จาก โพสต์ทูเดย์
ผู้ ชุมนุมส่วนใหญ่คงไม่รู้ว่ามีกองกำลังติดอาวุธแฝงตัวอยู่ ที่คนเหล่านี้พร้อมที่จะใช้ความรุนแรงได้ทุกเมื่อ แต่แกนนำน่าจะรู้ กองกำลังที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมและใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่...
โดย...ภุมรัตน์ ทักษาดิพงษ์ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ซึ่งได้รับมอบหมายให้สอบสวนหาข้อเท็จจริงในคดี 89 ศพที่เสียชีวิตระหว่างการชุมนุมและการจลาจลช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค. 2553 ได้แถลงผลการสอบสวนส่วนหนึ่งของคดีจำนวน 18 รายก่อน และจะทยอยแถลงผลการสอบสวนออกมาเป็นระยะจนกว่าจะครบ 89 ราย เพื่อให้ประชาชนได้รู้ข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร
ก่อนที่จะพูดถึง 89 ทหาร ตำรวจและพลเรือนที่เสียชีวิต และมีคนบาดเจ็บอีกหลายร้อยคน ต้องย้อนกลับไปถึงเหตุการณ์ช่วงเดือน เม.ย.–พ.ค. 2553 ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการชุมนุมดังกล่าวจนนำไปสู่การสูญเสียดังกล่าว ที่ต้องแยกแยะประเด็นให้ดีๆ มิฉะนั้นจะทำให้เกิดความสับสน
การชุมนุมทางการเมืองโดยสันติ ปราศจากความรุนแรงและปราศจากอาวุธเป็นการใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญ หากผิดกฎหมายก็คงผิดเรื่องการกีดขวางการจราจร หากพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยามคนอื่นก็โดนคดีหมิ่นประมาท หากฉวยโอกาสเข้าไปขโมยของจากห้างสรรพสินค้าที่โดนไฟไหม้ ก็เจอข้อหาปล้นทรัพย์ แต่ถ้าไปร่วมมือในการเผาห้างสรรพสินค้าหรือศาลากลางจังหวัด ก็โดนข้อหาวางเพลิง ส่วนคนที่มาชุมนุมโดยสันติไม่ว่าเต็มใจมา เพราะความเชื่อทางการเมือง หรือมาเพราะได้รับค่าจ้าง หรือถูกหลอกมา ฯลฯ โดยชุมนุมอย่างสงบสันติ ไม่ได้ใช้ความรุนแรง ก็ถูกปล่อยตัวไป
ผู้ชุมนุมส่วนใหญ่คงไม่รู้ว่ามีกองกำลัง ติดอาวุธแฝงตัวอยู่ ที่คนเหล่านี้พร้อมที่จะใช้ความรุนแรงได้ทุกเมื่อ แต่แกนนำน่าจะรู้ กองกำลังที่แฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมและใช้อาวุธทำร้ายเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และประชาชนจนบาดเจ็บล้มตายคนพวกนี้ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
ที่สี่แยกคอกวัว เมื่อทหาร 5 นายที่ถูกคนชุดดำแฝงตัวอยู่ในกลุ่มผู้ชุมนุมที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยยิงตาย และมีทหารอีกนับร้อยคนได้รับบาดเจ็บนั้น เป็นเพราะทหารใช้แต่กระสุนยาง ส่วนพวกที่มีกระสุนปืนอยู่แนวหลังนั้นได้รับคำสั่งให้ยิงขึ้นฟ้า หากทหารยิงประชาชนก็คงจะมีผู้ชุมนุมตายและบาดเจ็บหลายสิบหรือเป็นร้อยคน เช่นเดียวกัน เมื่อทหารค่อยๆ กระชับพื้นที่ตั้งแต่แยกสวนลุมพินีเป็นต้นไป จนถึงราชประสงค์ หากทหารยิงประชาชน ประชาชนจะบาดเจ็บล้มตายนับร้อยคน
