ผู้จัดการออนไลน์ วันพุธที่ 20 สิงหาคม พ.ศ.2551
"ในหลวง" พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่ผู้ว่าฯ ธปท.และคณะที่เข้าเฝ้าฯ ทรงขอให้บริหารเงินไม่ให้หมดประเทศ ทรงขอบใจที่เหน็ดเหนื่อยเรื่องการเงิน ซึ่งเป็นงานหนัก และสามารถปฏิบัติงานด้านการเงินเป็นที่เรียบร้อย ไม่ให้บ้านเมืองล่มจม แม้ตอนนี้ใกล้ล่มจมแล้ว ซึ่งอาจเพราะใช้เงินไม่ระวัง
เมื่อเวลา 17.31 น.วันที่ 20 สิงหาคม 2551 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการบริหารสมาคมธนาคารไทย เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน ซึ่งเป็นรายได้ส่วนเกินจากการเปิดให้ประชาชนแลกซื้อธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ชนิดราคา 16 บาท ในราคาแลกซื้อ 100 บาท เพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่คณะที่เข้าเฝ้าฯ ความว่า "ขอขอบใจที่ท่านได้ทำงานอย่างเข้มแข็ง ได้ทำงานมากในงานของการธนาคาร ขอให้งานธนาคารที่ท่านทำเป็นผลดีสำเร็จ แต่ก่อนเงิน 10 บาท ก็รู้สึกว่าเป็นเงินมาก เดี๋ยวนี้ สิบบาทร้อยบาทพันบาท หรือหมื่นบาทก็ยังน้อย ทำไมมันน้อย แม้ล้านบาทก็ยังน้อย
เมื่อครั้งไปขอเงินสมเด็จพระพันวษา ขอเงิน 1 บาท ท่านให้ พอกำแหงหน่อยขอ 5 บาท ก็ยังให้ ต่อมาขอท่าน 10 บาท ก็ยังให้ แต่มาถึง 50 บาท ท่านบอกไม่มี ถามว่า งั้น 100 บาทมีไหม ท่านบอกว่า มี แต่ต้องตัดบัญชีที่มีอยู่ อยากใช้เท่าไรก็ได้
ท่านสอนว่าเราไม่ควรจะถลุงเงิน แม้ 100 บาท ท่านไม่ให้ แต่วันนี้เป็นพันบาทหมื่นบาทแสนบาทล้านบาทท่านก็ให้ ร้อยล้านท่านก็ให้ สมัยนี้เปลี่ยนไป แต่ก่อน 100 บาท ท่านไม่ให้ แต่สมัยนี้ ร้อยพันหมื่นแสนท่านก็เอามาให้ ต้องขอบใจท่านที่มีน้ำใจ เพราะว่าสมเด็จย่าท่านบอกว่า ถ้าให้ก็หมด หมดก็ไม่ให้แล้ว ตอนนี้ท่านให้มาเป็นจำนวนมาก หวังว่าท่านบริหารได้พันล้านหมื่นล้าน ขอให้ท่านทั้งหลายบริหารเงินไม่ให้หมด เพื่อให้ประเทศชาติมีเงินใช้ ขอขอบคุณที่มีความตั้งใจบริหารเงินของชาติไม่ให้หมดไป ให้มีใช้
ขอบใจที่เหน็ดเหนื่อยเรื่องการเงิน ซึ่งเป็นงานหนัก และสามารถปฏิบัติงานด้านการเงินเป็นที่เรียบร้อยไม่ให้บ้านเมืองล่มจม แม้ตอนนี้ใกล้ล่มจมแล้ว ซึ่งอาจใช้เงินไม่ระวัง เพราะใช้เงินไม่ระวัง
ขอบใจที่ท่านระวังเรื่องการดำเนินด้านการเงิน ขอให้สำเร็จใจการบริหารการเงินของประเทศชาติ ขอบใจท่านที่เหน็ดเหนื่อยเรื่องการเงิน เรารู้ว่าท่านเหน็ดเหนื่อย ลำบากใจ นอกจากเหน็ดเหนื่อยแล้วยังถูกหาว่าทำไม่ได้ดี ทำไม่ถูกต้อง ขอบใจทุกคนที่มาในวันนี้ และยังทำงานอย่างเข้มแข็ง เพื่อให้บ้านเมืองมีเงินใช้ ใครที่บริหารการคลังควรรู้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญของชาติบ้านเมือง
ขอบทุกท่านที่ปฏิบัติงานเพื่อความสำเร็จของชาติบ้านเมือง ขอให้มีความสุขในการงานขอให้สำเร็จ"
"ในหลวง" บอก "ธปท." ดูแลให้ดี "ใกล้ล่มจม" "เพราะการใช้เงินไม่ระวัง"
มติชนรายวัน วันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 11121
