเงินตกแต่ง ซึ่งเป็นเงินก้อนแรกสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มที่เพิ่งเริ่มทำงานจะยิ่งมีบ้านหลังแรกได้ช้าลง แต่จะเป็นโอกาสให้กับผู้ที่มีเงินทุนเพื่อการปล่อยเช่าเพิ่มมากขึ้น  

ธปท.คลอดเกณฑ์คุมอสังหาฯ

จาก โพสต์ทูเดย์

ธปท.ออกมาตรการคุมสินเชื่ออสังหาทรัพย์ราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท ให้ธนาคารปล่อยกู้ซื้อคอนโดได้ไม่เกิน 90 บ้านได้ไม่เกิน 95% เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจสูงขึ้น

นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) แถลงว่า คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนส.)เห็นชอบให้ธปท.ออกมาตรการดูแลการปล่อยกู้ สำหรับซื้อที่อยู่อาศัยที่มีราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท จากเดิมที่ไม่เคยกำหนดปล่อยให้ธนาคารพิจารณาไปตามความเหมาะสม โดยกำหนดสัดส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (LTV) กรณีที่ซื้อที่อยู่อาศัยแนวสูง เช่น คอนโดมิเนียม ให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ได้ไม่เกิน 90% ของราคาหลักประกัน ซึ่งผู้กู้ต้องมีเงินดาวส์ของตัวเองไม่ต่ำกว่า 10% เริ่มบังคับใช้กับสัญญาซื้อขายที่ทำตั้งแต่ 1ม.ค.ปีหน้าเป็นต้นไป ยกเว้นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ เพราะลูกค้ากลุ่มนี้มีความเสี่ยงต่ำ

สำหรับ ที่อยู่อาศัยแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ ให้ธนาคารปล่อยกู้ได้ไม่เกิน 95% ของราคาหลักประกัน ฉะนั้น ผู้กู้ต้องมีเงินดาวส์ของตัวเองอย่างน้อย 5% เริ่มมีผลบังคับใช้กับสัญญาซื้อขายที่ทำตั้งแต่ 1ม.ค.ปี 2555 เป็นต้นไป ซึ่งเกณฑ์นี้ยกเว้นใช้กับบ้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจเช่นกัน

“ขอยืนยันว่ามาตรการที่อกมาไม่ใช่เพราะธปท.เห็นปัญหาฟองสบู่ แต่ออกมาเพื่อป้องปรามหรือป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะสูงขึ้นในอนาคตเท่านั้น ซึ่งธนาคารใดจะไม่ทำตามเกณฑ์นี้ก็ไม่ได้กระทบมาก อยากปล่อยกู้เกินสัดส่วนที่เรากำหนดเกณฑ์ก็ได้ แต่ต้องใช้เงินกองทุนมากขึ้นต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง ซึ่งเกณฑ์ที่ออกไปเชื่อว่าจะกระทบไม่มาก เพราะเป็นเกณฑ์ที่สอดคล้องกับตลาดปฎิบัติกันตามปกติอยู่แล้ว” นายเกริกกล่าว

ธปท.คลอดเกณฑ์คุมเข้มสินเชื่ออสังหาฯแล้ว!

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ธปท.ออกเกณฑ์คุมสินเชื่อที่อยู่อาศัย! แม้ยังไม่เห็นสัญญาณฟองสบู่ กำหนด LTVคอนโด 90% มีผล 1 ม.ค.54 LTV ที่อยู่แนวราบ95%มีผล 1 ม.ค.55
ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการกำหนดอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน (Loan to Value:LTV ratio) สำหรับการให้สินเชื่อหรือให้เงินกู้ยืมเพื่อการจัดหาที่อยู่อาศัยที่มีราคา ซื้อขายต่ำกว่า 10 ล้านบาทลงมา

สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยแนวสูง หรือ คอนโดมิเนียม กำหนด LTV ที่ 90% ซึ่งมีผลใช้เฉพาะสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำตั้งแต่ 1 ม.ค.54 ส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์เฮ้าส์ กำหนด LTV ที่  95% มีผลใช้เฉพาะสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำตั้งแต่ 1 ม.ค.55 ยกเว้นข้าราชการหรือพนักงานรัฐวิสาหกิจ เพราะมีการหักเงินเดือนและมีความมั่นคงของตำแหน่งหน้าที่การงาน ความเสี่ยงจึงต่ำกว่า

อย่างไรก็ตาม มาตรการดังกล่าวไม่ได้หมายความว่าจะห้ามปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยเกิน ระดับดังกล่าว แต่หากธนาคารพาณิชข์ปล่อยสินเชื่อเกินระดับที่กำหนด ก็จะต้องมีเงินกองทุนรองรับเพิ่มขึ้น