ที่สำคัญคือ ไม่มีเหตุผลและความจำเป็นใดเลยที่ทหารจะยิงประชาชนที่มาชุมนุม เพราะรู้อยู่แล้วว่า นี่คือหลุมพรางที่ฝ่ายตรงข้ามได้ดักไว้ ทหารแต่ละนายได้รับคำสั่งห้ามยิงประชาชนอย่างเด็ดขาด ส่วนการยิงมือปืนของฝ่ายตรงข้ามที่ใช้ปืนติดกล้องมีอานุภาพสูงที่ยิงทหาร เสียชีวิตและบาดเจ็บไปหลายนายนั้นเป็นการป้องกันตัว
ตรงกันข้ามกับกองกำลังติดอาวุธเถื่อน ที่ได้ใช้อาวุธสงครามทำร้ายประชาชนอย่างเลือดเย็นเช่น การใช้ปืนเอ็ม 79 ยิงลูกระเบิดใส่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ตามที่ต่างๆ อาทิ ที่สีลม แยกสวนลุมพินี เป็นต้นทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก
ผู้ชุมนุมที่บริสุทธิ์บางคนตกเป็นเหยื่อของความรุนแรง เพราะกลุ่มผู้ถืออาวุธต้องการให้เกิดการบาดเจ็บล้มตาย โดยเฉพาะประชาชน ผู้สื่อข่าว แพทย์ พยาบาล หากทหารไม่ยิงประชาชนตาย พวกเขาก็ต้องทำเอง เพื่อให้เป็นไปตามพล็อตเรื่องที่วางไว้ว่า ทหารฆ่าประชาชน อภิสิทธิ์มือเปื้อนเลือด และใช้กระแสโลกกดดันให้รัฐบาลลาออก เกมครั้งนี้เป็นการทุ่มสุดตัว
โดยหลักการที่ยอมรับเป็นสากล เจ้าหน้าที่รัฐเท่านั้นที่ผูกขาดการใช้อาวุธเพื่อรักษาความสงบและความมั่นคง ของชาติประชาชนทั่วไปไม่มีสิทธิใช้อาวุธในการทำร้ายคนอื่น อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการใช้อาวุธ แต่ไม่ได้หมายถึงว่าจะถือปืนไปยิงใครได้ตามใจชอบ แต่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนด และตาม “กฎแห่งการปะทะ” โดยเริ่มจากเบาไปหาหนัก เป็นขั้นตอน และอย่างเปิดเผย ในกรณีนี้ ทหารได้ปฏิบัติตามกฎแห่งการปะทะทุกขั้นตอน โดยประกาศซ้ำแล้วซ้ำอีก นอกจากให้ฝ่ายตรงข้ามได้เข้าใจยังต้องการให้ประชาชนเข้าใจด้วย และเปิดโอกาสให้ผู้ชุมนุมที่บริสุทธิ์แยกตัวออกจากกลุ่มก่อการร้ายเพื่อลด ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายให้น้อยที่สุด ด้วยเหตุนี้ทหารไม่เพียงปฏิบัติ “ถูกต้องตามกฎหมาย” เท่านั้น แต่ยังมี “ความชอบธรรม” ในการปฏิบัติการด้วย ในขณะที่กองกำลังเถื่อนนอกจากเป็นกองกำลังผิดกฎหมายแล้ว ยังไม่มี ความชอบธรรมแต่อย่างใด
ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ประการหนึ่ง คือ การเข้าควบคุมสถานการณ์รุนแรงเช่นนี้ ต้องมีการสูญเสียบ้างทั้งสองฝ่าย รวมทั้งอาจพลาดพลั้งไปสู่พลเรือนที่มาชุมนุม เนื่องจากผู้ก่อการร้ายใช้ผู้ชุมนุมเป็นเครื่องกำบังในการทำร้ายทหาร ขณะที่ทหารต้องป้องกันตัวเองและต้องเข้ายึดพื้นที่ แม้ทหารพยายามระมัดระวังรอบคอบเพียงใดก็อาจพลาดพลั้งไปถูกพลเรือนที่ถูกใช้ เป็นเครื่องกำบังบ้าง ซึ่งกฎหมายได้ให้การปกป้องคุ้มกันไว้แล้ว ทั้งนี้หากสังเกตดูการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ในประเทศต่างๆ ที่เข้าระงับเหตุจลาจลและก่อการร้ายมีการสูญเสียมากกว่าเมืองไทยด้วยซ้ำ