ทรงรู้ว่าเหนื่อย-ลำบากใจ ถูกว่าทำไม่ดี-ไม่ถูกต้อง ให้ทำงานอย่างเข้มแข็ง
"ในหลวง" ขอบใจผู้บริหารแบงก์ชาติให้ทำงานเข้มแข็ง รู้เหน็ดเหนื่อยแล้วยังถูกว่าทำไม่ดี ทรงเตือนระวังการใช้เงินดูแลให้ดี ไม่ให้บ้านเมืองต้องล่มจม "ชท."งัดข้อ"กลุ่มเนวิน" เช่ารถเมล์เอ็นจีวีอีกรอบ กก.ชุด เสธ.หนั่นให้เช่าแค่ 4 พันคัน อ้างมากกว่านั้นไม่คุ้ม ต้องจอดทิ้งเฉยๆ หลังชั่วโมงเร่งด่วน เตรียมชงให้ที่ประชุม ครม.เคาะ 2 ก.ย.นี้ ขณะที่"ทรงศักดิ์"ยืนยันจะเสนอ ครม.เช่า 6 พันคัน เหมือนเดิม
เมื่อเวลา 17.31 น. วันที่ 20 สิงหาคม พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทยและคณะกรรมการบริหารสมาคมธนาคารแห่งประเทศไทย เข้าเฝ้าฯ ทูลเกล้าฯถวายเงิน ซึ่งเป็นรายได้ส่วนเกิน จากการเปิดให้ประชาชนแลกซื้อธนบัตรที่ระลึกเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ชนิดราคา 16 บาท ในราคาแลกซื้อ 100 บาท เพื่อทรงใช้สอยตามพระราชอัธยาศัย
โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำรัสว่า ขอขอบใจท่านที่ได้ทำงานทำอย่างเข้มแข็ง แล้วก็ทำให้เป็นการฉลองชีวิตที่ผ่านไป ตอนนี้ก็ต้องขอบใจที่ท่านเพราะว่าท่านได้ทำงานมากๆ ในงานของการธนาคาร ขอให้งานธนาคารที่ท่านทำเป็นผลสำเร็จ เป็นผลดี แต่ก่อนนี้เงิน 10 บาทก็รู้สึกว่าเป็นเงินมาก เดี๋ยวนี้สิบบาท ร้อยบาท พันบาท หมื่นบาทก็ยังน้อย มันเป็นเรื่องที่จะบอกว่าทำไมมันน้อย แม้จะล้านบาทก็น้อย เพราะเมื่อครั้งไปเฝ้าสมเด็จพระพันวสา ก็เลยไปขอท่าน ตอนนั้นขอเงิน 1 บาท ท่านก็ให้แล้วก็ขอ 5 บาทท่านก็ให้
ต่อมาขอท่าน 10 บาทท่านก็ยังให้ ให้เรามาตั้งนานแล้วสิบบาท ขอ 50 บาทท่านบอกไม่มี ถามว่า 100 บาทมีไหม ท่านบอกมีแต่ให้ไม่ได้ ถ้าให้ ท่านจะตัดบัญชีที่มีอยู่ท่านไม่ให้ ท่านให้เงินของเรา ถ้าอยากได้จะใช้เท่าไรก็ได้ ก็หมายความว่าจะสอนว่าเราไม่ควรจะถลุงเงิน แม้จะ 100 บาทท่านไม่ให้ แต่ของท่านมาวันนี้เป็นพันบาทก็ให้ ร้อยบาท แสนบาท ล้านบาทท่านก็ให้ ร้อยล้านบาทท่านก็ให้ ก็หมายความว่า สมัยนี้เปลี่ยนไป แต่ก่อนร้อยบาทท่านไม่ให้ แต่สมัยนี้ร้อยพัน หมื่น แสนท่านก็ให้ ก็ต้องขอบใจท่านที่มีน้ำใจ เพราะสมเด็จย่า สมเด็จพระพันวสาบอกให้เดี๋ยวก็หมด หมดแล้วก็ไม่มีให้แล้ว
ตอนนี้ท่านให้มาเป็นจำนวนมาก ท่านไม่บอกว่าไม่มี แต่ก็หวังว่าท่านบริหารได้พันล้าน หมื่นล้าน ขอให้ท่านทั้งหลายบริหารได้ไม่ให้หมดไป เพื่อที่จะให้ประเทศชาติมีเงินใช้ ขอบใจท่านที่มีความตั้งใจที่จะบริหารเงินของชาติให้ไม่หมด ให้มีใช้ ในการนี้ก็ขอให้ท่านได้ทำสำเร็จ ขอบใจท่านที่เหน็ดเหนื่อยในเรื่องการเงินนี้เป็นงานหนัก
ขอให้ทุกท่านได้สามารถปฏิบัติงานในด้านการเงินให้เรียบร้อย ไม่ให้บ้านเมืองต้องล่มจม ซึ่งเดี๋ยวนี้ใกล้ล่มจมแล้ว เพราะการใช้เงินไม่ระวังท่านก็ระวังให้ ก็ขอบใจที่ท่านระวังการใช้เงินระหว่างการดำเนินกิจการต่างๆ ด้านการเงิน ขอให้ท่านมีความสำเร็จในการบริหารการเงินของประเทศชาติ