นายเกริก วณิกกุล รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า มาตรการคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ที่ออกมาเพื่อป้องกันความเสี่ยงทีอาจจะ เกิดขึ้นในอนาคต ไม่ได้หมายความว่าเห็นสัญญาณฟองสบุ่แล้ว

"เป็นมาตรการที่ออกมาต่อเนื่อง เพราะจากภาวะเศรษฐกิจดี การค้าขายดี ดังนั้นเราจะไม่ฉีดวัคซีนกับคนที่ป่วยอยุ่แล้ว ไม่ได้บังคับให้วิ่งเมื่อตอนป่วย ให้วิ่งตอนนี้เพื่อสุขภาพของเขา"

ทั้งนี้ ข้อมูลที่หารือกับ 3 สมาคมอสังหาริมทรัพย์ ได้แก่ สมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย และสมาคมอาคารชุดไทย ตั้งแต่ต้นปี-ก.ย.53 ยังไม่เห็นสัญญาณฟองสบู่ ซึ่งตรงกันกับข้อมูลของ ธปท.

สกัดจุดอสังหาฯ

จาก โพสต์ทูเดย์

ธนาคารขานรับแผนสกัดฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์ เริ่มเขี้ยวปล่อยกู้ทั้งโครงการคนซื้อบ้าน

นายศรัณย์ทร ชุติมา รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์น่าจะเกิดขึ้นในบางส่วนไม่ใช่ทั้งหมด เช่น คอนโดมิเนียมที่มีการสร้างกันมากตามแนวรถไฟฟ้า อาจจะมากเกินความต้องการของคนซื้อ แถมมีการปั่นราคาขึ้นไปมาก

หากมีฟองสบู่เกิดขึ้นในคอนโดมิเนียม ธนาคารมีแผนรองรับโดยก่อนปล่อยกู้จะพิจารณาโครงการอย่างละเอียดว่าผู้ประกอบ การรายใดทำ และปล่อยกู้ก็จะปล่อยยกทั้งโครงการรวมไปถึงให้ลูกค้าที่มาซื้อกู้ด้วยทั้ง หมด เพราะกรณีกลายเป็นหนี้เสีย ธนาคารสามารถยึดมาบริหารเองได้ เช่น ปล่อยเช่า หรือขายออก

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การป้องกันฟองสบู่ที่ดีที่สุดคือการพิจารณาคุณภาพลูกค้าแต่ละรายอย่างดีที่ สุด ต้องพิจารณาคุณภาพการผ่อนชำระ รวมทั้งพิจารณาหลักประกัน นั่นคือคุณภาพของคอนโดมิเนียม หากเป็นโครงการที่ดีราคาสินทรัพย์ก็จะไม่ตก เมื่อลูกค้าผ่อนไม่ไหวก็ขายเองได้ หรือถ้าธนาคารยึดมา ก็ยังขายได้ในราคาที่ดี

นายพงศธร สิริโยธิน รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังมีการเติบโตตามความต้องการของลูกค้า แต่ธนาคารจะให้กู้อย่างระมัดระวัง ดูว่าเป็นโครงการของใคร ก่อสร้างที่ไหน ลูกค้าเป็นใคร มีความต้องการจริงหรือไม่

“ธนาคารจะระวังการให้กู้คอนโดมิเนียมและบ้านราคา 3-6 ล้านบาท” นายพงศธร กล่าว

ด้านนายทินกร บุณยกะลิน ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ผู้บริหารฝ่าย ฝ่ายผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ปัจจุบันลูกค้าที่ซื้อคอนโดมิเนียมด้วยเงินสดมีจำนวนมาก บางโครงการลูกค้าซื้อด้วยเงินสดถึง 40% ส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากดอกเบี้ยต่ำ.

คลังพร้อมรับคำร้องอสังหาถูกคุมสินเชื่อ

จาก โพสต์ทูเดย์

กรณ์ เผย คลังพร้อมรับคำร้องอสังหาถูกคุมสินเชื่อ

นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า พร้อมรับข้อมูลของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพ์มาพิจารณา หากมีพื้นฐานและเหตุผลแต่ต่างจากข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีใช้ในการออกมาตรการกำกับสินเชื่อให้กับประชาชนไปซื้ออสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้ชี้แจงกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ไปก่อนหน้านี้แล้วว่า หากมีข้อมูลอะไรก็ควรแลกเปลี่ยนกับ ธปท.

นายกรณ์ กล่าวว่า การออกมาตรการคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ เป็นหน้าที่ของ ธปท. ที่จะต้องดูแลภาพรวมของเศรษฐกิจให้มีเสถียรภาพ