ขอบใจท่านที่เหน็ดเหนื่อยในงานการนี้ รู้ว่าท่านเหน็ดเหนื่อย รู้ว่าท่านลำบากใจเพราะว่าท่านเหน็ดเหนื่อยแล้วยังถูกว่าว่าทำไม่ดี ทำไม่ถูกต้อง แต่ขอให้ท่านทำถูกต้อง ขอบใจท่านทุกคนที่มาในวันนี้และที่ได้ทำงานอย่างเข้มแข็งเพื่อให้ชาติบ้านเมืองมีเงินใช้ มีการเบิกคลังได้ดี ใครบริหารการคลังก็ควรจะรู้ว่าเป็นสิ่งที่สำคัญของชาติบ้านเมือง ขอบใจทุกท่านที่ปฏิบัติงานเพื่อความสำเร็จของชาติบ้านเมือง ขอให้ท่านมีความสุข ความสบายในงานการ มีความสำเร็จ
ที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาแผนการปรับปรุงโครงสร้าง การบริหารงานองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และการจัดหารถโดยสารปรับอากาศที่ใช้ก๊าซเอ็นจีวี จำนวน 6,000 คัน ที่มี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม มีมติให้เช่ารถโดยสารปรับอากาศเพียง 4,000 คัน ลดลง 30% ทำให้วงเงินค่าเช่าระยะเวลา 10 ปี ลดลง 43,000 ล้านบาท จากมูลค่าเดิม 1.1 แสนล้านบาท ขณะที่นายทรงศักดิ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลูกพี่ลูกน้องนายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งเข้าร่วมประชุมด้วย ระบุว่า กระทรวงคมนาคมจะยังคงเสนอ ครม.ให้เช่ารถเมล์ 6 พันคันเหมือนเดิม
นายอรรคพล สรสุชาติ รองเลขานุการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุม ว่า สาเหตุที่ลดจำนวนเช่ารถโดยสารปรับอากาศ เนื่องจากหากไม่ใช่ชั่วโมงเร่งด่วน จะทำให้เหลือรถเปล่าจอดโดยไม่ใช้งานถึง 2,000 คัน ทำให้สิ้นเปลืองเงินค่าเช่าโดยใช่เหตุและไม่คุ้มค่าการลงทุน ทั้งนี้ ในชั่วโมงเร่งด่วนนั้น มีแผนที่จะนำรถปรับอากาศของ ขสมก.ที่ไม่ใช้งานจำนวน 1,700 คันมาวิ่งเสริมแทน เชื่อว่าจะทำให้สามารถบริการผู้โดยสารได้ครอบคลุมทุกเส้นทาง โดยมีระยะเวลาหรือความถี่ในการปล่อยรถที่ประมาณ 5 นาทีต่อคัน
"วงเงินที่ลดลงได้นั้นส่วนหนึ่งมาจากจำนวนเช่าที่ลดลง อีกส่วนมาจากการไปปรับปรุงระบบจีพีเอสและระบบอี-ทิคเก็ต ที่เดิมครอบคลุมรถร่วมบริการด้วย แต่ที่ประชุมให้ทำเฉพาะรถ ขสมก.เท่านั้น ทำให้ลดค่าใช้จ่ายลงได้ 5,000 กว่าล้านบาท เมื่อรวมกับจำนวนรถที่ลดลงจึงสามารถลดลงได้กว่า 4 หมื่นล้านบาท" นายอรรคพล กล่าว
นายอรรคพลกล่าวว่า สำหรับอู่รถจอด ที่ประชุมเห็นว่าควรจะดำเนินการในลักษณะให้ ขสมก.เป็นผู้เช่าซื้อ โดยให้บริษัทเอกชนที่ชนะการประมูลเช่ารถเป็นผู้ชำระเงิน เพราะเมื่อผ่อนชำระเงินหมด ที่ดินจะตกเป็นของ ขสมก. เหตุที่ดำเนินการในลักษณะดังกล่าว เนื่องจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ผู้วางท่อก๊าซสำหรับเป็นเชื้อเพลิงรถเมล์ระบุว่า หากต้องวางท่อก๊าซในที่ดินเอกชนจะต้องมีสัญญาเช่าตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป ไม่ใช่เพียง 10 ปีซึ่งเป็นระยะเวลาเช่ารถ ไม่เช่นนั้นจะไม่คุ้มทุน ส่วนราคาที่ดินที่ ขสมก.เสนอมาเดิมที่ 5,920 ล้านบาท ถือว่าสูงเกินไป คณะกรรมการได้ศึกษาแล้วพบว่า ราคาน่าจะอยู่ที่ 4,800 ล้านบาท ซึ่ง ขสมก.ต้องกลับไปคิดด้วย
"การเปิดประมูลจะต้องทำแบบอี-ออคชั่น ซึ่ง ขสมก.จะต้องไปดำเนินการให้มีความโปร่งใส ขณะเดียวกันสัญญาเช่าจะต้องดูให้รัดกุม ไม่ผูกมัดตัวเอง และสามารถยืดหยุ่นได้ คือสามารถทบทวนสัญญาได้เป็นระยะๆ อย่างน้อย 3 ปีครั้ง โดยดูความจำเป็นของการใช้เป็นหลัก และจะนำข้อเสนอของ สศช.เข้า ครม.อย่างเร็วที่สุดในวันที่ 2 กันยายนนี้ ส่วน ครม.จะเลือกตามข้อเสนอของกระทรวงคมนาคมหรือคณะกรรมการก็อีกเรื่อง"
นายอำพน กิตติอำพน เลขาฯ สศช. กล่าวว่า จะสรุปผลการประชุมเสนอให้ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ภายในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ เพื่อนำเสนอ ครม.อีกครั้ง สำหรับค่าปรับปรุงรถ ขสมก.จำนวน 1,700 คันนั้น คาดว่าจะใช้เงินไม่มาก เพราะ ขสมก.แจ้งว่าจะมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาคันละประมาณ 1,800 บาท และมีค่าจัดทำระบบอี-ทิคเก็ต อีกคันละประมาณ 1,000 บาท โดยรถ ขสมก.นี้จะวิ่งเฉพาะในเส้นทางที่จราจรไม่ติดขัด เพื่อประหยัดน้ำมัน ส่วนค่าเช่ารถต่อคันต่อวันนั้นขึ้นกับผู้ประมูลว่าประมูลที่เท่าไหร่ จะเท่าเดิมที่ 5,100 บาทต่อคันต่อวันหรือต่ำกว่า นอกจากนี้ ขสมก.จะต้องจัดทำแผนบริหารความเสี่ยงมานำเสนอด้วย
นายทรงศักดิ์ เกษมทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (ลูกพี่ลูกน้องนายเนวิน ชิดชอบ) กล่าวว่า ข้อสรุปในที่ประชุมเป็นเพียงความเห็นหนึ่งที่จะเสนอ ครม.เท่านั้น ครม.จะต้องตัดสินเองว่า จะเลือกแนวทางใด ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมยังเสนอให้เช่ารถโดยสารปรับอากาศจำนวนเท่าเดิมที่ 6,000 คัน ส่วนค่าเช่ารถจะต้องไม่เกิน 5,100 บาทต่อคันต่อวัน และยอมรับว่าที่ประชุมเป็นห่วง จึงต้องการลดวงเงินโครงการที่มีมูลค่าสูงเกินไป
แหล่งข่าวจากที่ประชุมระบุว่า ระหว่างการประชุม ตัวแทนจาก ขสมก.ยืนยันหลักการเดิมคือต้องการให้เช่ารถจำนวน 6 พันคัน ขณะที่ทีมงานของ พล.ต.สนั่น โดยนายอรรคพลได้รายงานข้อมูลที่ศึกษามา พร้อมเสนอว่า ควรต้องมีการปรับลดจำนวนรถเมล์ลงมา และนำรถเก่าของ ขสมก.มาปรับปรุงบางส่วน ซึ่งนายทรงศักดิ์ที่เข้าร่วมประชุมนั่งฟังอยู่ด้วย และไม่มีข้อโต้แย้ง กระทั่งในที่สุดที่ประชุมจึงมีความเห็นตรงกัน ตามข้อสรุปดังกล่าว และจะเสนอที่ประชุม ครม.เพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น
"ในที่ประชุมมีการตกลงเรียบร้อยให้เป็นมติที่ประชุมว่า จะนำแนวทางปรับลดจำนวนรถเช่าดังกล่าวเสนอ ครม. แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมพอออกมาจากห้องประชุมกลับมีความเห็นออกมาอีกอย่าง หากกระทรวงคมนาคม ยังยืนยันตามข้อเสนอเดิมของตัวเอง ก็เป็นเรื่องของกระทรวงคนาคมจะต้องเสนอที่ประชุม และอธิบายเหตุผลความจำเป็นเอาเอง" แหล่งข่าวระบุ
คัดลอก จาก เวปไซต์ คณะเศรษฐศาสตร์ นิด้า